“หึ”
คราวนี้นายใหญ่ของฟีนิกส์ทำเสียงหยันในลำคอ ทว่าไม่มีทีท่าจะเชื่อถือแต่อย่างใด ทำให้การะบุหนิงชักร้อนใจขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกัน
“มิสเตอร์แมคไกวร์ พวกเราทำตามข้อตกลงของคุณแล้วทุกๆ อย่างนะคะ” หล่อนเอ่ยอ้าง
ครั้งนี้คีธถอนใจยาวด้วยความเบื่อหน่าย “กลับไปซะ” เขาไล่อีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ต้องรีบเอ่ยปากพูดต่อไปเมื่อนึกขึ้นได้ “อ้อ...หรืออยากได้เงิน เอาล่ะพวกนั้นจ้างเธอมาเล่นละครฉากนี้เท่าไหร่ ฉันให้มากกว่าหนึ่งเท่าแล้วรีบกลับไปก่อนที่ฉันจะโมโหมากกว่านี้”
เมื่อโดนไล่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า การะบุหนิงที่พยายามใจเย็นก็ชักจะโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว คีธ แมคไกวร์รับมือยากกว่าที่คิดมากมายนัก งานนี้ไม่ง่ายสำหรับคุณหญิงการะเกดเสียแล้วที่คิดจะลักไก่กับผู้ชายคนนี้ง่ายๆ
“ฉันไม่ได้เล่นละคร” หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง แล้วจึงพูดต่อไปด้วยทีท่าโมโหนิดๆ แต่ก็ยอมรับความจริงว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้อง “และคุณเดาถูก ฉันได้ค่าจ้างในการเปลี่ยนตัวกับน้องสาวของฉันในครั้งนี้ เป็นค่าจ้างที่ไม่มีใครหน้าไหนจ่ายแทนได้หรอกค่ะ”
ใช่...ค่าจ้างของหล่อน หากเป็นเมื่อก่อน แม้แต่เงินยังซื้อไม่ได้ แต่ในตอนนี้ เงินของผู้ชายคนนี้คือกุญแจที่กำลังไขกรงของหล่อน ให้หล่อนได้โบยบินไปสู่อิสรภาพ
ให้หล่อนได้หลุดจากสภาพของกาฝากและหนี้บุญคุณของ
พีระนันท์!
“เธอ...” คีธชักยิ้มไม่ออก ได้ยินหล่อนยอมรับตรงๆ เช่นนี้จึงอดไม่ได้ที่จะขุ่นเคืองใจ
การะบุหนิงไม่ใส่ใจท่าทางนั้นของเขา หญิงสาวมุ่งหวังแต่ว่าจะทำให้ชายหนุ่มเปลี่ยนใจเลือกหล่อนแทนที่กาสะลองให้ได้ ในเมื่อคุณสมบัติที่เขาต้องการในตัวของกาสะลองสองข้อ หล่อนก็มีครบเฉกเช่นเดียวกัน
“ฉันคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติทุกอย่างครบตามที่คุณต้องการ ถ้าไม่เชื่อขอให้คุณเชิญไปพิสูจน์ได้เพราะฉันไม่เคยโกหก”
เมื่อโดนท้าทายซึ่งๆ หน้า คนที่ตลอดมามีแต่คนยอมก้มหัวให้ก็ชักถึงจุดเดือดมากขึ้นทุกที คราวนี้เขากวาดตามองเรือนร่างอ้อนแอ้นที่ติดใจแต่แรกพบด้วยสายตาจาบจ้วงหยาบคาย ก่อนจะสบสายตากับหล่อนให้หญิงสาวรู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วกาย
“หน้าตาท่าทางเธอก็ดีนะ ฉันไม่คิดว่าจู่ๆ เธอก็อยากขายตัวเองให้กับคนที่เธอไม่รู้จัก”
คำพูดเรียบๆ ของเขาซ่อนนัยดูถูกมากมายนัก แต่สิ่งที่การะบุหนิงทำได้ก็มีเพียงแต่การยอมรับเท่านั้น เพราะอย่างไรชายหนุ่มก็พูดถูก
“ไม่มีใครอยากทำ แต่บางครั้งคนเราก็ต้องฝืนใจ”
“พูดได้ดี” อีกครั้งที่คีธแสยะยิ้ม เถียงหญิงสาวไม่ออก “แต่ฉันยังยืนยันคำเดิม มาทางไหนกลับไปทางนั้นซะ!” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงดังขณะที่ไล่หล่อนไป เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่เชื่อว่าหล่อนจะมีสายเลือดของพวกพีระนันท์อยู่ดี
“ไม่ค่ะ” การะบุหนิงปฏิเสธทันควันเช่นกัน “จนกว่าคุณจะตกลงรับฉันแทนที่คุณดอกปีบ” หล่อนยืนยันคำเดิม
คีธทำอะไรไม่ได้นอกจากตวาดเรียกหล่อนเสียงดัง ไม่เคยเจอใครที่ดื้อดึงเช่นหล่อนมาก่อน
“การะบุหนิง!”
