วาคิมมองตามหลังเมลดาด้วยความโกรธแค้น เขาไม่คิดว่าจะมาเจอหญิงสาวในสถานที่แบบนี้เลย เพราะตอนที่คบกับเขาเมลดาไม่เคยเที่ยวกลางคืน ไม่เคยดื่มเหล้าสักนิด อีกทั้งหญิงสาวยังพูดจาเรียบร้อยแต่เมลดาที่เขาเจอวันนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่วาคิมกลับรู้สึกชอบเมลดาคนนี้มากกว่าคนเดิมเมื่อหกปีก่อนอีกหลายเท่า
แต่สิ่งที่เขายังหนักใจก็คือเธอมีครอบครัวไปแล้ว ความคิดที่จะเข้าไปแทรกกลางให้ครอบครัวของเธอแตกแยก มันถูกล้มเลิกไปเมื่อเห็นว่าเมลดานั้นรักครอบครัวของตนเองมากแค่ไหน แต่สมองอีกด้านก็สั่งให้เขาทำตรงกันข้าม เมื่อเจอเธอออกมาเที่ยวโดยทิ้งให้สามีและลูกอยู่ที่บ้าน บางทีครอบครัวของเธอคงไม่ใช่ครอบครัวที่อบอุ่นนักและมันคงไม่ผิดอะไรถ้าเขาจะทำให้เมลดาหันมามองเขาอีกครั้ง
วาคิมไม่สนใจหรอกว่าหญิงสาวจะแต่งงาน มีสามีและมีลูกเพราะยังไงเขาก็คือผู้ชายคนแรกของเมลดา
ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องน้ำจัดการกับความรู้สึกของตัวเองอยู่นานก่อนจะกลับขึ้นไปยังโซนวีไอพีชั้นสอง ซึ่งวันนี้เขาพาผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งดื่มแก้เครียด
“พี่คิมไปนานเลยนะคะ”
“หวานกำลังจะลงไปตาม”
“พอดีพี่เจอเพื่อนก็เลยคุยนานไปหน่อย”
“พี่คิมขา คืนนี้หวานขอไปค้างกับพี่คิมได้ไหมคะ พรุ่งนี้เป็นวันหยุด หวานไม่อยากกลับไปค้างที่หอค่ะ”
“เราเคยคุยเรื่องนี้กันแล้วนะหวาน พี่ไม่ชอบให้ใครไปที่คอนโดคอนโด”
“พี่คิมจะยกเว้นหวานสักคนไม่ได้เหรอคะ เรารู้จักกันมานานแล้วหวานก็มีพี่คิมแค่คนเดียว”
“มันไม่ได้อยู่ที่ว่าหวานมีพี่แค่คนเดียวหรอกแต่พี่ไม่ชอบให้ใครเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของพี่แค่นั้นเอง” เขาอธิบายให้เธอฟังอีกครั้ง
“หวานไม่ชอบนอนที่โรงแรมเท่าไหร่นะคะให้หวานไปค้างด้วยนะ หวานอยากตื่นนอนมาแล้วเจอพี่คิมในตอนเช้า” เพราะทุกครั้งวาคิมจะทิ้งให้เธอนอนอยู่ที่โรงแรมส่วนตัวเขาก็จะขับรถกลับบ้านหรือไม่ก็ไปค้างที่คอนโดมิเนียม
“แต่ก่อนหวานไม่เคยพูดหรือบ่นเรื่องนี้เลย แล้วทำไมวันนี้ถึงพูดมันขึ้นมา”
“หวานก็แค่รู้สึกว่าเราสองคนน่าจะเป็นได้มากกว่าคู่นอน”
“หวานกำลังทำในสิ่งที่พี่เคยบอกแล้วว่าไม่ต้องการ”
“แต่หวานรักพี่นะคะ หวานอยากเป็นแฟนพี่จริงๆ”
“แต่พี่ยังไม่พร้อมจะมีใครหรอกหวาน”
“เอาอะไรมาบอกว่าไม่พร้อมคะ พี่คิมมีบ้านมีรถมีบริษัทมีหน้าที่การงานที่ดีแล้วแบบนี้พี่คิมยังไม่พร้อมจะมีครอบครัวอีกเหรอคะ” น้ำหวานไม่เข้าใจเลยว่าผู้ชายคนนี้ยังจะรออะไรอีกเพราะเขาก็เพียบพร้อมไปทุกด้านอยู่แล้ว
“พี่ไม่ได้หมายถึงสิ่งของนอกกายหรอกนะหวาน พี่หมายถึงข้างในใจของพี่ที่ยังไม่พร้อมจะมีใคร”
“พี่ยังลืมคนรักเก่าไม่ได้เหรอคะ”
“หวานรู้เรื่องคนรักเก่าของพี่ด้วยเหรอ” วาคิมแปลกใจเพราะเขาจำได้ว่าไม่เคยเล่าให้เธอฟัง
“ก็เพื่อนพี่คิมนั่นแหละค่ะที่เล่าให้หวานฟังเขาบอกว่าพี่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งทิ้งไป แต่นั่นมันก็ผ่านมานานแล้วนะคะ พี่คิมไม่คิดจะลืมเขาเลยเหรอ”
“ถ้าหวานจะพูดเรื่องนี้กับพี่อีก พี่ว่าหวานกลับไปเถอะพี่ไม่อยากคุย”
“หวานขอโทษค่ะพี่คิม หวานจะไม่พูดถึงคนอื่นอีกแล้ว พี่คิมยกโทษให้หวานนะคะ” น้ำหวานรีบเข้ามาซบแผงอกของเขาอย่างประจบมือเล็กของเธอลูบไล้ไปตามกล้ามเนื้ออย่างเอาใจ เธอกลัวว่าวาคิมจะโกรธไล่เธอกลับเพราะถ้าเป็นอย่างงั้นมันคงไม่ดีกับเธอแน่ๆ เนื่องจากตอนนี้เธอต้องการเงินจำนวนหนึ่งไปจ่ายค่าหอพัก
“พี่คิมดื่มหน่อยนะคะ” หญิงสาวส่งแก้วเหล้าให้เขาอย่างประจบ วาคิมมองหน้าหญิงสาวที่เขาเรียกมาเอ็นเตอร์เทนอยู่เป็นประจำแล้วยิ้ม เขารู้ดีว่าที่เธอเอาใจเขาแบบนี้ก็เพราะต้องการเงินและเขาก็ให้เธออย่างคุ้มค่าทุกครั้งที่เรียกออกมา
“หวานเคยคิดไหมว่าเรียนจบแล้วจะทำอะไร”
“หวานยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยค่ะ อีกตั้งสองปีกว่าจะเรียนจบบางทีเรียนจบแล้วหวานอาจจะไปสมัครงานที่บริษัทของพี่คิมก็ได้นะคะ”
“เรื่องไปทำงานที่บริษัทพี่ไม่ห้ามหรอก ขอแค่เข้าไปสมัครให้มันถูกต้อง แต่พี่ว่าเราอย่าพูดเรื่องนี้กันเลยนะมันอีกตั้งสองปีอย่างที่หวานว่านั่นแหละ ตอนนี้พี่มีงานอย่างหนึ่งให้หวานทำ”
“งานอะไรคะ”
“หวานเสน่ห์ให้ผู้ชายคนหนึ่งหลง งานง่ายๆ แบบนี้หวานทำได้ไหมล่ะ”
“ไม่ค่ะหวานไม่อยากทำ”
“ทำไมล่ะ”
“หวานมีพี่คิมอยู่แล้วหวานไม่อยากไปหว่านเสน่ห์ให้ใครหรอกค่ะ”
“หวานจะช่วยพี่ไม่ได้เลยเหรอ พี่ไม่ได้ใช้ให้หวานทำฟรีๆ พี่มีค่าจ้างให้หวานด้วย ถือว่าช่วยพี่นะ” วาคิมปรับน้ำเสียงให้น่าฟังมากขึ้นเพราะกลัวว่าเธอจะไม่รับทำงาน
หญิงสาวมีท่าทางคิดหนักเพราะ เธอมีความจำเป็นต้องใช้เงินและถ้าได้เงินมาสักก้อนการใช้ชีวิตของเธอก็น่าจะสะดวกสบายมากขึ้น อีกอย่างวาคิมก็อ้อนขนาดนี้มีหรือเธอจะไม่ยอมทำให้เขา
“แล้วหวานต้องทำยังไงบ้างคะ” เธอยงไม่ตอบรับในทันทีเพราะอยากจะรู้ว่างานมันยากแค่ไหนเพื่อจะเรียกเงินค่าจ้างให้เหมาะสมกับงาน
“หวานก็แค่เข้าไปตีสนิทเขา ทำให้เขาหลงหวานแค่นั้นเอง ง่ายมาก สวยๆ และมีเสน่ห์อย่างหวานพี่ว่าใช้เวลาไม่นานงานก็คงสำเร็จ” วาคิมพยายามหว่านล้อมเพราะไม่อยากไปจ้างคนอื่น
“ถ้าหวานไปทำงานนั้น แล้วหวานกับพี่คิมจะยังเจอกันอยู่ไหมคะ” น้ำหวานรู้สึกหลงรักผู้ชายคนนี้และกลัวว่าเขาจะไม่เรียกเธอออกมาหาอีก
“เราอาจเจอกันน้อยลงแต่ แต่พี่รับรองว่าเงินค่าจ้างที่ได้จะมากกว่าเงินที่หวานออกมาเจอพี่”
“ถ้าพี่คิมให้เงินเยอะ หวานคิดว่างานมันคงยากแน่ๆ เลยค่ะ วันขอดูหน้าผู้ชายคนนั้นก่อนได้ไหมคะ”
แม้อยากจะรับงานเพราะเงินดีแต่เธอก็ขอดูหน้าผู้ชายที่เขาให้ไปหว่านเสน่ห์เสียก่อน ถ้าคนที่เธอต้องไปทำงานด้วยอ้วนลงพุงหรือหน้าตาน่าเกลียดหญิงสาวก็คิดว่าจะโก่งราคากับวาคิมอีกสักนิด
“คนนี้ไง” วาคิมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองเปิดภาพถ่ายของมาวินที่เพื่อนของเขาบังเอิญเจอแล้วถ่ายคู่กันเมื่อเดือนก่อนให้กับน้ำหวานดู
“โอ้โห เขาหล่อมากเลยนะคะพี่คิมหล่อพอๆ กับพี่เลย”
“ตกลงจะรับงานของพี่ไหมล่ะ”
“พี่ให้เขาจังน้ำหวานเท่าไหร่คะ”
“ก้อนแรกให้สองแสน ถ้าหวานทำสำเร็จพี่จะให้อีกสองแสน”
“แต่ที่หวานจะเข้าหาคนระดับนี้หวานคงแต่งตัวธรรมดาไม่ได้หวานขอค่าใช้จ่ายเพิ่มได้ไหม” น้ำหวานพอจะมองออกว่างานนี้วาคิมทุ่มไม่อั้น หญิงสาวเลยคิดจะขอเพิ่มสักนิด
“พี่ให้เพิ่มอีกสองแสน รวมเป็นทั้งหมดหกแสนตกลงรับงานไหมล่ะ”
“ใครไม่รับก็บ้าแล้วค่ะ แต่พี่คิมมีระยะเวลาให้หวานไหม ว่าต้องทำเสร็จตอนไหน”
“เร็วที่สุดภายในหนึ่งเดือน”
“เดือนเดียวเองเหรอคะ”
“พี่ว่าหนึ่งเดือนมันก็นานพอแล้วนะ หรือคิดว่าตัวเองทำไม่ได้พี่จะได้ไปจ้างคนอื่น”
“ใจเย็นสิคะพี่คิม หวานคิดว่าหวานทำได้ค่ะ” เงินมากขนาดนั้นยังไงน้ำหวานก็ต้องรับปากไปก่อนเพราะถ้าเขาไปจ้างคนอื่นเธอคงเสียดายมากแน่ๆ
“แต่ถ้าหนึ่งเดือนว่าจ้างละลดลงเดือนละสองหมื่นนะ” วาคิมบอกข้อเสนอเพิ่มเติม
“หวานขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ไหมล่ะคะว่าเขาเป็นใครทำงานอะไรและชอบไปที่ไหนบ้าง หวานจะได้อาโอกาสไปเจอเขา”
“พรุ่งนี้พี่จะให้เลขารวบรวมข้อมูลส่งให้ก็แล้วกัน”
“ได้ค่ะ”
“ระหว่างที่หวานทำงานนี้พี่ขอให้เราอย่าเจอกัน และอย่าให้เขารู้เป็นอันขาดว่าหวานกับพี่เคยรู้จักกัน ถ้าเขารู้ทุกอย่างเป็นอันยกเลิก”
“พี่คิมวางใจได้เลยค่ะ หวานจะไม่ทำให้พี่คิมผิดหวัง แต่งานของหวานยังไม่ได้เริ่มคืนนี้ใช่มั้ยคะ”
“ใช่สิ”
“งั้นคืนนี้หวานขอรับงานพี่คิมก่อนตกลงไหม แต่คืนนี้หวานไม่เอาค่าตัวก็ได้ค่ะ” เมื่อคิดถึงเงินก้อนใหญ่ที่จะได้น้ำหวานเลยไม่คิดจะรับเงินจากเขา