7 | DEMI - ใครจะไม่อยากรู้จัก 'สามีในอนาคต'

1878 Words
7 [DEMI] ใครจะไม่อยากรู้จัก 'สามีในอนาคต' (เฮ้ย! ใช่คุณเฉินมาเฟียฮ่องกงป่ะ?) "เดมี่ไม่รู้ว่าเขาเป็นมาเฟียที่ไหนยังไง รู้แต่ว่าเป็นเพื่อนคุณคิระ" เดี๋ยว นึกออกแล้ว... อ้อแอ้เคยทำงานกับคุณคิระมาก่อน เพราะคุณคิระเปิดสถานบริการบนตึกเซอร์วิสฟูลออปชัน ถ้าคุณเฉินเป็นเพื่อนคุณคิระอ้อแอ้ก็น่าจะรู้จักด้วย ฉันเปิดสปีกเกอร์โฟนวางมือถือไว้บนเตียง ก่อนจะถอดเสื้อผ้าเปียกๆออกและคุยสายไปด้วย "อ้อแอ้รู้จักเขามากแค่ไหน เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม" (ตอนทำงานที่บาคุระได้ยินพี่ๆพูดถึง ว่าคุณเฉินมาอะไรแบบนี้) "มาใช้บริการ?" (มาหาคุณคิระ) ฉันเป็นคนสมาธิสั้นและความจำสั้น เวลาที่โฟกัสอย่างหนึ่งจะไม่สนใจสรรพสิ่งรอบๆเลย ฉันเลยจำไม่ได้ว่าเจอเขาเมื่อไหร่ ยิ่งไม่พูดหรือแสดงตัวก็เหมือนกับอากาศที่ฉันมองไม่เห็น "เขาไปถึงที่นั่นได้ใช้บริการรึเปล่า เดมี่ถามเฉยๆนะ เพราะเขาดูเป็นคนลึกลับและถึงตัวเดมี่ด้วย วันนี้เขาโน้มมาใกล้ๆน่ะ ไม่รู้ใจเต้นแรงเพราะตกใจหรือหวั่นไหวก็ไม่รู้" (อ๊าย ทำไมฉันต้องเขินด้วยเนี่ย แต่ฉันไม่เคยได้ยินใครพูดว่าคุณเฉินใช้บริการสาวๆนะ ตอนเขามาเหมือนต้องสะสมบุญอย่างใหญ่หลวงเพื่อได้ขึ้นไปเสิร์ฟน้ำชายามบ่าย ไม่ได้นัวเนีย ไม่ได้ปรนนิบัติ แค่ไปโผล่ให้เห็นก็เป็นบุญมากแล้ว เผื่อว่าเขาจะสนใจอ่ะนะ แต่ก็ไม่เห็นจะมีใครพูดว่าถูกเลือก) ฉันโยนเสื้อผ้าเปียกๆลงพื้นแล้วไปคว้าชุดคลุมมาใส่แทน "ยังไงต่อเหรอ" (เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงที่ไหนมาเกะกะใกล้ตัวมั้ง ยิ่งกว่าคุณคิระ ช่างเลือกด้วย เอาเป็นว่าฉันรู้แค่นี้แหละ ถ้าเขาเป็นเจ้าบ่าวของเธอ เธอคงต้องไปถามคุณเดนิสเองว่านิสัยเป็นยังไง พี่สาวเธอน่าจะคัดเลือกมาอย่างดีแล้ว อิอิ) อ้อแอ้ขำพิลึก ขำเหมือนคนโรคจิต "เดมี่กลัวเสียงหัวเราะอ้อแอ้นะ" (ง่ะ ก็แค่นึกภาพแล้วน่าเอ็นดู ลูกแกะตัวน้อยกับพญาเสือโคร่ง) แต่ตอนที่เขาใช้สูทคลุมไหล่และเข้ามาใกล้ๆจนหลังฉันติดประตูรถ มันก็ไม่ต่างจากแบบนั้นเลยนะ... "เดมี่อยากให้เป็นเขานะ" (กรี๊ดดดดด เพราะอะไร?) "เขาหล่อ" เหตุผลมีแค่นี้เลย เพราะในชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว นอกจากเค้กสตรอว์เบอร์รีและสิ่งที่จรรโลงใจ อิทธิพลฉันมี เงินฉันก็มี แต่มีสามีหล่อเหมือนพระเอกซีรีส์อยู่ข้างๆมันคงดีต่อใจไม่น้อย ส่วนนิสัยให้เป็นเรื่องรอง (นี่คือเหตุผล?) อ้อแอ้ถามอีกครั้ง "ใช่ค่ะ แล้วอ้อแอ้คิดว่าเป็นเขาไหม" (เดาว่าเป็นคุณเฉิน ถ้าเขาไม่แต่งงานมีลูกมีเมียแล้วอ่ะนะ แต่เรื่องนี้ฉันไม่เคยได้ยินใครพูดถึง แต่ไม่พูดถึง... ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีป่ะ ฉันพูดงงรึเปล่า?) ฉันชะงักเล็กน้อย จริงสินะ เขาดูโตมากๆและดูดีมากถ้ามีครอบครัวแล้วก็ไม่แปลก "นั่นสิ ตอนนี้สูทเขาอยู่กับเดมี่ด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้รีบเอาไปคืนดีกว่า ถ้าเขามีเจ้าของแล้วเดี๋ยวเป็นเรื่องเอา" (เดี๋ยวนะ สูทคุณเฉินไปอยู่กับเธอได้ไง) "เมื่อคืนเดมี่ตัวเปียก" ฉันเล่าให้อ้อแอ้ฟังว่าตัวเองโดนมดกัดเดมี่น้อยจนต้องรีบติดรถกลับไปกับคุณเฉิน เพราะงานแต่งอยู่ไกลและเป็นแค่เนินหญ้าไม่มีห้องน้ำ แต่ระหว่างทางกลับทนไม่ไหวเลยจบที่แบบนั้น อ้อแอ้ขำไปห้านาทีกลับมาคุยสายต่อก็พูดไปกลั้วหัวเราะไป มันน่าอายมากเลย... และบอกตามตรงว่าฉันยังอายคุณเฉินไม่หาย หวังว่าเขาจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครต่อใครนะTT ••• เช้าวันต่อมาฉันออกมานั่งกินมื้อเช้ากับนมร้อนที่ระเบียง กำลังคิดอยู่ว่าจะคืนสูทตัวนั้นยังไง หันไปมองกี่ครั้งก็อดใจเต้นไม่ได้ เหมือนสูทจะตัดมาเพื่อเขา สีดำเหลื่อมๆแดงคล้ายมีเส้นใยของไหมซาตินฝรั่งเศสทออยู่ด้วยกันเป็นเอกลักษณ์ของเขาจริงๆ 'ก๊อก ก๊อก ก๊อก' ฉันวางแก้วนมร้อนทันทีแล้วรีบย้ายสูทไปไว้ในตู้ ก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตูห้อง "อ้าวคุณแม่ กู๊ดมอร์นิ่งค่า^^" พอคุณแม่เห็นฉันก็ยกหลังมืออังหน้าผากทันที "ตัวไม่ร้อนไม่ป่วยนะ แม่เห็นเดมี่ตื่นสายเลยเป็นห่วง" ฉันไม่ค่อยแข็งแรง ขี้โรคและกะหม่อมบาง ไม่เหมือนเจเจ้เดนิส เรื่องปกติมากๆที่คุณแม่จะเป็นห่วงถึงขั้นรีบขึ้นมา "เดมี่ไม่ป่วยเลยค่ะกำลังกินมื้อเช้าพอดี คุณแม่กินด้วยกันไหม" คุณแม่เดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะหันมาตอบฉัน "ไม่ล่ะแม่กินมาแล้ว แต่แม่มีเรื่องจะคุยกับลูก...