เห็นว่าชักจะยั่วให้เขาโมโหมากขึ้นทุกทีๆ แล้ว การะบุหนิงจึงรวบรัดคำตอบ หาไม่ถ้ายืนเถียงกับเขาไปเรื่อยๆ จะไม่ได้บทสรุปอะไรเลย
“ฉันจะคิดว่าคุณตกลงแล้วนะคะ” หญิงสาวโมเมเข้าข้างตัวเอง “หากมีข้อสงสัยอะไรขอเชิญไปตกลงกับคุณหญิงการะเกดและคุณกษิดิษย์อีกครั้งแล้วกันค่ะ”
แต่คีธ แมคไกวร์หรือจะยอมตกลงไปในหลุมพลางตื้นๆ ของหล่อนได้ “ฉันไม่ได้พูดสักคำว่าตกลงและฉันออกจะแน่ใจว่าฉันพูดกับเธอเป็นภาษาไทย คิดว่าเธอคงจะฟังรู้เรื่องถ้าไม่โง่”
“แต่ถึงอย่างไร ทางเราก็ทำตามข้อตกลงทุกอย่างแล้วค่ะ” ให้ตายการะบุหนิงก็จะยืนยันคำนี้คำเดียว ทว่าหล่อนก็จำต้องรีบพูดต่อไปเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ถ้าคุณปฏิเสธก็ถือว่าเป็นทางคุณเองผิดสัญญาไม่ใช่เรา และข้อตกลงที่เคยทำเอาไว้ก็ถือว่าลุล่วงทั้งหมด คุณต้องชดใช้ให้เราเหมือนเดิมเพราะทางคุณผิดสัญญาเอง”
และคราวนี้หล่อนก็ทำให้คีธ แมคไกวร์โมโหอย่างแท้จริง
ชายหนุ่มครางเสียงต่ำในลำคออย่างไม่พอใจ สาวเท้าตรงไปหาหล่อนก่อนจะจับหญิงสาวที่ยืนทำท่าอวดดีในสายตาของเขากระชากหล่อนเข้าสู่อ้อมกอดของตนเองอีกครั้ง
พวกพีระนันท์ชักจะเล่นแง่กับเขามากเกินไปแล้วจริงๆ
“นี่เธอกล้าพูดกับฉันแบบนี้หรือการะบุหนิง”
“ดิฉันพูดไปตามที่คิดและตามที่มันควรจะเป็นค่ะ”
แม้จะหวั่นและกลัวกับการใกล้ชิดที่มากเกินขอบเขตนี้ ทว่าการะบุหนิงก็ยังคงปากแข็งอยู่ดี
“ดี...กล้าแบบนี้ฉันชอบ” คีธเค้นคำพูดด้วยความโมโห ท่อนแขนแข็งแรงรัดเอวหล่อนแน่นเข้า จนหญิงสาวรู้สึกได้ถึงเรือนร่างของหล่อนที่แนบชิดไปกับเขาตั้งแต่ต้นขาเรียวสวย หน้าท้องแบนราบจนไปถึงทรวงอกนุ่มที่บัดนี้แนบชิดกับอกแกร่งของเขา บดเบียดแนบชิดจนรู้สึกเจ็บ