เวกัสทำตัวสบาย ๆ ตามปกติแตกต่างกับอีกคนที่สลัดเขาออกจากหัวไม่ได้ เธอกระวนกระวายกว่าปกติเล็กน้อยและไม่กล้ามองหน้าประธานหนุ่มตลอดการประชุมช่วงสาย
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับ”
“เช่นกันครับว่าแต่คุณเวกัสครับ....เลขาคุณยังโสดไหมครับ?”
ประธานหนุ่มที่ชื่อเดวิดกระซิบถามเขา สายตาของชายหนุ่มจับจ้องไปที่น้ำทิพย์อย่างไม่วางตา เวกัสคิ้วกระตุกเล็กน้อยก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
ไม่ทันไรก็เนื้อหอมจนมีคนชอบแล้ว....
“ผมทราบมาว่าเธอเป็นผู้หญิงของมาเฟียนะครับ ทางที่ดีคุณอย่ายุ่งกับเธอดีกว่า”
สายตาและน้ำเสียงที่จริงจังทำเอาเดวิดขนลุกซู่ เขาลอบกลืนน้ำลายและยิ้มแห้ง ๆ ออกมาก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“คุณเดวิดดูรีบจังเลยนะคะ”
น้ำทิพย์มองตามร่างสูงเดินลิ่วออกจากห้องประชุมไป เวกัสลอบยิ้มก่อนจะวางปากกาและลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“สงสัยภรรยาจะคลอดลูกมั้งครับ เลยต้องรีบไป”
เวกัสพูดติดตลกและกระชับสูทให้เข้าที่ก่อนจะเดินออกไป น้ำทิพย์ได้แต่ยืนนิ่งอึ้งเพราะไม่คิดว่าคนแบบเขาจะมีมุมแบบนี้ด้วย
“ผมจะออกไปหาเทวาเลย วันนี้ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ผมอนุญาตให้คุณเลิกงานก่อนเวลาครับ”
“อ้อ ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ไว้เจอกันพรุ่งนี้ครับ”
ร่างสูงก้มหัวลงเล็กน้อยแล้วเดินจากไปอีกคน น้ำทิพย์พาตัวเองกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานแล้วเก็บของเตรียมกลับบ้าน
“ดีจังเลยน้าา ได้เป็นเลขาประธานแถมยังได้เลิกงานก่อนเวลาด้วย”
“นั่นสิ ไม่รู้ว่าใช้ความสามารถหรืออย่างอื่นกันแน่”
“อะไรเหรอ”
“ใช้นมไง”
“ฮ่า ๆ ๆ ใช้เต้าไต่นี่เอง”
ร่างบางได้แต่ถอนหายใจยาวออกมาด้วยความเบื่อหน่าย แม้จะรู้ว่าต้องเจอเรื่องแบบนี้อยู่แล้วแต่ไม่คิดว่าจะโดนเขม่นตั้งแต่ทำงานได้สองวัน
“แมลงวัน....”
“ผมว่าก็ดีกว่าพวกใช้ปากทำงานนะครับ อย่างน้อยเธอก็ยังมีประโยชน์ต่อบริษัทมากกว่าคนแบบคุณสองคน”
ยังไม่ทันที่น้ำทิพย์จะพูดอะไรมากกว่านี้ เสียงทุ้มหูก็ดังขึ้น พนักงานสองคนที่นินทาเธออย่างโจ่งแจ้งหันไปมองด้วยความตกใจ
“ทะ ท่านประธาน”
“ถ้ามีปัญญาแค่นินทาชาวบ้านไปวัน ๆ ใบลาออกอยู่ที่แผนกบุคคลนะครับ ผมสั่งเตรียมไว้เยอะเลย”
“คะ คือ”
“คุณน้ำทิพย์ครับ รบกวนหยิบกระเป๋าแล้วตามผมไปที่รถด้วยครับ เรามีงานต้องไปทำต่อ”
เวกัสตัดบทสนทนาทันทีด้วยใบหน้านิ่งเฉย รอยยิ้มที่มักประดับบนใบหน้าตอนนี้ไม่มีหลงเหลืออยู่เลย เขากลายเป็นคนล่ะคนและดูน่ากลัวกว่าเวลาปกติ
น้ำทิพย์รีบเก็บของใส่กระเป๋าก่อนจะก้าวไปยืนข้างประธานหนุ่ม พนักงานสองคนนั้นยืนตัวลีบพลางก้มหน้าสำนึกผิด
“หวังว่าพรุ่งนี้ผมจะไม่เห็นคุณสองคนในบริษัทผมอีกนะครับ ผมไม่อยากทำให้ใครมีประวัติโดนไล่ออก”
