“สวัสดีครับ คุณผึ้ง “ ตั้งแต่วันที่พบกันครั้งแรก ผ่านมา1เดือนแล้ว ทุกเช้าจะมีเบอร์ของเค้าโทรเข้ามา
“ค่ะ คุณคริณ “ เธอตอบกลับไปเช่นเดิมทุกครั้ง
“ผมถึงออฟฟิศแล้ว วันนี้มีบรีฟงานยาว คงยุ่งทั้งวัน แต่เลิกงานแล้ว จะโทรหานะครับ “
คนพูดเองเออเอง บอกกับผู้หญิงที่ตัวเองสนใจ แม้จะรู้ว่าผิด เพราะเธอมีเจ้าของแล้ว แต่เค้าก็ยังบอกกับตัวเองว่า เค้าโทรหาเธอในฐานะ เพื่อน รุ่นพี่ ก็เท่านั้นเอง
“ค่ะ ทำงานนะคะ “ หญิงสาวยังคงตอบคำเดิมเสมอไม่มีเปลี่ยน แน่คนที่อยากได้ยิน ก็ชื่นใจแล้ว
ภาพในอินสตราแกรมส่วนตัวของเธอ ลงภาพคู่กันกับสามีล่าสุด เมื่อปีก่อน ผ่านมาแล้วเกือบสิบห้าเดือน ที่เธอไม่ลงภาพคู่กับเค้าคนนั้น
งานแต่งงานที่เป็นงานครอบครัวของฝ่ายชาย ก็ไร้ภาพของภรรยาของเป็นเอก ทำให้หลายคนในแวดวงเดียวกัน ถามถึงเรื่องของคนทั้งสอง
“ตกลงยังไงหมอทอย ทำไมน้องผึ้งเค้าไม่ไปงานแต่งหมอ “ รุ่นพี่ถามเพราะความสงสัย
นายแพทย์หนุ่มอึดอัดใจที่จะตอบ เพราะเกรงใจหลายคนที่ถูกพูดถึง ทั้งพี่สะใภ้ และ พี่ชายเมีย
“อ้าว ไม่ต้องตอบ พยักหน้ากับส่ายหน้าแทนแล้วกัน “ คนอยากรู้เต็มที่ถามขึ้นมา
“เค้าทะเลาะกัน “ หมอส่ายหน้ารัวๆ
“เค้าเลิกกัน “ คราวนี้หมอเงียบไม่ตอบ ทำให้คนหลายคนนิ่งไปทันที ไม่ตอบคือคำตอบแล้ว
“งั้นขออีกที หย่าแล้วใช่ไหม” คริณนิ่งฟังคำตอบ เพราะอยากรู้ว่าเธอ ว่างหรือไม่ว่าง
นายแพทย์หนุ่มพยักหน้า แล้วบอกเสียงเบา
“เหยียบให้มิดเลย ไม่งั้นเมียผมเอาตาย “
คนกลัวเมียเน้นคำ เพราะคนในบ้านปิดกันให้มิด เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริง เกิดจากอะไร
แก้วเหล้าถูกยกขึ้นดื่มเพื่อกลบเกลื่อนรอยยิ้มในเมื่อเธอว่าง แล้วเค้าก็ชอบเธอเหลือเกิน เค้าจะไม่รออีกต่อไปแล้ว
“สวัสดีครับ น้องผึ้ง “ คริณโทรหาเธอทันที หลังจากออกมาจากร้านเหล้า
“สวัสดีค่ะ “ แม้จะรู้สึกถึงคำเรียกที่เปลี่ยนไปแต่ก็ไม่ได้ถาม
“พี่ อยากคุยด้วย เจอกันได้ไหมครับ “
เอสยูวีเลี้ยวเข้ามาจอดตรงหน้าซุปเปอร์ที่เปิดตลอด24ชั่วโมง คนที่รออยู่แล้ว สวมเสื้อยืดสีเข้ม กับกางเกงขายาว นั่งรออยู่แล้ว ผมยาวถูกปล่อยเอาไว้อย่างเรียบง่าย
“มีอะไรคะ ดึกแล้ว” เธอถามออกไปทันทีที่เค้ามานั่งข้างๆ
คริณยิ้มออกมา แล้วมองคนที่ทำให้ตัวเองกลายเป็นวัยรุ่นคลั่งรัก
“พี่เพิ่งรู้ว่าน้องผึ้งโสด พี่ขอให้น้องผึ้ง ช่วยพิจารณาพี่ได้ไหมครับ “
คำบอกตรงไปตรงมาทำเอาคนฟังนิ่งไปทันที ใครบอกเค้าว่าเธอหย่าแล้ว และ จะให้เธอพิจารณาเค้า ในฐานะ…
”บอกตามตรง พี่แอบชอบน้องผึ้งมาตั้งแต่แรก เพียงแต่ติดว่าน้องผึ้งแต่งงานแล้ว ทำให้พี่ได้แต่คิดว่า จะทำยังไง ให้พี่ได้คุยกับน้องผึ้งบ้าง แต่วันนี้ พี่เพิ่งรู้ว่า น้องผึ้งโสด พี่อยากให้น้องผึ้งช่วยรับพี่ไปพิจารณาได้ไหมครับ “
คนฟังยิ้มออกมาทันที คนตัวโตกว่า อายุมากกว่า มาทำเสียงสองใส่ พร้อมกับท่าทีออดอ้อน ทำเอาคนที่ได้ยิน ยิ้มกว้าง ออกมา
“ผึ้งหย่ามาได้ปีนึงแล้วค่ะ แต่ไม่ได้บอกใครให้ทราบ นอกจากคนในครอบครัว ถ้าคุณคริณอยากให้ผึ้งพิจารณา ผึ้งก็จะลองดูค่ะ “
