เช้าวันนี้ทุกคนก็มานั่งทุกคนในก็มานั่งรับประทานอาหารกันตามปกติแต่คนที่ขาดไปก็คือไอศิกา
“ไอซ์ไปไหนทำไมยังไม่ลงมากินข้าวอีก แป้งขึ้นไปดูสิว่าตื่นหรือยัง ” คุณอดิศรหันบอกเด็กรับใช้
“ไม่ต้องหรอกแป้ง”
“ทำไมล่ะครับคุณแม่”
“ก็เมื่อคืนหนูไอซ์เขาขอออกไปเที่ยวกับเพื่อนและจะค้างที่บ้านเพื่อนเลย”
“เพื่อนที่ไหนครับแม่”
“ได้ยินว่าชื่อมินนี่นะ เรียนมาด้วยกันตอนม.ต้น ดิศเคยได้ยินชื่อนี้บ้างไหมล่ะ” คุณอุไรวรรณถามลูกชาย
“เคยได้ยินอยู่ครับแม่ แต่ไม่แน่ใจว่าบ้านเธออยู่ที่ไหน แล้วไอซ์บอกแม่ไหมว่าจะกลับมากี่โมง”
“หนูไอซ์บอกแม่ว่าจะกลับมาไม่เกินเที่ยง ว่าแต่ดิศถามหาลูกสาวแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าครับก็แค่เห็นว่าไม่มากินข้าวพร้อมกัน”
“วันศุกร์เสาร์อาทิตย์นี้ทุกคนว่างกันไหม” คุณอุไรวรรณถามสมาชิกภายในครอบครัว
“นิตว่างอยู่แล้วค่ะคุณแม่ ว่าแต่คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“แม้ว่าจะชวนไปเที่ยวหัวหินกันน่ะหนูไอซ์อยากกินอาหารทะเลสดๆ แม่เองก็อยากไปเที่ยวและไหว้พระด้วยก็เลยอยากจะชวนทุกคนไปด้วยกัน”
“ผมคงไม่ว่างครับแม่ มีนัดตีกอล์ฟกับเพื่อนไว้แล้ว”
“พัทธ์ล่ะ ว่างไหม”
“วันศุกร์นี้ใช่ไหมครับคุณท่าน” แม้จะแต่งงานและเป็นลูกเขยของคุณอุไรวรรณแต่เจตนิพัทธ์ก็ยังเรียกคุณท่านเหมือนในอดีตซึ่งคุณอุไรวรรณก็เคยบอกให้เรียกแม่แต่ชายหนุ่มยืนยันจะเรียกแบบเดิม
“ใช่จ้ะวันศุกร์มันเป็นวันหยุด แม่อยากให้พวกเราได้ไปเที่ยวพักผ่อนกันอีกหน่อยนิตก็ท้องโตกว่านี้คงจะเดินทางไกลไม่ค่อยสะดวก”
“นิตก็อยากไปเที่ยวทะเลเหมือนกันค่ะแม่ อยากกินอาหารทะเลถ้ายังงั้นเราไปกันวันศุกร์นะคะ พี่พัทธ์ตกลงไปกับเราด้วยมั้ย”
“ไปสิพี่เองก็ไม่ได้พักผ่อนมานานแล้วเหมือนกัน”
หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปเหมือนกับทุกๆ วัน
ไอศิกากลับเข้ามาที่บ้านในเวลาสิบโมงเช้าหญิงสาวรีบขึ้นห้องนอนของตัวเองอาบน้ำแต่งตัวและลงมาหาคุณย่าที่ห้องนั่งเล่น
“เป็นยังไงบ้างล่ะลูกเมื่อคืนไปเที่ยวมาสนุกไหม”
“ก็สนุกดีค่ะ”
“วันหลังก็ชวนมินนี่มาทานข้าวที่บ้านเราบ้างนะย่าไม่เคยเจอเพื่อนหนูคนนี้เลย”
“คงไม่มีโอกาสแล้วล่ะค่ะคุณย่า”
“ทำไมล่ะหรือว่าทะเลาะกับเพื่อนมา”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะแต่มินนี่เขาจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดกับครอบครัวของเขา เมื่อคืนเราก็เลยคุยกันจนดึก” ไอศิกาโกหกคำโตเพราะเธอคิดว่าจากนี้คงไม่ออกไปไหนกับเพื่อนที่ชื่อมินนี่อีกแล้ว
“หนูยังมีเพื่อนที่ไหนอีกไหมล่ะ”
“ก็มีอีกหลายคนค่ะคุณย่าแต่เราไม่ได้ติดต่อกันนานแล้วส่วนใหญ่ก็จะทักทายและเจอกันในโซเชียลเท่านั้นค่ะ”
“หนูคงเหงาแย่เลย”
“เหงานิดหน่อยค่ะคุณยา แต่คุยกับคุณย่าก็หายเหงา”
ปกติแล้วช่วงวันหยุดไอศิกาจะกลับมาอยู่บ้านอย่างมากก็ไม่เกินหนึ่งเดือนจากนั้นหญิงสาวก็จะรีบบินกลับไปที่อังกฤษแต่ปีนี้เธอวางแผนว่าจะอยู่ที่นี่จนกระทั่งเปิดเทอมแต่ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานอย่างที่วางแผนไว้หรือเปล่า
“คุณย่าคะ เราจะไปทะเลกันวันไหนคะ”
“วันศุกร์นี้จ้ะ ย่าคุยกับทุกคนแล้ว”
“มีใครไปบ้างคะคุณย่า”
“ก็มีย่า มีหนู อานิตและก็อาพัทธ์”
“แล้วคุณพ่อล่ะคะ”
“พ่อหนูมีนัดตีกอล์ฟกับเพื่อนน่ะ เขาก็เลยไม่ว่าง”
“ว้าหนูนึกว่าครั้งนี้เราจะไปกันครบทุกคนเสียอีก”
“ครั้งนี้ไปไม่ครบเดี๋ยวครั้งหน้าเราค่อยวางแผนไปเที่ยวกันใหม่ก็ได้ ไอซ์ยังอยู่กับย่าอีกตั้งสองเดือน”
“นั่นสิคะว่าแต่คุณย่าไม่อยากจะไปเที่ยวอังกฤษกับหนูบ้างเหรอคะ หนูจะพาคุณย่าเที่ยวเอง”
“ย่านั่งเครื่องบินนานๆ ไม่ไหวหรอกลูกมันปวดเข่า”
“แต่เวลาคุณย่าอยู่ที่บ้านคุณย่าก็นั่งถักไหมพรมพวกนี้ทั้งวันวันเลยนะคะ”
“เอาความจริงไหมล่ะหนูไอซ์”
“ความจริงอะไรเหรอคะคุณย่า”
“ย่ากลัวเครื่องบินน่ะย่ากลัวว่ามันจะตก”
“โธ่...คุณย่าเครื่องบินมันไม่ได้ตกกันง่ายๆ นะคะถ้านับแล้วอุบัติเหตุทางรถยนต์ยังจะมากกว่าอุบัติเหตุทางเครื่องบินอีกนะคะ”
“แต่ย่ากลัวจริงๆ นะเคยขึ้นครั้งหนึ่งแค่กรุงเทพไปเชียงใหม่แกก็แทบจะเป็นลมแล้วถ้าต้องนั่งหลายชั่วโมงแบบนั้นย่าคงได้หัวใจวายตายบนเครื่องบินแน่”
“ถ้าคุณย่ากลัวเครื่องบิน ถ้างั้นเราเที่ยวที่ประเทศไทยใกล้ๆ ก็ได้ค่ะเดี๋ยวหนูจะเป็นคนขับรถพาคุณย่าเที่ยวเอง”
“ไอซ์เคยขับรถที่เมืองไทยที่ไหนล่ะเดี๋ยวก็ได้เกิดอุบัติเหตุกันพอดีถ้าอยากจะไปไหนก็บอกลุงอ่ำเขาพาไปดีกว่า”
“ก็ได้ค่ะคุณย่า”
“จะไปเที่ยวทะเลหนูมีชุดว่ายน้ำหรือยังล่ะไอซ์”
“ยังเลยค่ะคุณย่า ถ้ายังงั้นวันนี้เราไปซื้อชุดว่ายน้ำกันดีไหม”
“หนูคงไม่ได้หมายถึงซื้อชุดว่ายน้ำให้ย่าใช่ไหม”
“หนูหมายถึงอย่างนั้นแหละค่ะคุณย่า เราใส่ชุดว่ายน้ำคู่กันดีไหมคะ”
“ย่าไม่เอาด้วยหรอกคนอื่นจะได้หัวเราะเอาสิ อายุปูนนี้แล้วยังจะมาใส่ชุดว่ายน้ำเหมือนเด็กวัยรุ่น”
“หนูไอซ์อยากจะไปซื้อก็ไปเลยให้ลุงอ่ำขับรถไปให้ก็ได้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะเดี๋ยวหนูเรียกแท็กซี่ไปก็ได้น่าจะสะดวกกว่า คุณย่าจะฝากซื้ออะไรไหมคะ”
“ย่าฝากหนูซื้อชุดว่ายน้ำให้ลูกแก้วสักชุดได้ไหมเดี๋ยวเอาเงินที่ย่า” ลูกแก้วที่คุณอุไรวรรณพูดถึงก็คือหลานสาวของแม่ครัวที่มาอยู่ด้วยช่วงโรงเรียนปิดเทอม
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เงินที่คุณย่ากับคุณพ่อให้หนูไว้ใช้ยังไม่หมดเลย หนูว่าจะซื้อชุดอย่างอื่นให้ลูกแก้วด้วยคุณย่าว่าดีไหมค่ะ”
“ดีเหมือนกันนะแต่ก่อนไปเรียกเจ้าตัวมาถามก่อนดีกว่านะว่าชอบสีอะไรแล้วใส่เสื้อผ้าเบอร์ไหนจะได้ไม่ซื้อมาผิด”
“ได้ค่ะคุณย่า”
ระหว่างที่ย่าอุไรวรรณนั่งถักหมวกไหมพรมไอศิกาก็นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างๆ หญิงสาวกำลังลังเลว่าจะตอบข้อความของมินนี่ดีหรือเปล่าเพราะเธอไม่แน่ใจว่าเรื่องเมื่อคืนว่ามินนี่รู้เห็นด้วยหรือเปล่า
“เมื่อคืนไอซ์กลับยังไง โต้งบอกเราว่าไอซ์ไปกับผู้ชายคนอื่น”
“เขาไม่ใช่ผู้ชายคนอื่นหรอกเขาเป็นอาของเราเอง”
“อ๋อได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจไปหน่อย เราก็นึกว่าไอซ์ไปกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้”
“เป็นห่วงเราด้วยเหรอ”
“ก็ต้องห่วงสิ เราเป็นคนชวนไอซ์ออกมาเที่ยวก็อยากจะรู้ว่าไอซ์กลับถึงบ้านปลอดภัยดีหรือเปล่า”
“เรากลับถึงบ้านปลอดภัยดี”
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ใช่ไหมไอซ์”
“ทำไมมินนี่ถามแบบนั้นล่ะ มินนี่รู้อะไรมาใช่ไหม”
“เราขอโทษน้าไอซ์เราไม่รู้ว่าเพื่อนของแฟนเราเขาจะเอายาปลุกเซ็กซ์ให้ไอซ์กินถ้าเรารู้เราก็คงห้ามเขาไปแล้ว”
“มินนี่ไม่รู้จริงๆ หรือรู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ล่ะ”
“เราไม่รู้จริงๆ นะไอซ์เป็นเพื่อนเรานะ”
“ถ้าไม่รู้ก็ไม่เป็นไร”
“ถ้าไอซ์ไม่เชื่อก็ลองไปถามโต้งดูสิว่าเรื่องนี้มินนี่รู้เห็นกับเขาหรือเปล่า”
“เราคงไม่กล้าคุยกับเขาแล้วและคิดว่าคงไม่ออกไปเที่ยวกับมินนี่อีก”
“ทำไมล่ะไอซ์ไม่ไว้ใจเราเหรอ เราขอสาบานเลยว่าเรื่องนี้เราไม่รู้เรื่องจริงๆ”
“ไม่ต้องสาบานหรอกมินนี่ เราได้ติดใจอะไรมินนี่หรอก เพียงแต่คิดว่าการเที่ยวกลางคืนแบบนี้มันไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่ ถ้ามินนี่อยากจะเจอเรา อยากจะเที่ยวกับเราจริงๆ เราไปเที่ยวตามคาเฟ่ดีกว่านะ”
“ก็ได้จ้ะ ถ้าอย่างงั้นไอซ์อยากไปเที่ยววันไหนบอกเรามาได้เลยนะ”
“แล้วเราจะนัดไปก็แล้วกันนะ แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้เพราะเราต้องไปเที่ยวกับที่บ้าน แค่นี้ก่อนนะเราจะต้องไปเตรียมตัวบายจ้ะ”
ไอศิกาถอนหายใจเพราะไม่รู้ว่าเรื่องนี้ตนเองจะเชื่อเพื่อนได้มากแค่ไหน
“เป็นอะไรลูก”
“หนูอ่านข่าวของดาราเลิกกันแล้วอินไปหน่อยค่ะคุณย่า หนูขอตัวไปหาลูกแล้วก่อนนะคะเดี๋ยวจะได้ไปซื้อชุดค่ะ”
“กลับมากินข้าวกับย่าไหม”
“ถ้าข้าวกลางวันคงไม่ทันค่ะ แต่ตอนเย็นหนูจะรีบกลับมาให้ทันนะคะ”