หลังจากวันนั้น ลมหนาวก็ไม่เคยเจอน่านฟ้าอีกเลย เพราะเช้าวันต่อมาน่านฟ้าก็กลับกรุงเทพฯ ทันที หลังจากที่น่านฟ้าบินไปเรียนต่อต่างประเทศ ลมหนาวก็รู้สึกมีอาการแปลกๆ ทั้งเวียนหัว อยากจะอาเจียน เธอสงสัยว่าจะท้อง แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะใช่เพราะวันนั้น น่านฟ้าให้เธอกินยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งเธอก็ได้กินอีกหนึ่งเม็ดตามเวลาที่กำหนดในเอกสารกำกับยา แต่ก็ไม่มีการคุมกำเนิดชนิดใดที่สามารถคุมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เธอรู้เรื่องนี้ดีเพราะอยู่ในบทเรียนที่เธอเคยเรียนมา ลมหนาวไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาสามยี่ห้อจากร้านขายยา ตรวจให้รู้กันไปเลยดีกว่า
สองขีด!!
ท้อง!!
ลมหนาวมองที่ตรวจครรภ์ทั้งสามอัน มันขึ้นสองขีดเหมือนกันหมดทั้งสามอัน น้ำตาหลั่งไหลลงมา มือบางของเธอกำที่ตรวจครรภ์จนแน่น เธอทรุดลงนั่งกับพื้นห้องน้ำใกล้อ่างล้างหน้า น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย เธออายุแค่สิบแปด กำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ ที่เธอตั้งใจอ่านหนังสือสอบ สุดท้ายเธอสอบติดคณะที่เธอใฝ่ฝัน แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันกำลังพังทลาย ความฝันของเธอ อนาคตของเธอ มันกำลังจะดับ เพราะผู้ชายเลวๆ คนนั้น อันที่จริงจะโทษเขาคนเดียวก็ไม่ได้ ถ้าวันนั้นเธอไม่ยินยอมพร้อมใจ วันนี้ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้
จะทำยังไงดี?
ต้องบอกพี่น่าน..ไม่สิ! เธอจำได้เขาเคยบอกเธอว่าไม่ต้องการมีลูกกับเธอ ถ้าเธอบอกเขา ก็กลัวว่าเขาจะบังคับให้เธอทำแท้งและเธอก็คงจะทำอย่างนั้นไม่ได้ เธอทำลายเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอไม่ได้ อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็เกิดจากความรักของเธอ แม้จะเป็นรักข้างเดียวก็ตาม ในเมื่อพ่อของลูกทำเลวกับเธอได้ขนาดนั้น ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกให้เขารู้ และที่สำคัญเธอก็ถอนหมั้นชายหนุ่มไปแล้วเพียงแต่ยังไม่ได้บอกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายให้เป็นเรื่องเป็นราว
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว หญิงสาวใช้มือทั้งสองข้างดันตัวเองให้ลุกขึ้นแม้จะไร้เรี่ยวแรงเต็มที เธอยืนมองตัวเองที่หน้ากระจกบานใหญ่ มือบางเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบหน้า จากนั้นหญิงสาวก็ล้างหน้าเพื่อลบร่องรอยคราบน้ำตา ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ครืด!! ครืด!!
เมื่อเห็นว่าใครโทรมา หญิงสาวรีบรับสายทันที เหมือนคนโทรเข้ามาจะรับรู้ว่าเธอกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เล็กจนโตนอกจากคุณตาแล้วก็ยังมีคุณน้าวีนา ซึ่งเป็นน้องสาวของแม่เธอ ที่คอยให้คำปรึกษา คอยดูแล ห่วงใยเธอไม่ต่างจากแม่คนหนึ่ง น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วมันกำลังเอ่อออกมาอีกครั้ง หญิงสาวกลั้นน้ำตาไว้ก่อนจะเอ่ยออกไป
“สวัสดีค่ะ น้านา”
(หนาว..เป็นไงบ้างลูก?) สิ้นเสียงของวีนา น้ำตาที่กลั้นไว้ก็พังทลายลงมา
“อึก..อึก..” ลมหนาวพูดไม่ออกได้แต่สะอื้นไห้ออกมาจนปลายสายเป็นห่วง
(หนาวเป็นอะไร? บอกน้าสิลูก..ใครทำอะไรหนาว)
“หนาวท้อง!!” หญิงสาวกลั้นใจพูดออกไป
(ไม่เห็นเป็นไรเลยลูก เพราะหนาวก็หมั้นกับตาน่านแล้ว เดี๋ยวก็ต้องแต่งงานกันอยู่ดี)
“หนาวขอถอนหมั้นพี่น่านแล้วค่ะ” จากนั้นลมหนาวก็เล่าเรื่องของเธอกับน่านฟ้าให้น้าวีนาฟัง ยกเว้นเรื่องเลวๆ ที่น่านฟ้าทำกับเธอจนเธอขอถอนหมั้น เรื่องนี้เธอเองก็ไม่ต้องการให้ใครรับรู้ เธอได้แต่บอกเหตุผลออกไปว่า น่านฟ้าไม่ได้รักเธอ ถ้าแต่งงานกันไปชีวิตของเธอก็คงจะไม่มีความสุข เธอขอเลี้ยงลูกเองดีกว่า เธอไม่อยากให้เขารับผิดชอบเพียงเพราะว่าทำเธอท้อง
(เอาแบบนี้มั้ย..หนาวมาอยู่กับน้าที่ฝรั่งเศส มาเรียนต่อที่นี่ น้าจะช่วยหนาวเลี้ยงลูกเอง) วีนายื่นข้อเสนอให้หลานสาวที่ตัวเองรักเหมือนลูก เธอแต่งงานกับสามีชาวฝรั่งเศสและย้ายมาอยู่ที่ฝรั่งเศสสิบกว่าปีแล้ว ทั้งสองไม่มีลูก แต่สามีของเธอนั้นมีลูกชายหนึ่งคนซึ่งก็โตแล้วแต่ยังไม่มีครอบครัว
“แล้วคุณตาล่ะคะ ถ้าหนาวไปใครจะอยู่ดูแลคุณตา”
(เดี๋ยวน้าคุยกับตาให้เอง)
“ค่ะ..” หลังจากวางสาย ลมหนาวก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมา เธอจึงนอนหลับพักผ่อน จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ก๊อก! ก๊อก!
“หนาว…ออกมาคุยกับตาข้างล่างหน่อยลูก” ตาวีระชัยเรียกหลานสาวมาคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งเขารับรู้มาจากวีนาลูกสาวคนเล็กที่ตอนนี้อยู่กับสามีที่ฝรั่งเศส นานๆ ลูกสาวจะกลับมาเยี่ยมบ้าน และตอนนี้เธอกำลังจะกลับมาเพื่อมารับหลานสาวไปอยู่ที่โน่น เขาเห็นด้วยกับลูกสาวเป็นอย่างยิ่งเพราะไม่อยากให้หลานสาวต้องเจ็บปวดกับความรักที่ไม่สมหวัง การไปอยู่ในที่ไกลๆ อาจจะช่วยให้หลานสาวมีชีวิตที่ดีกว่านี้
“ค่ะ..เดี๋ยวหนาวออกไปค่ะ” หญิงสาวร้องบอกออกมาจากในห้องก่อนจะลุกจากเตียงก่อนจะตามผู้เป็นตาลงไปข้างล่าง
“หนาวขอโทษนะคะ..ตา ที่หนาวทำตัวไม่ดี หนาวทำให้ตาต้องเสียใจ” หญิงสาวยกมือไหว้ผู้ที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่พ่อกับเเม่เสียด้วยความรู้สึกผิด เธอร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย
“ไม่เป็นไรลูก..ไม่เป็นไร ตาเข้าใจหนาวทุกอย่าง และตาก็เคารพการตัดสินใจของหนาว หนาวคิดดีแล้วใช่มั้ยที่จะถอนหมั้น” ชายชราถามออกไปด้วยอีกใจก็หวังว่าหลานสาวจะเปลี่ยนใจ อย่างน้อยเขาเองก็อยากให้เหลนมีพ่อ
“ค่ะ..พี่น่านเขาเกลียดหนาว เขาไม่ได้รักหนาว ถ้าแต่งงานกันไปหนาวคงจะไม่มีความสุข” ผู้เป็นตาพยักหน้าด้วยความเข้าใจก่อนจะเอ่ยถามออกมาอีกรอบ
“แล้วเรื่องที่หนาวท้องล่ะ จะบอกตาน่านมั้ย?”