เรื่องสำคัญ" ฉันจับมือท่านไปนั่งที่ระเบียง ไม่ใช่อะไรห่วงนมร้อนและห่วงของกิน กลัวมันจะเย็นและชืดซะก่อน "มีเรื่องอะไรคะ^^" คุณแม่มองมือฉันที่จับส้อมกับมีดหั่นครัวซองต์ "คู่หมายของลูกน่ะ เขาอยากเลื่อนงานแต่งเข้ามาอีก" มือฉันชะงัก เงยขึ้นมองหน้าคุณแม่ "ทำไมเขารีบล่ะคะเดมี่ยังเรียนอยู่เลย" "แม่ก็ไม่รู้ แต่คุณพ่อตกลงแล้ว เดนิสก็ไม่พูดอะไร ลูกจะโอเคไหม ถ้าไม่โอเคก็บอกคุณพ่อกับพี่สาวเราไปนะ แม่เองไม่อยากบังคับเลย เพราะแต่งงานมันทั้งชีวิตของลูก" "แต่งได้ก็หย่าได้นี่คะคุณแม่ ทั้งชีวิตอะไรง่ะ-*-" "แต่เขาเป็นมาเฟีย" "ทำไมคะ เราก็มาเฟีย" "ถ้ามีการหย่าร้างกันมันอาจจะกระทบกับธุรกิจ อำนาจ และความไม่มั่นคงของพันธมิตร เอาเป็นว่าเรื่องนี้เดมี่ต้องคิดดีๆก่อนจะตกลงกับคุณพ่อนะ" ฉันพยักหน้าเบาๆจิ้มครัวซองต์ที่หั่นแล้วมากิน ครัวซองต์ที่นี่แข็งไปหน่อย สตรอว์เบอร์รีก็ติดเปรี้ยว เฮ้อ... เศร้ากว่าผู้ชายเลื่อนงานแต่งเข้ามาอีก "เดมี่ หยุดกิน-_-!" "เดมี่หิวค่ะคุณแม่ รอก่อนค่ะเดี๋ยวให้คำตอบแน่นอน" "โอ๊ย เจ้าลูกคนนี้ น่าหงุดหงิด คิดดีๆรอบคอบนะลูก" "โอเคค่ะ แต่คุณแม่คะ... ใบ้เดมี่หน่อยค่ะ เจ้าบ่าวของเดมี่กับเจ้าบ่าวของเจเจ้ใครหล่อกว่ากัน^^" คุณแม่ที่กำลังลุกขึ้นนั่งลงอีกครั้ง ท่านขมวดคิ้วท่าทางคิดหนักและถอนหายใจออกมา ตอบยากขนาดนี้เลยเหรอ "ไม่มีใครสู้คุณพ่อตอนหนุ่มๆสักคน" "แหมมมมมมมมม" ริมฝีปากสวยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ "เอาเป็นว่าเรื่องหน้าตาไม่ผิดหวังแน่นอน รีบตัดสินใจนะลูกมีเวลาแค่หนึ่งเดือน และถ้าอยากรู้ว่าเป็นใครลองไปถามเดนิสหรือคุณพ่อดูดีกว่า แม่คงบอกไม่ได้" ฉันยิ้มตอบจนตาหยีก่อนที่คุณแม่จะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง เรื่องอยากรู้ว่าเป็นใครคงไม่ต้องถามเฉลยแล้วมั้ง เพราะเมื่อวานคนที่มีความเป็นไปได้มีไม่กี่คนเอง พอกินมื้อเช้าที่ไม่ค่อยอร่อยเสร็จ ฉันก็ไปแต่งตัวสบายๆตั้งใจจะออกไปเดินเล่น แต่เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าเอื้อมไปหยิบเดรสก็เหลือบไปเห็นสูทของคุณเฉิน เกือบลืมไปเลยแหะ... ฉันต้องคืนสูทเขานี่น่า ฉันรีบแต่งตัวให้เสร็จ และตัดสินใจเปิดประตูห้องเดินไปหาบอดี้การ์ดของตัวเองที่ยืนเฝ้าอยู่ "พี่พลคะ เดมี่ถามอะไรหน่อยค่ะ" พี่พลก้มคำนับ "ครับ" "คุณเฉินแขกของคุณคิระเขายังพักที่รีสอร์ตไหมคะ พอรู้ไหมคะว่าเขาอยู่ห้องไหน" พี่พลนิ่งไปครู่ ก่อนจะก้มหัวให้ฉันแล้วแตะหลังหูสอบถามคนอื่น ได้คำตอบยังๆ ตื่นเต้นนะ "คุณเฉินกลับแล้วครับคุณเดมี่ ตั้งแต่ตีสี่ของเมื่อคืนครับ" จากนั้นยกข้อมือดูนาฬิกา "ตอนนี้คงบินกลับฮ่องกงไปแล้วครับ" อ้าว... แล้วสูทล่ะ ทิ้งสูทเป็นล้านแบบนี้เลยเหรอ "คุณเดมี่มีธุระอะไรกับคุณเฉินครับ ให้ผมประสานงานไปไหมครับ" ฉันส่ายหน้าทันที "ไม่เป็นไรค่ะ แค่จะขอบคุณเรื่องเมื่อคืน พี่พลไปพักเถอะค่ะวันนี้ฟรีๆไม่ต้องดูแลเดมี่นะ เดี๋ยวเดมี่จะออกไปขับรถกอล์ฟเล่นในสวนเอง" "ครับผม" ในสวนเลิศดนุถูกล้อมรั้วและมีการตรวจตราตลอดเวลา ฉะนั้นจะไปนั่งพักผ่อนที่ไหนไม่จำเป็นต้องพกบอดี้การ์ดไปด้วย อีกอย่างฉันชอบความเป็นส่วนตัว อยากอยู่เงียบๆคนเดียว พอรู้ว่าคุณเฉินกลับฮ่องกงแล้ว ฉันก็เดินกลับห้องหยิบสูทของเขาพับใส่กระเป๋าเดินทางไว้ ก่อนจะทาครีมกันแดดและหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็ก เดินไปติดต่อขอรถกอล์ฟไปขับเล่น อากาศดีมากฉันแวะถ่ายรูปหลายที่เลย รอบๆสวนมีต้นไม้ใหญ่เป็นร้อยปี ส่วนสวนผลไม้ก็แบ่งเป็นโซนๆ จนมาถึงบ้านไม้ริมลำธารเมื่อคืนปลายเท้าที่เหยียบคันเร่งอยู่ก็ชะงัก ฉันหันไปมองและตัดสินใจจอดรถกอล์ฟไว้หน้าบ้าน ก่อนจะเดินไปที่ชานไม้ที่ยื่นออกไป ฉันถอดรองเท้าผ้าใบไว้แล้วนั่งหย่อนขา ปล่อยให้น้ำเย็นๆไหลผ่าน... และปล่อยให้เจ้าปลาตัวจิ๋วตอดเท้าเล่น น่ารักจัง หนุบหนับและจั๊กจี้ ฉันหยิบมือถือถ่ายมันลงไอจีสตอรี่แล้วตั้งแคปชันเล็กๆที่มุมล่างสุด DEMII_ : เจ้าปลาตัวน้อย เท้าของเดมี่อร่อยมุ้ยคะ ••• [Special Part] -ฮ่องกง- 'ครืด~' ร่างสูงที่กำลังเดินไปขึ้นรถเปิดสูท และหยิบมือถือขึ้นมาดู DEMII_ อัพเดทสตอรี่ เขาเผยยิ้มที่มุมปาก เฉินมีแอคลับไว้สอดส่องว่าที่ภรรยาเด็กและตั้งแจ้งเตือนไว้ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นลำธารเมื่อคืน ขายาวๆก็รีบก้าวขึ้นรถอย่างไวเพื่อตั้งใจดูข้อความที่เธอพิมพ์ ศึกษาภาษาไทยมาสักพัก... 'ปลา' เขาอ่านออก 'เท้า' เขารู้ 'อร่อย' ก็รู้ แล้วคำว่า 'มุ้ย?' มันคืออะไร "แปลคำนี้ให้กู" มาเฟียหนุ่มส่งมือถือให้หย่งเล่อมือขวาตัวเองอย่างร้อนใจ คนรับไปถึงกับลนลานรีบอ่าน "มะ มะ ม่วย" "หรือหมี?" เฉินออกความเห็น และเท้าศอกกับเข่าตัวเองอย่างจริงจัง "ม่วย ม่อย หมอย หมา" "เร็วสิวะ!" เขาเร่ง "ครับๆ! ผมขอถ่ายรูปไปถามล่ามนะครับ สักครู่ครับคุณเฉิน" คนใจร้อนร้อนใจเหลือเกิน อยากรู้ว่าเดมี่อัพเดทสตอรี่นั้นเธอเอ่ยถึงเขาบ้างรึเปล่า...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD