“คุณเป็นใครเหรอครับ” ธีวสุถามด้วยแววตาสงสัย
“ฉันเป็นลูกผู้ใหญ่บ้านที่นี่” หญิงสาวพยายามบิดขี้เกียจเพื่อเรียกความกระฉับกระเฉง เล่นเอาชายหนุ่มลอบยิ้มด้วยความเอ็นดู เพราะเธอดูเหมือนเด็กมากตอนนี้
“แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ชายหนุ่มยังเอ่ยถามหญิงสาวต่อ
“ฉันไปเจอคุณนอนสลบอยู่ที่หาด ฉันก็เลยให้พ่อมาตามหมอ แล้วพวกเราก็พาคุณมาที่นี่” หญิงสาวปล่อยให้เขาถามในสิ่งที่เขาสงสัย เมื่อเขาถามเธอพอแล้ว เธอจะเป็นฝ่ายถามเขาบ้าง
“ขอบคุณมากนะครับ ที่คุณช่วยชีวิตผม” ชายหนุ่มกล่าวด้วยแววตาจริงจัง หากว่าเขาไม่ได้ผู้หญิงคนนี้เขาคงเป็นศพไปแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันแค่ช่วยคุณเพราะมนุษยธรรมเท่านั้น ว่าแต่คุณเถอะ คุณชื่ออะไร เพราะเราไม่เห็นเอกสารอะไรที่จะยืนยันตัวคุณได้เลย เราเลยไม่สามารถติดต่อญาติของคุณได้” หญิงสาวอธิบายยาวเหยียด
“ผมชื่อธีวสุ เรียกผมว่าธีก็ได้” ชายหนุ่มยิ้มให้หญิงสาว ถึงแม้ว่ายิ้มนี้จะเต็มไปด้วยความอ่อนเพลีย แต่มันไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาบนใบหน้าชายหนุ่มลดลงแม้แต่น้อย
“ฉันชื่ออโรชา หรือเรียกฉันว่าทรายก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มอย่างมีไมตรีตอบกลับชายหนุ่มเช่นกัน
“ว่าแต่ที่นี่มีโทรศัพท์มั้ยครับ ผมต้องการติดต่อญาติ” ชายหนุ่มนึกขึ้นมาได้ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อวาน มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน เขาต้องติดต่อทนายสัญชัย ซึ่งเป็นคนสนิทของเขา และเป็นเพียงคนเดียวที่เขาไว้ใจ เขาต้องการรู้ว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังการปองร้ายเขาเมื่อวาน
“มีค่ะ แต่ต้องไปขอคุณหมอดูนะ เดี๋ยวฉันไปบอกเขาให้” หญิงสาวอาสาเดินออกไปบอกหมอเวทิศ เพราะเธอก็ต้องการติดต่อญาติให้เขาเช่นกัน เธอจะได้ส่งเขากลับฝั่ง
หลังจากที่หญิงสาวหายไปสักพัก เธอก็กลับมาพร้อมกับโทรศัพท์ส่วนตัวของหมอเวทิศ อโรชาส่งโทรศัพท์ให้เขา ก่อนที่เขาจะกดโทรหาทนายสัญชัย เมื่อทนายสัญชัยรู้ว่าชายหนุ่มมีชีวิตอยู่ เขาก็ดีใจเป็นอย่างมาก เขากำลังสงสัยว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการปองร้ายชายหนุ่ม นั่นก็คือคุณหยาดพิรุณ ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของธีวสุนั่นเอง
เมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้นเขาก็ผิดหวังเป็นอย่างมาก เขาไม่อยากจะเชื่อว่าอาที่เขาเคารพมาตลอด จะทำเรื่องแบบนี้ได้ ความเสียใจมันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกจุกเจ็บในหัวใจเป็นอย่างมาก เพราะคุณหยาดพิรุณคือญาติเพียงคนเดียวที่เขาเหลืออยู่ แต่เธอกลับคิดร้ายหมายเอาชีวิตเขาได้