ลมหนาวส่ายหัวช้าๆ ก่อนจะตอบออกไป
“หนาวจะเลี้ยงลูกเองค่ะ พี่น่านเค้าคงไม่อยากมีลูกกับหนาว”
“ถ้าอย่างนั้น..หนาวก็ไปอยู่ฝรั่งเศสกับน้านานะลูก ไปเรียนต่อที่นู่น อยู่ที่นู่นจนกว่าหนาวจะสบายใจ ไม่ต้องเป็นห่วงตา ตายังแข็งแรงอยู่ ตายังมีแม่ภากับตาศร ถ้าพร้อมเมื่อไหร่..หนาวค่อยกลับมา” ชายชราพูดพลางยกมือลูบหัวหลานสาวเบาๆ ลมหนาวกอดคุณตาร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ค่ะ”
“ส่วนเรื่องถอนหมั้นกับของหมั้นของฝ่ายนู้น เดี๋ยวตาจะจัดการเอง”
“ขอบคุณค่ะ..ตาอย่าบอกตานนท์เรื่องที่หนาวท้องได้มั้ยคะ”
“ตารับปากว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับไอ้นนท์มัน” ชายชรารับปากหลานสาว เขาจะไม่บอกเรื่องที่ลมหนาวท้องกับเพื่อนรักถึงแม่ว่าหลานของทั้งคู่จะมีปัญหากันแต่เขากับอานนท์ก็ยังเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิม
หลังจากนั้น ลมหนาวก็เดินทางไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส ส่วนคุณตาวีระชัยก็บอกครอบครัวของน่านฟ้าว่าหลานสาวของเขาขอถอนหมั้นและขอคืนของหมั้นทั้งหมด ทั้งสองฝ่ายยอมรับการตัดสินใจของลมหนาวเพราะเห็นว่าคนไม่ได้รักกันแต่งงานกันไปก็จะทุกข์ใจเสียเปล่า แต่ความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองครอบครัวจะยังคงอยู่เหมือนเดิม ทางด้านน่านฟ้าไม่ได้รู้สึกตกใจหรือเสียใจแต่อย่างใดเมื่อได้รับข่าวจากครอบครัวว่าคู่หมั้นสาวขอถอนหมั้น เพราะเขารู้อยู่แล้วเพียงแต่แค่รอเวลาให้หญิงสาวเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมดเอง
สำหรับเขา…ได้ความโสดกลับมาอีกครั้ง!
แต่สำหรับเธอ…ได้ของขวัญที่มีค่าที่สุด!
ในเมื่อวันนี้พี่น่านไม่เห็นค่าความรักของหนาว..วันหน้าหนาวก็จะไม่รักพี่แล้วนะ..
หนาวขอยอมแพ้..คืนอิสระให้พี่น่าน
โชคดีนะคะ..ลาก่อนค่ะ
ข้อความสุดท้ายที่ลมหนาวส่งให้อดีตคู่หมั้น ก่อนจะตัดการติดต่อสื่อสารทุกช่องทาง ชาตินี้คงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว