วันนี้เป็นวันที่คุณหมอนัดศานิตาตรวจครรภ์ไอศิกาก็ขอไปด้วยเพราะหลังจากหาหมอแล้วเธอจะไปเลือกซื้อของใช้กับคุณอาของเธอด้วยโดยมีเจตนิพัทธ์เป็นคนขับรถไปให้
ทั้งสามคนนั่งดูรออยู่หน้าห้องตรวจพอคุณหมอเรียกชื่อศานิตาหญิงสาวก็ลุกขึ้นแต่เจตนิพัทธ์ยังนั่งอยู่ที่เดิม
“อาพัทธ์ไม่เข้าไปในห้องด้วยเหรอคะ” ไอศิกาที่กำลังจะเดินตามอาของตนเองหันมาถาม
“ไม่เป็นไรเข้าไปหลายคนห้องมันเล็กวันนี้ให้ไอซ์เข้าไปกับอานิตก็ได้จะได้รู้ไงว่าคุณหมอเข้าตรวจแบบไหนบ้าง”
“แล้วทุกครั้งอาพัทธ์เข้าไปกับอานิตหรือเปล่าคะ”
“ทุกครั้งอาก็เข้าไปกับอานิตนั่นแหละ ไอซ์รีบเข้าไปเถอะคุณหมอมีคนไข้อีกหลายคนที่รออยู่นะ” เจตนิพัทธ์เตือนหลานสาว
“ค่ะอาพัทธ์” ไอศิกาเดินตามเข้ามาในห้องซึ่งตอนนี้คุณอาของเธอกำลังนั่งคุยอยู่กับคุณหมอ
เธอยืนมองอยู่ข้างๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่พยาบาลพาศานิตาขึ้นไปนอนบนเตียงเพื่อให้คุณหมออัลตราซาวด์ดูความสมบูรณ์ของเด็กในท้อง
“เราจะได้ยินเสียงหัวใจเหมือนที่เคยเห็นในทีวีใช่มั้ยคะอานิต” หญิงสาวถามคุณอาด้วยความตื่นเต้น
“ใช่จ้ะ เดี๋ยวหมอก็จะเอาเครื่องฟังหัวใจเด็กมาแนบที่หน้าท้อง ตอนนี้น้องน่าจะตัวโตก่อนครั้งล่าสุดที่อาเคยเห็นแล้วแหละ”
“ไอซ์ตื่นเต้นจังเลยค่ะนี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่ไอซ์จะได้เห็นการอัลตราซาวด์แบบนี้ปกติเคยเห็นแต่ในคลิปวิดีโอค่ะ”
เมื่อพยาบาลทาเจลบนหน้าท้องของคนไข้แล้วคุณหมอก็ใช้หัวการอัลตราซาวด์ลากไปตามหน้าท้องจากนั้นก็อธิบายถึงลักษณะและพัฒนาการของเด็กที่อยู่ในครรภ์ ไอศิกามองด้วยความตื่นเต้น เธอเห็นหัวใจดวงเล็กๆ กำลังเต้นและได้ยินเสียงหัวใจเป็นจังหวะ
เธอรู้สึกว่าชีวิตในน้อยๆ ที่อยู่ในนั้นมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากและอยากจะให้เด็กใครท้องของคุณอาคลอดออกมาเร็วๆ
“ร่างกายเด็กในท้องสมบูรณ์ดีครับ ช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณแม่สามารถทำกิจกรรมทุกอย่างได้ตามปกติแต่อย่างโลดโผนมากและถ้ารู้สึกเหนื่อยหรือรู้สึกว่าลูกในท้องดิ้นน้อยลงก็ให้รีบมาหาหมอ”
“ค่ะคุณหมอ”
“คุณยังจำวิธีนับการดิ้นของเด็กในท้องได้ใช่ไหมได้ค่ะอย่าลืมนับให้เป็นประจำนะถ้าเจอความผิดปกติก็รีบมาหาหมอทันที”
“ขอบคุณมากนะคะ”
หลังจากออกจากห้องตรวจและรอรับยาบำรุงครรภ์แล้วเจตนิพัทธ์ก็พาทุกคนมายังห้างสรรพสินค้า
“เราจะเริ่มซื้ออะไรก่อนดีค่ะพี่พัทธ์”
“พี่ว่าไปดูพวกเสื้อผ้าก่อนก็ได้นะ”
ไอศิกาสังเกตปฏิกิริยาของสองสามีภรรยาที่แสดงออกด้วยกันเธอรู้สึกว่าเจตนิพัทธ์จะตามใจภรรยาของเขามากๆ ซึ่งเธอมองแล้วรู้สึกว่ามัดขัดกับสิ่งที่เขาทำเวลาอยู่ลับหลังภรรยามากๆ เพราะเขาแสดงออกให้คนอื่นเห็นแบบนี้นี่เองถึงไม่มีใครสงสัยกับพฤติกรรมของเขาเลย
เมื่อได้เสื้อผ้าเด็กอ่อนครบแล้วทั้งสามคนก็ไปยังแผนกเครื่องใช้ต่อ
“อานิตจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ใช่ไหมคะ”
“ใช่จ้ะ”
“แล้วอานิตจะซื้อขวดนมไปทำไมตั้งเยอะแยะ” ไอศิกาถามด้วยความไม่เข้าใจเพราะเธอไม่เคยมีลูกมาก่อนและก็ไม่เคยมาซื้อของใช้แบบนี้
“อาคิดว่าจะปั๊มนมใส่ถุงไว้แล้วถึงเวลาก็เอามาอุ่นให้ลูกกินน่ะเพราะหลังคลอดอาจะต้องออกไปทำงานที่บริษัท และคงจ้างพี่เลี้ยงให้มาเลี้ยงแต่อาก็อยากให้ลูกได้กินนมของอาด้วย”
“หนูเข้าใจแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องซื้อที่นุ่งที่นึ่งขวดนมด้วยใช่ไหมคะ”
“ใช่จ้ะอาว่าจะต้องซื้อเตรียมพร้อมไว้ก่อนคลอด”
“แล้วเครื่องปั๊มนมนี่ล่ะคะ” หญิงสาวถามคุณอาเพราะในแผนกนี้มีเครื่องปั๊มนมขายอยู่หลายยี่ห้อ
“เครื่องปั๊มนมยังไม่ต้องหรอกเพราะที่โรงพยาบาลบอกว่าในวันที่คลอดลูกทางโรงพยาบาลจะมีเครื่องปั๊มนมหลายๆ แบบมาให้ทดลองใช้จากนั้นเราค่อยซื้อก็ได้จ้ะ”
“แล้วเราต้องซื้อเปลด้วยมั้ยคะ” เธอถามเมื่อเห็นเปลเด็กที่มีดนตรีประกอบอยู่ตรงหน้า
“พี่พัทธ์ว่ายังไงดีคะเราซื้อไปเลยดีมั้ย”
“แต่พี่ว่าเดือนหน้าค่อยมาซื้อดีมั้ยตอนนี้ห้องของลูกยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ ช่างบอกว่าน่าจะใช้เวลาเก็บงานอีกหน่อย”
“ถ้างั้นเราดูยี่ห้อไว้แล้วถึงเวลานั้นพี่พัทธ์มาซื้อได้ไหม”
“ได้สินิตเลือกที่ตัวเองถูกใจเลยแล้วเดี๋ยวถึงวันนั้นพี่จะมาซื้อเอง”
ทั้งสามคนใช้เวลาอยู่ในห้างสรรพสินค้าเกือบสองชั่วโมง จากนั้นเจตนิพัทธ์ก็พามารับประทานอาหารก่อนจะพามาส่งที่บ้านส่วนเขาก็กลับเข้าไปทำงานที่บริษัทอีกครั้ง
“เสื้อผ้าเด็กๆ น่ารักทั้งนั้นเลยนะคะอานิตเห็นแบบนี้แล้วหนูอยากกลับไปเป็นเด็กจังเลยค่ะ แต่น่าเสียดายจังเลยนะคะ”
“เสียดายอะไรเหรอไอซ์”
“ก็หนูจะอยู่ที่นี่อีกแค่สองเดือนแล้วก็คงต้องกลับอังกฤษก่อนที่อานิตจะคลอดหนูอดอุ้มหลานเลย”
“แต่ไอซ์กลับไปเรียนอีกแค่ปีเดียวเองนะ เอาไว้อาจะส่งรูปไปให้ไอซ์ดูบ่อยๆ หรือจะวิดีโอคอลมาหาอาก็ได้”
“ก็ได้ค่ะ อานิตตื่นเต้นมั้ยคะ”
“ตื่นเต้นสิ”
ศานิตาตอบหลานสาวไปแบบนั้นแต่ในใจของเธอไม่ได้รู้สึกยินดีอย่างที่พูดออกมาเลย มันมีความรู้สึกบางอย่างเธออยากจะรีบคลอดและรีบกลับไปทำงานที่บริษัทมากกว่าจะอยู่กับบ้านแบบนี้
“อานิตเป็นอะไรหรือเปล่าคะทำไมเงียบไป”
“เปล่าจ้ะวันนี้อาเดินมากไปหน่อยก็เลยรู้สึกเหนื่อย”
“อานิตนอนพักนะคะเดี๋ยวหนูก็จะกลับไปหาคุณย่าเหมือนกันจะไปเล่าให้คุณย่าฟังข่าววันนี้ว่าวันนี้เราซื้ออะไรมาบ้าง”
“ฝากบอกคุณย่าด้วยนะเย็นนี้อาจจะไม่ไปกินข้าวที่บ้าน”
“ได้ค่ะหนูจะบอกคุณย่าแล้วจะให้คนเอากับข้าวมาให้อ่านิตกับอาพัทธ์ที่บ้านนะคะ”
“เอามาให้อาคนเดียวก็ได้เย็นนี้เอาพัทธ์มีนัดคุยงานกับลูกค้า”
“ได้ค่ะอานิต หนูไปก่อนนะคะ”