"เฮือก!" เสียงทรงพลังดังขึ้นทำเอาหญิงสาวที่กำลังจะก้าวเดินออกถึงกับยืนนิ่งขาแข็งไปเลย
"นะ นายหัว..."
"กูถามว่าจะพาเมียกูออกไปไหน!!" ชายหนุ่มร่างสูงตวาดขึ้นอีกครั้ง ทำเอาทั้งสองที่กำลังยืนอยู่ใกล้ๆ กันสะดุ้งจนหัวไหล่สั่น
"คะ คือว่า..."
"ฉันก็จะออกไปจากบ้านบ้าๆ นี่ไง"
"เขม! ฉันเคยเตือนเธอไปหลายครั้งแล้วนะ"
"จะเป็นหรือจะตายจะมาสนใจฉันทำไม!"
"กลับเข้าไปในบ้าน"
"ไม่!"
"เขม!"
"คุณมันก็ดีแต่ออกคำสั่งให้คนอื่นทำตาม พอเขาไม่ทำตามก็ใช้เสียงข่มใช้ความน่าเกรงกลัวของตัวเองเพื่อทำให้คนอื่นรู้สึกกลัว คนอย่างคุณมันก็มีดีแค่นี้แหละ"
"....."
"คนอย่างฉันมันไม่เคยมีอะไรดีอยู่แล้วนี่ ฉันมันผิดตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาในบ้านหลังนี้แล้ว ฉันจะกลับบ้าน!"
"เธอออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น กลับเข้าบ้านไป อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำสอง"
"เหอะ!"
"ส่วนมึงกูกลับมาคิดบัญชีทีหลังแน่"
เขมิกาเดินกลับเข้าไปในบ้านก่อนจะรีบวิ่งขึ้นบันไดเพื่อที่จะเข้าห้องของตัวเอง แต่ดันถูกขวางเอาไว้ซะก่อน
"ออกไปนะ!"
"เธอคิดอะไรของเธออยู่ถึงได้จะออกไปจากที่นี่กลางค่ำกลางคืนแบบนี้"
"ก็คิดที่จะหนีออกไปให้พ้นจากผู้ชายอย่างคุณไง!"
"ครั้งนี้เธอทำเกินไปแล้วนะ ถ้าลูกน้องฉันไม่ไปได้ยินแล้วมาบอกป่านนี้เธอจะไปเจออะไรบ้างแล้วก็ไม่รู้"
"สนใจด้วยหรอ ขนาดฉันเป็นอะไรคุณยังไม่คิดที่จะถามเลย ไปห่วงอีหน้าหนาคุณโน่น!"
"นี่มันเรื่องของเรา อย่าพูดถึงคนอื่น"
"....."
"เธอชักจะเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไปแล้วนะเขม ที่แม่ของเธอให้เธอมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อที่จะให้ฉันช่วยดัดนิสัยที่ชอบเอาแต่ใจของเธอ ฉันไม่คิดว่าเธอจะดื้อไม่เชื่อฟังอะไรขนาดนี้"
"จบหรือยัง?"
"อะไร?"
"พล่ามจบหรือยัง ถ้าพล่ามจบแล้วจะไปไหนก็ไป"
"เขม!"
"คอยดูฉันจะหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ถ้าต้องให้ฉันอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตฉันยอมตายเป็นผีดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องมาทนอยู่กับคนแบบนี้"
"เลิกประชดประชันแล้วฟังฉันดีๆ ก่อนได้ไหม"
"หลบ!"
"ไม่หลบ เธอชักจะพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะเขม ที่ผ่านมาฉันคงจะตามใจเธอมากไปใช่ไหม เธอถึงไม่คิดที่จะกลัวฉันเลย"
"ต่อให้คุณจะฆ่าคนตาย ฉันก็ไม่คิดจะกลัว และก็ไม่กลัวด้วยถ้าคุณจะฆ่าฉัน!"
"....."
ชายหนุ่มผลักหญิงสาวเข้าไปในห้องนอนก่อนที่ตัวเขาจะเดินตามเข้าไปพร้อมกับปิดประตูล็อคเอาไว้
"เข้ามาทำไม"
"ฉันจะไม่ออกไปจากห้องนี้จนกว่าเราจะคุยกันดีๆ และรู้เรื่อง"
"ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้!"
"ฉันไม่ออก ไหนพูดมาซิว่าฉันไปทำอะไรให้ เธอถึงได้คิดจะหนีครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้"
"เพราะฉันไม่อยากอยู่กับคนอย่างคุณไงพอใจหรือยัง?"
"ไม่ใช่เหตุผล เธอโกรธฉันที่ฉันให้เธอขอโทษเพ็ญ เธอก็เลยประชดฉันด้วยการจะหนีออกไปจากที่นี่ ความคิดเด็กๆ แบบนี้ ยังไม่เลิกใช้อีกหรอ?"
