โอกาสที่เขายื่นให้

1249 Words
เช้าวันจันทร์นลินภัสร์มาเข้าเรียนตามปกติวันนี้อาจารย์ นัดให้นักศึกษาทุกคนมารวมกันเพื่อจะชี้แจงเรื่องการฝึกงานที่จะมีในหนึ่งสัปดาห์หน้า นลินภัสร์มองชื่อตัวเองกับสถานที่ฝึกงานแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะเธอได้ไปฝึกงานที่บริษัทของศรุตอย่างที่เขาได้บอกไว้ เธอและเพื่อนอีกหลายคนได้ไปฝึกที่เดียวกันแต่คนละแผนก วิชัญญาหรือวิ ฝึกเป็นผู้ช่วยหัวหน้าแผนกการตลาด ส่วนชยาภรณ์หรือน้ำ ไปฝึกเป็นผู้ช่วยหัวหน้าแผนกบุคคล ส่วนคนอื่นที่เธอเห็นในรายชื่อก็เป็นเพื่อนจากสาขาอื่นที่ได้ไปฝึกในบริษัทเดียวกับเธอ “น่าอิจฉามายด์จังได้เป็นผู้ช่วยเลขาของประธานบริษัท” “แต่น้ำไม่อิจฉาเลยนะเพราะว่าตำแหน่งนี้ต้องทำงานหนักมากแน่ๆ เลย” “นั่นสิวิก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยนะ แล้วมายด์ล่ะโอเคกับตำแหน่งที่จะไปฝึกงานไหม” “ก็โอเคอยู่นะ” “ตั้งใจฝึกงานกันด้วยนะเพราะปีนี้เป็นปีแรกที่มหาวิทยาลัยของเราได้ส่งนักศึกษาไปฝึกงานกับบริษัทนี้” อาจารย์บอกกับนักศึกษาที่กำลังตื่นเต้นกับการจะไอ้ออกไปฝึกงาน “ทำไมถึงเพิ่งเคยส่งนักศึกษาไปล่ะคะอาจารย์” “ก็แต่ก่อนบริษัทนี้เป็นบริษัทนำเข้าสินค้าเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนทุกวันนี้ไงล่ะ เราก็เลยไม่ได้ส่งไปแต่ผู้บริหารเขาเก่งมากนะใช้ระยะเวลาไม่ถึงสิบปีบริษัทก็เติบโตและมีสาขาไปทั่วประเทศถ้าเราได้ไปฝึกงานที่นี่เราก็จะได้ประสบการณ์ต่างๆ มากมายเราโชคดีจริงๆ ที่เจ้าของบริษัทเขาให้โอกาสกับพวกเรา” “อาจารย์รู้จักเจ้าของบริษัทนี้ไหมคะ” เพื่อนคนหนึ่งถามขึ้น “ตอนแรกอาจารย์ก็ไม่รู้หรอกนะว่าใครเป็นเจ้าของ” “แล้วเขาเป็นใครล่ะคะอาจารย์” วิชัญญาถามด้วยความสนใจ “เจ้าของบริษัทเขาชื่อศรุตเป็นศิษย์เก่าของที่นี่ เขาติดต่อมาว่าอยากได้นักศึกษาไปฝึกงานอาจารย์เห็นว่าเป็นโอกาสดีก็เลยส่งพวกเธอไปฝึกงานที่บริษัทของเขา” “แบบนี้ก็ดีเลยสิคะอาจารย์ได้ไปฝึกงานกับรุ่นพี่ว่าแต่คุณศรุตอะไรนี่เขาหน้าตาเป็นยังไง” “อาจารย์ส่งเธอไปฝึกงานนะเธอจะสนใจนะหน้าตาของเจ้าของบริษัททำไม” “อาจารย์ขาพวกหนูก็แค่อยากรู้ว่าเจ้าของบริษัทเขาจะหน้าตาหล่อมากไหมเป็นอาหารตาเวลาฝึกงานไหมไงคะอาจารย์” ชยาภรณ์รีบแก้ตัว “ขอให้เป็นอาหารตาจริงๆ เถอะนะ อย่าไปทำอะไรรุ่มร่ามกับเขาเป็นอันขาดมันจะเสียชื่อมาถึงมหาวิทยาลัย” “พวกเราไม่ทำอย่างนั้นหรอกค่ะ อาจารย์แต่ขอถามหน่อยได้ไหมคะ” “จะถามอะไรอีกล่ะรู้สึกว่าพวกเธอจะมีคำถามเยอะเหลือเกินนะ” “หนูอยากรู้ว่าเราไปฝึกงานเราได้เงินเดือนไหมคะ” “การไปขอฝึกงานคือการไปขอความรู้จากเขานะ เขาไม่เรียกเก็บเงินพวกเราก็ดีเท่าไหร่ บางบริษัทเขาก็ไม่รับนักศึกษาฝึกงานเพราะถือว่าไปทำให้งานเขาล่าช้า” “อาจารย์พูดแบบนี้หมายความว่าเราจะไม่ได้เงินเดือนใช่ไหมคะ” “ใช่ บริษัทเขาไม่มีเงินเดือนให้หรอกนะแต่บริษัทนี้เขามีเบี้ยเลี้ยงให้ ถือว่าเป็นค่าเดินทางและค่าอาหาร” “เยอะไหมครับอาจารย์” “ก็น่าจะประมาณครึ่งหนึ่งของก็จะประมาณครึ่งหนึ่งของแรงงานขั้นต่ำพวกเธอก็น่าจะได้ประมาณคนละสอวร้อยบาท” “แล้วบริษัทอื่นล่ะคะอาจารย์” “บางบริษัทก็ได้บางบริษัทก็ไม่ได้แต่พวกเธอโชคดีมากที่คะแนนอยู่ในลำดับต้นๆ อาจารย์ก็เลยเลือกให้ไปฝึกงานในบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่แบบนี้ ถือว่าพวกเธอโชคดีมากๆ ที่เจ้าของบริษัทเขา เสนอให้พวกเธอไปฝึกงาน เอาละใครมีอะไรจะถามอีกไหม” “ไม่มีแล้วค่ะ” “อาจารย์จะบอกพวกเธอนะ เวลาไปฝึกงานก็ตั้งใจฝึกอย่าเอาแต่เล่น พยายามเก็บเกี่ยวความรู้มาให้ได้มากที่สุดและอย่าทำให้มหาวิทยาลัยเสียชื่อเสียงเป็นอันขาด เพราะถ้าพวกเธอไปฝึกงานแล้วมีผลงานที่ดีมันก็หมายความว่าปีจะต่อไปรุ่นน้องของพวกเธอจะได้เข้าไปฝึกงานที่นี่อีก ถ้าตั้งใจฝึกงานดีๆ บางทีเขาอาจจะรับพวกเธอเข้าทำงานเลยก็ได้นะ เพราะบริษัทเขากำลังขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ อาจารย์ได้ยินมาว่านอกจากร้านเดิมที่เขามีอยู่แปดร้อยกว่าสาขาแล้วเขากำลังวางแผนจะเปิดอีกธุรกิจเพิ่มอีก ซึ่งก็คงมีสาขามากๆ ไม่ต่างจากธุรกิจเดิมหรอกนะ” “ถ้าเขารับพวกเราเข้าทำงานเลยก็ดีสิคะ จะไม่ต้องสมัครงานให้เหนื่อย” “แต่ก็อย่าคาดหวังนะทำทุกอย่างให้มันเต็มที่แค่นั้นก็พอ” “ขอบคุณค่ะอาจารย์” เมื่ออาจารย์เดินออกไปแล้วนลินภัสร์ก็นั่งคุยต่อกับเพื่อนที่ “ไม่อยากจะคิดเลยนะมายด์ว่าเราจะได้เข้าไปฝึกงานในบริษัทนี้น้ำซื้อสินค้าเขาบ่อยมากๆ เดินผ่านทีไรแวะตลอด” “มายด์ก็ซื้อเหมือนกันสินค้าเขาถูกมากๆ” “วิไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่ามีสาขามากขนาดนี้” “นั่นน่ะ พวกเราโชคดีมากๆ ที่เขาเลือกพวกเราให้ไปฝึกงานที่นั่น” “น้ำตื่นเต้นมากๆ เลย มายด์ล่ะตื่นเต้นไหม” “ตื่นเต้นสิน้ำ มายด์จะบอกความลับอะไรให้อย่างหนึ่ง” “อะไรเหรอ” วิชัญญาขยับเข้าใกล้ด้วยความสนใจ “บริษัทนี้ยายของมายด์เคยทำงานเป็นแม่บ้านที่นี่ด้วยแหละ” “เหรอแล้วมายด์เคยเข้าไปในบริษัทไหม” “เคยเข้าไปอยู่สองครั้ง” “เคยเจอเจ้าของบริษัทหรือเปล่าเขาหล่อไหมใจดีหรือเปล่า” “เคยเจอ เขาหล่อดูดีมากๆ เลยแหละ” “มายด์ก็โชคดีมากๆ เลยเนอะได้ทำงานกับเจ้านายหล่อๆ แล้วเขามีแฟนหรือยัง” “เรื่องนี้มายด์ก็ไม่รู้เหมือนกันนะน้ำ” “อย่าลืมไปสืบมาด้วยว่าเขามีแฟนหรือยัง” “ทำไมล่ะน้ำ” “ก็ถ้าเขาไม่มีแฟนก็เป็นโอกาสของพวกเราไงเผื่อจะมีแฟนหล่อรวยเป็นถึงเจ้าของบริษัทบ้าง ยิ่งมายด์ได้ทำงานใกล้ชิดกับเขาก็โอกาสเยอะมากกว่าคนอื่น” “อย่าคิดอะไรแบบนั้นเลย มายด์ว่าเขาไม่สนใจมองเด็กอย่างพวกเราหรอกอาจารย์ก็บอกอยู่ว่าเขาอายุสามสิบกว่าแล้ว อายุห่างจากพวกเราเป็นสิบปีเลยนะวิ” “ต่างสิยิ่งดี เดี๋ยวนี้ผู้ชายเขาชอบมีแฟนเด็กๆ นักศึกษาอย่างพวกเราก็ชอบมีแฟนอายุมากกว่ากันทั้งนั้นมันลงมากเลยนะมายด์” “มายด์ยังไม่อยากคิดอะไรมากหรอก แค่อยากจะรีบฝึกงานให้เสร็จจะได้เรียนจบแล้วรีบทำงาน” “มายด์เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมหน้าตาดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ มีปัญหาอะไรอยู่ใช่ไหม” “ก็นิดหน่อยนะ” “เล่าให้เราสองคนฟังสิมายด์ยังไงก็เป็นเพื่อนกัน” “ปัญหาเรามันค่อนข้างหนักอยู่เหมือนกัน” “หนักแค่ไหนถ้าได้ระบายออกมามันก็จะดีนะเล่าให้เราฟังหน่อยได้ไหมก็ได้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD