ในชีวิตการเรียนของหล่อนนั้น การะบุหนิงไม่มีเพื่อนมาก ถึงหล่อนจะนิสัยดี น่ารัก และน่าคบหามากเพียงใด ทว่าหล่อนค่อนข้างเก็บตัว เพื่อนสนิทที่สุดของหล่อนจึงมีเพียงทัศนัยที่รู้ตื้นลึกหนาบางทุกอย่างดี คนอื่นๆ ในรุ่นนั้นหล่อนก็รู้จักแต่ไม่กล้าทำตัวสนิทสนมกับใคร ด้วยเกรงกลัวว่าตนจะทำผิดคำสั่งของคุณหญิงด้วยการที่เพื่อนๆ จะล่วงรู้ว่าหล่อนคือลูกกาฝากของกษิดิษย์
ทัศนัยที่ตอนแรกตั้งใจจะไปเรียนต่อปริญญาโท ณ ต่างประเทศจึงยังตัดสินใจยังไม่ไปเพราะห่วงว่าเพื่อนสนิทจะเหงา ชายหนุ่มเลือกที่จะเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจในประเทศ แต่มีโครงการอยู่แล้วว่าจะเรียนต่อใบที่สอง ณ ต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้เวลานั้นของเขาก็ใกล้เข้ามาแล้ว ทัศนัยจึงออกจะห่วงเพื่อนสนิทอย่างการะบุหนิงเป็นพิเศษนัก
ถึงเขาจะรู้ดีว่าการะบุหนิงไม่ได้เป็นคนอ่อนแอ แต่หล่อนชอบที่จะยอมผู้คนเพื่อให้เรื่องราวต่างๆ นั้นจบลง แม้ท้ายสุดจะเป็นการทำร้ายตัวเองก็ตาม...
“นั่งก่อนสิจ๊ะแก้ว”
ทศวรรษผายมือให้การะบุหนิงที่เข้ามาไหว้เขาอย่างนอบน้อม ชายหนุ่มส่งยิ้มปรานีให้แก่คนที่ดูก็รู้ว่าหล่อนออกจะสั่นและตื่นเต้นพอสมควร ทว่าก็ยังพยายามเก็บอาการตนเองและวางมาดขึงขังจริงจัง
“ขอบคุณค่ะพี่ทีม”
“เป็นยังไงบ้างฮึเรา พี่ไม่เจอหน้าหลายวันเลย” ทศวรรษทักเพื่อนสนิทของน้องชาย ทัศนัยมักมีเรื่องการะบุหนิงมาปรารภบนโต๊ะอาหารเสมอว่าเพื่อนเขาน่าสงสาร และช่างน่าขัดใจนักที่ไม่ยอมสู้คนเอาเสียเลย โดยเฉพาะในยามที่ถูกกาสะลองรังแก
“ก็ดีค่ะ แก้วสบายดี” หญิงสาวตอบรับพร้อมกับยิ้มให้แก่พี่ชายของเพื่อน
พี่ทีมหรือทศวรรษในสายตาหล่อนนั้นเป็นบุรุษหนุ่มรูปร่างออกจะโปร่งเพราะไม่ค่อยได้ทำงานใช้กำลัง ทว่าชายหนุ่มอ่อนโยนและใจดี แต่ก็มีความเด็ดขาดอยู่ในตัวแถมออกจะเข้มงวด มิฉะนั้นเขาคงปกครองน้องชายแสนซนอย่างทัศนัยไม่อยู่แน่ๆ
ในด้านรูปร่างหน้าตา ทศวรรษก็หน้าตาดีไม่แพ้น้องชายของตนเอง ชายหนุ่มมีผิวขาวเพราะไม่ค่อยได้ออกแดดมากนัก ใบหน้าเรียวค่อนไปทางสวย จมูกของชายหนุ่มโด่งตรง คิ้วเข้มตรงและดวงตาเรียวอ่อนโยน ส่งให้ทศวรรษเป็นที่หมายปองของหญิงสาวทั่วไปที่ได้พบเห็น
“แล้วนี่คิดยังไงถึงอยากทำงานฮึเรา” ชายหนุ่มถามอย่างคนที่รู้เรื่องของหญิงสาวตรงหน้าดีพอสมควร ซึ่งการะบุหนิงก็รู้และไม่คิดหลบสายตาหรือปิดบังอะไรอีกฝ่าย