"ฉันโตมากับเมืองนอก และฉันก็ไม่ได้ถูกสอนให้เคารพผู้ใหญ่ที่มันไม่ได้น่าเคารพ ผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่ใช่ผิดแล้วบอกว่าถูกเพราะว่าเขาอายุมากกว่า แล้วมองว่าเด็กเป็นคนผิดทั้งที่เด็กไม่ได้ทำอะไรเลย"
"แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็..."
"ฉันไม่เคยหาเรื่องใครก่อน ฉันมาอยู่ที่นี่ฉันรู้จุดที่ฉันยืนดี ถ้าฉันชอบหาเรื่องใครฉันคงหาเรื่องภาไปตั้งนานแล้ว และฉันก็คงหาเรื่องคนงานของคุณไปไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้ว แค่นี้คุณก็ยังคิดไม่ได้อีกหรอ?"
"เอาล่ะฉันจะให้เพ็ญมาขอโทษเธอ"
"ไม่จำเป็น ไม่ต้องพาผู้หญิงคนนั้นมาฉันเห็นหน้าอีก อยากจะพลอดรักกัน อยากจะทำอะไรกันก็ปล่อยให้ไกลๆ ฉันไม่อยากรับรู้ และฉันก็ไม่อยากเป็นไม้กันหมาให้กับคุณด้วย!"
"โอเคๆ ฉันขอโทษที่เคยพูดแบบนั้นออกไป แต่ฉันไม่ได้คิดอะไรเลยนะ ฉันไม่ได้คิดที่จะให้เธอมาเป็นไม้กันหมาอะไรเลย ฉันกับเพ็ญเราไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น เพ็ญเป็นหลานของป้าไพรที่เราเจอที่ตลาดวันนั้นไง ฉันรู้จักกับเพ็ญมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว"
"โอเค๊ ฉันรับรู้แล้ว ออกไปสิ"
"ไม่..."
ชายหนุ่มพูดเสียงแผ่วสายตาจากที่เกรี้ยวกราดในตอนแรกก็อ่อนโยนลง
"แล้วคุณจะต้องการอะไรจากฉันอีก?"
"ฉันอยากรู้ ทั้งที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อนไม่รู้จักกันมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งท่าจงเกลียดจงชังฉันขนาดนี้"
"แล้วฉันต้องดีใจหรอที่ต้องถูกเรียกกลับมากะทันหันแล้วมารู้ทีหลังว่าฉันจะต้องแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ และฉันก็ไม่มีโอกาสที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตสุขสบายของฉันได้อีก คิดว่าฉันจะยังยิ้มลงหรอ คิดว่าฉันจะมีความสุขจริงๆ หรอ ฉันอุตส่าห์หลีกหนีชีวิตที่ถูกบังคับมาตลอดไปได้แล้วแต่ยังถูกเรียกตัวกลับมาเพราะต้องแต่งงานกับคุณ"
"แล้วทำไมเธอถึงไม่ปฏิเสธตั้งแต่แรกล่ะ?"
"ฉันก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกันนะ แต่ครอบครัวของฉันกดดันฉันทุกทาง บีบเค้นฉันจนฉันต้องยอมรับไง"
"ร้องไห้ทำไม"
"คนอย่างคุณน่ะมันไม่รู้หรอกว่าชีวิตที่ต้องเดินอยู่ในกรอบที่พ่อแม่สร้างเอาไว้ให้มันอึดอัดแค่ไหน ต้องเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย ต้องเป็นผู้หญิงที่พูดเพราะ ต้องเป็นเด็กที่เรียนเก่ง ห้ามทำแบบนั้นนะห้ามทำแบบนี้นะ ห้ามๆๆๆๆ ห้ามทุกอย่าง แล้วบอกว่ามันไม่ดีไม่ควรทำ ทั้งที่เรื่องพวกนี้ฉันควรเป็นคนได้เรียนรู้เองไม่ใช่หรอ พอฉันไม่ทำขึ้นมาฉันก็กลายเป็นคนไม่ดี ไม่ว่าจะไปที่ไหนคนก็มักจะมองว่าฉันเป็นพวกไม่เข้าสังคม ในสายตาของใครฉันไม่เคยดีเลย จนกระทั่งฉันตัดสินใจสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่เมืองนอก เวลานั้นฉันรู้สึกเหมือนกับฉันได้ออกจากกรงทองที่พ่อแม่สร้างเอาไว้ให้ ฉันก็ไม่คิดที่จะกลับมาอยู่ในกรงทองอีกเลย ใช่...ฉันไม่ได้กลับมาอยู่ในกรงทอง แต่ฉันกลับมาอยู่ในคุกแทน และฉันก็ไม่มีสิทธิ์ไม่มีโอกาสตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตตัวเองอีกแล้ว"
"ฉันขอโทษ..."
"พอใจหรือยัง อยากจะรู้อะไรอีกไหม?"
"เขม...อย่าร้องไห้สิ ฉันไม่ชินเลยกับการที่เธอร้องไห้แบบนี้ เธอต้องแสบซ่าสิ"
"หึ! จากนี้มันคงไม่มีรอยยิ้มอีกต่อไปแล้วล่ะ"
"ฉันจะทำให้เธอมีรอยยิ้มเอง"