คำตอบตรงไปตรงมา ทำเอาคนฟังยิ้มออกมาทันที อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้รังเกียจเค้า
“ครับ พี่ไม่รีบ ดูไปนานๆเลย จนกว่าจะแน่ใจ ว่าพี่ดีพอ สำหรับการเป็นแฟนของน้องผึ้ง “
คำบอกกล่าวตรงไปตรงมา ทำให้เธอยิ้มอีกครั้ง
”พี่จะจีบจริงแล้วนะ น้องผึ้งเตรียมตัวได้เลย “
เลขาสาวถือถุงโดนัทถุงใหญ่เจ้าดังเข้ามาในห้องพร้อมกับรอยยิ้มล้อเลียน ระยะหลังมานี้ เจ้านายของเธอ มักจะได้รับ ขนมร้านดังอยู่เสมอ
“โดนัทนมค่ะ คิวยาวด้วยร้านนี้ “
เลขาแซวจ้านาย ที่ยิ้มกว้างมากขึ้นทุกวัน ใครหลายคนในห้าง พากันสงสัยว่า ใครมาจีบเจ้านายหรือเปล่า แล้วคุณเป็นเอก รู้เรื่องนี้ไหม
“ขอบคุณสำหรับขนมนะคะ “ เธอโทรขอบคุณเค้าทันทีหลังจากที่เลขาออกไป คนได้รับคำขอบคุณยิ้มกับรถติดที่ยาวเหยียด
“ไม่เป็นไรเลยครับ พี่ไปคุยงาน เลยแวะซื้อให้ “ เค้าตอบกลับเธอไปด้วยท่าทีสบายๆทั้งที่ไปต่อคิวขนมมาเกือบ1ชั่วโมง
”ถ้าจะให้ดี เรียกพี่คิณให้ชื่นใจหน่อยได้ไหมครับ” คนตัวโตอ้อนออกมา เพราะเธอยังไม่ยอมเรียกชื่อเล่นสักที
“ขอบคุณค่ะ พี่คิณ” เสียงหวานเรียกชื่อเบาๆแต่ทำเอาคนฟังยิ้มกว้างทันที แค่เธอเรียกชื่อเล่นเค้า หัวใจก็พองโตขึ้นมา
”วันนี้ ทานข้าวเย็นด้วยกันได้ไหมครับ “ เค้าถามออกไป เพราะอยากเจอเธอ เหลือเกิน
“มีนัดแล้วค่ะ ช่วงหกโมงเย็นถึงสองทุ่ม ถ้าไม่ติดอะไร เจอกันหลังเวลานั้น ได้ไหมคะ “
“ให้พี่ไปรับที่ไหนดี “
เอสยูวีจอดรออยู่หน้าห้างในเวลาก่อนสองทุ่มเล็กน้อย ใบหน้าเหนื่อยล้าจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน กลับสดชื่นขึ้น เมื่อเธอเดินออกมาจากห้างของตัวเอง
ชุดทำงานสีดำสนิท ดูสุภาพแต่สวยแพง อย่างที่คิดไว้ นี่เป็นการพบกัน เป็นการส่วนตัวครั้งที่สอง ภายในเวลาสามเดือน หลังจากที่พบกันครั้งแรก
“สวัสดีครับ “ เค้าทักเธอเป็นคำแรกเช่นทุกที สุภาพเช่นเคย พร้อมรอยยิ้มอบอุ่น
“สวัสดีค่ะ ทานข้าวหรือยังคะ “ คำถามของเธอ ทำให้เค้าคิดหนัก ก่อนจะส่ายหน้า
“ยังครับ ก็ตั้งใจว่า จะชวนทานข้าวเย็น น้องผึ้งทานหรือยัง “ เค้าย้อนถามเธอ หญิงสาวส่ายหน้า
“บอกลูกค้าว่า มีนัดทานข้าวแล้วค่ะ “ เธอเว้นอาหารมื้อนี้เอาไว้ให้เค้า คริณยิ้มจนหน้าร้อนไปหมด ทำไมน่ารักขนาดนี้
ชายหญิงคู่หนี่งเดินเคียงคู่เข้ามาในร้านชาบูชื่อดัง ในช่วงเกือบสามทุ่มแล้ว อาหารบุฟเฟต์ ง่ายๆ ที่ดูน่าสนุก สำหรับคนทั้งสองคน
มือบางคีบตะเกียบอย่างคล่องแคล่วก่อนจะจัดการใส่ผักและปรุงน้ำจิ้มอย่างที่ตัวเองชอบ แล้วมองคนตรงหน้า ที่พับแขนเสื้ออย่างทะมัดทะแมง ทำให้เพิ่มคะแนนคนตรงหน้าไปอีกนิด
“พี่กังวลว่า เดทครั้งแรกของเรา ควรจะเป็นร้านหรูแบบไหนดีที่จะเหมาะสม “ คริณบอกกับคนตรงหน้า
“ชาบูบุฟเฟต์ 399 ค่ะ เหมาะสมดีแล้ว “ ผู้บริหารห้างดังบอกอย่างตรงไปตรงมา เธอเรียบง่ายมากกว่าที่ใครคิด แม้ภายนอกจะดูแพงด้วยข้าวของเครื่องใช้ แต่เนื้อใน เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึงเท่านั้น