เวกัสเดินนำคนตัวเล็กไปที่ลิฟต์นิ้วเรียวเอื้อมไปกดชั้นจอดรถก่อนจะถอนหายใจยาวออกมา
“เฮ้ออ ขอโทษนะครับที่ทำให้เจอเรื่องแบบนี้ ผมจะจัดการให้เองไม่ต้องห่วง”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ อย่าให้ถึงขั้นไล่ออกเลยนะคะ”
น้ำทิพย์พูดขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ มันเป็นแค่เรื่องกระทบกระทั่งในที่ทำงานไม่จำเป็นต้องไล่ออกเลยสักนิด เขาทำเหมือนเธอถูกรังแกมาเป็นปี ๆ ทั้งที่แค่เพิ่งโดนครั้งแรก
“ไม่หรอกกครับ ก่อนหน้านี้ผมได้ให้โอกาสไปแล้วแต่ก็ยังทำตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ผมไม่อยากเก็บคนแบบนี้ไว้ในบริษัทเพราะจะสร้างแต่ความร้าวฉาน”
เวกัสสังเกตสองคนนั้นมานานพอดูและเขาก็ให้โอกาสไปถึงสองครั้งแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกนั้นใช้คำพูดดูถูกดูแคลนคนอื่นแบบนี้
เขาเล่าให้เธอฟังถึงเรื่องก่อนหน้าเธอจะมาทำงานระหว่างที่ลิฟต์เคลื่อนตัวลงไปช้า ๆ พอน้ำทิพย์ได้ฟังทั้งหมดเธอก็เข้าใจในสิ่งที่เวกัสทำทันที
“งั้นก็ตามใจคุณเถอะค่ะ”
“ขอบคุณครับที่เข้าใจผม”
เนื่องจากเวกัสมีธุระสำคัญที่ต้องไปต่อเขาเลยไม่สามารถไปส่งเธอได้แต่เวกัสก็ได้จัดให้คนพาเธอไปส่งถึงบ้าน
“งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
“ครับ”
ร่างสูงยืนส่งเธอไปจนลับสายตาก่อนจะก้าวขึ้นไปบนรถสุดหรูที่มีเพียงไม่กี่คันบนโลกเท่านั้น มือหนาดึงเนคไทออกแล้วเหวี่ยงไปหลังรถอย่างไม่ใยดีพลางสางผมที่เซตไว้ออกจนหัวยุ่ง
“ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องให้หงุดหงิดว่ะ”
เวกัสหงุดหงิดตั้งแต่ที่เดวิดมองเธอด้วยสายตาร้อนแรงแล้ว เขาแทบอยากกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายมาต่อยให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยด้วยซ้ำ
เขาไม่ชอบให้ใครมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นนอกจากเขาคนเดียว แค่คิดภาพเธอไปครางกับผู้ชายคนอื่นแบบเดียวกับที่ตัวเองเจอก็แทบคลั่งแล้ว
ต้องทำอะไรสักอย่าง....
มาเฟียหนุ่มในคราบประธานมาดเนี๊ยบหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาลูกน้องก่อนจะกรอกเสียงลงไปเมื่อปลายสายกดรับ
“ฮัลโหล จัดการคนคุ้มกันเธอเพิ่ม อย่าให้ตัวผู้ที่ไหนเข้าใกล้เธอเด็ดขาด”
(ครับนาย)
ใครก็อย่าฝันว่าจะได้ใกล้ชิดเธอ เพราะถ้ามันกล้ามากพอเขาจะให้มันได้กินลูกปืนแทนข้าวเอง
»»»»««««
“กว่าจะมาได้นะ ทุกคนรอมึงนานแล้ว”
เสียงที่เอ่ยทักทายเขาคือเทวาที่ออกมาสูบบุหรี่อยู่หน้าโกดังพอดี ร่างสูงถอดเสื้อตัวนอกโยนกลับเข้าไปในรถและเดินไปหาเทวา
“ติดงาน”
“งานหรือสาว?”
“ไม่ใช่เรื่องของมึง”
เวกัสพูดปัดแล้วล้วงเอาบุหรี่ออกมาจุดสูบ นิโคตินที่ถูกอัดเข้าร่างกายทำให้เขาผ่อนคลายลงได้เล็กน้อย
“ก็ไม่ได้อยากยุ่งหรอกแต่เมียกูสั่งมา”
“ดาว?”
“เออ กูมีเมียคนเดียวก็คือน้องมึงนั่นล่ะ”
เวกัสรู้อยู่แล้วว่าดาวจะไม่หยุดถ้ายังไม่ได้คำตอบแต่จะให้เขาตอบยังไงล่ะ? บอกว่าเคยวันไนท์กับเพื่อนเธอแล้วติดใจอย่างนี้ก็ออกจะเกินไปหน่อย
แม้ดาวจะไม่ได้สนิทกับน้ำทิพย์มากเท่าลดา แต่พวกเธอก็รู้จักกันพอสมควร เขาไม่อยากให้มีปัญหาอะไรตามมาอีกเพราะแค่เท่าที่มีก็ตามเคลียร์ไม่หมดแล้ว
“เข้าไปกันเถอะ ระวังน้องสาวมึงถามด้วย”
“อืม”
เวกัสโยนบุหรี่ในมือลงพื้นก่อนจะขยี้ด้วยปลายเท้า ร่างสูงเดินตามหลังน้องเขยเข้าไปในห้องประชุม วันนี้พ่อของเทวาไม่ได้มาเข้าร่วมประชุมด้วยเลยจะมีแค่พวกเขาไม่กี่คนรวมถึงสาว ๆ ด้วย
“ไงมึง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
แม้แต่ไทเกอร์กับชาญวิทย์ก็ถูกเรียกตัวมาด้วย ชาญวิทย์เพียงแค่หันหน้ามาพยักให้เขาก่อนจะหันกลับไปคุยกับลดา ส่วนไทเกอร์ก็เอ่ยทักทายด้วยเสียงสดใสตามสไตล์เจ้าตัว
“ครบกันแล้วนะ เริ่มเลยเถอะ”
ทุกคนนั่งกับคู่ของตัวเองที่เรียกมาวันนี้เพราะอีกไม่กี่อาทิตย์น้ำชาที่เป็นแฟนไทเกอร์จะจัดงานแต่งกัน พวกเขาเชื่อว่าคาลมาจะต้องหาทางสร้างความวุ่นวายอย่างแน่นอน
การเงียบหายไปของคาลมาไม่ใช่เรื่องดีเลยแม้แต่นิดเดียว มันเหมือนเสือที่แอบซุ่มดูเหยื่อและพร้อมกระโดดขย้ำได้ทุกเมื่อ หากพวกเขาพลาดก็ไม่อาจเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ในงานแต่งไอ้ไทกูจะจัดการ์ดให้ปลอมตัวเป็นแขกเพื่อเข้าร่วมงานส่วนหนึ่งและอีกส่วนให้คอยดูแลความเรียบร้อยพร้อมทั้งเตรียมรับมือเผื่อกรณีฉุกเฉินด้วย”
“ก็ดีนะ แขกจะได้ไม่แตกตื่นด้วย”
“ไอ้ชาญเตรียมหมอที่ไว้ใจได้ไว้สัก 5 คนนะ ขอที่ฝีมือดีหน่อย”
“เดี๋ยวจัดให้” ชาญวิทย์ตอบ
“เทวากับดาวคอยสังเกตคนในงานด้วยนะ ถ้ามีอะไรปกติให้รีบแจ้งด้วย”
“ครับ/ค่ะ”
“ลดากับทิชา พี่อยากให้ตามประกบน้ำชาไว้อย่าให้คนแปลกหน้าเข้าหาอย่างเด็ดขาด”
“ได้ค่ะพี่ทิว”
ทิวเทพวางแผนไว้คร่าว ๆ แล้วว่าจะทำอะไรบ้างซึ่งทุกคนก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรเพราะถ้านับเรื่องสติปัญญาทิวเทพฉลาดที่สุด
“ส่วนมึง เวกัส”
“?”
“เป็นเหยื่อล่อ”
แค่นั้นเวกัสก็รู้แล้วว่าตัวเองต้องทำยังไง คาลมาต้องการกำจัดเขากับดาวมากที่สุดเพราะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของผู้นำคนเก่าที่ตายไปแล้ว ดาวแต่งงานกับเทวาและกลายเป็นสะใภ้ของแบล็คดราก้อนแล้วมันคงไม่อยากมีปัญหากับมาเฟียระดับนั้นเท่าไหร่หรอก
เท่ากับว่าตอนนี้คนที่คาลมาอยากกำจัดที่สุดก็คือเวกัส การที่ให้เขาทำหน้าที่เหยื่อล่อนั่นหมายถึงเขาจะทำอะไรก็ได้
ได้แก้แค้นด้วย ได้ทำตามใจตัวเองด้วยมันก็คุ้มที่จะเสี่ยง
“เข้าใจเลือกคนบ้าระห่ำไปเป็นเหยื่อล่อนะคะพี่ทิว”
ดาวอดที่จะพูดประชดไม่ได้เธอรู้ดีว่าเวกัสต่อสู้เก่งแค่ไหนแต่ก็อดห่วงไม่ได้ เวกัสยกยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากแต่ก็ไม่ได้พูดขัดอะไร
“ก็เพราะคนบ้ามันก็ต้องเจอกับคนที่บ้ากว่าน่ะสิไม่ต้องห่วงพี่จะเตรียมคนไว้อีกชุดเพื่อตามช่วยเวกัสโดยเฉพาะ....”
“นายน้อยครับ!”
เสียงของทิวเทพถูกขัดด้วยลูกน้องของเวกัสที่เปิดพรวดพราดเข้ามา เวกัสขมวดคิ้วเล็กน้อยและกำลังจะต่อว่าคนของตนแต่คำพูดนั้นก็ถูกกลืนหายลงคอไปพร้อมกับประโยคที่ได้ยิน
“ผู้หญิงคนนั้นถูกโจมตีครับ! คนของเรามีไม่พอ....”
“เตรียมอาวุธให้กูเดี๋ยวนี้!”