“ก็...พี่ทีมน่าจะพอรู้ข่าวของที่บ้านแก้วแล้วนะคะ นั่นแหละค่ะสาเหตุ” หญิงสาวบอก...ทว่าไม่บอกอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญคือหล่อนแลกกับอิสรภาพนี้ด้วยการแต่งงาน
“อืม...” ทศวรรษได้แต่รับคำในลำคอ แน่นอนว่าเรื่องการเปลี่ยนมือผู้บริหารเพราะการขายทอดกิจการใช้หนี้ของพีระนันท์นั้นออกจะเป็นข่าวดังอยู่สักหน่อย
“นี่ค่ะ” เห็นอีกฝ่ายเงียบหญิงสาวก็ยื่นแฟ้มที่เอาวางไว้บนตักส่งให้แก่เขา “แฟ้มเอกสารของแก้วนะคะ ในนั้นมีทรานสคริปต์ผลการเรียน ทราสคริปต์กิจกรรม และเอกสารอื่นๆ ที่แก้วคิดว่าควรใช้ แก้วนำมาให้พี่ทีมพิจารณาค่ะว่าคุณสมบัติแก้วพอจะรับเข้าทำงานหรือเปล่า”
หญิงสาวเอ่ยกับเพื่อนพี่ชายตรงๆ แม้ไม่สบายใจที่จะใช้เส้นสายเท่าใดนัก ทว่าหล่อนคิดว่าในเวลานี้มันจำเป็นสำหรับหล่อน
การจะโบยบินไปจากบ้านพีระนันท์สิ่งแรกที่หล่อนควรจะทำคือการหางานทำให้มั่นคงเสียก่อน
ทศวรรษรับแฟ้มปกหนังสีดำนั้นมาถือไว้และไม่แม้แต่จะเปิดดูด้วยซ้ำ ชายหนุ่มส่งยิ้มขบขันให้แก่หญิงสาวก่อนจะตอบว่า
“สำหรับนิสิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งอย่างแก้ว แถมรู้นิสัยใจคอดี พี่รับโดยไม่ต้องดูอะไรด้วยซ้ำ มีแต่แก้วนั่นแหละจะทนการทำงานกับพี่หรือเปล่า” ตอนท้ายชายหนุ่มเย้ากลับอย่างอารมณ์ดี เรื่องอะไรเขาจะปล่อยให้โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดคนที่แอบพึงใจมานานหลุดมือไปง่ายดายกันเล่า
“พูดทีมก็พูดเกินไปค่ะ แก้วไม่เคยทำงานเลยนะคะ เรียนก็จบมาตั้งนานไม่แน่ตอนนี้แก้วลืมวิชาหมดแล้วมั้งคะ”
หญิงสาวแก้ตัวด้วยความเขินอาย รู้สึกทศวรรษชมหล่อนเกินไป หล่อนยังเป็นคนไร้ประสบการณ์ รู้ตัวเองดีว่าไม่อาจทำงานดีเทียบเท่าคนที่เคยมีประสบการณ์มาก่อนอยู่แล้ว
“ไม่หรอกน่า พี่เชื่อว่าแก้วหัวไว คงเรียนงานได้เร็ว นายแทคก็ชมแก้วให้พี่ฟังบ่อยๆ นะว่าแก้วเก่ง เขายังเสียดายความสามารถของแก้วเลยถ้าไม่ได้เอามาใช้”
“นายแทคหรือคะชมแก้ว” หญิงสาวถามเสียงสูง แกล้งทำตาโต “ไม่น่าเชื่อ ถ้าจริงๆ แล้วนายแทคนินทาแก้วพี่ทีมบอกตรงๆ เลยนะคะ แก้วว่าน่าเชื่อกว่ามาชมเยอะเลย” หญิงสาวแซวพี่ชายเพื่อนเล่น นั่นทำให้บรรยากาศรอบตัวของทั้งคู่เป็นไปด้วยความครื้นเครง ไม่เคร่งเครียดอย่างที่การะบุหนิงนึกกลัวแต่แรก
“พี่จะโกหกแก้วทำไมล่ะ ว่าแต่แก้วเถอะ คิดว่าพร้อมเริ่มงานได้เมื่อไหร่”