ทั้งคู่กลับมาจนถึงทางเข้ารีสอร์ต เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตะวันฉายกำลังเดินหัวเสียตามหาคนที่หายไปจากห้องพัก ดวงตาคู่คมจ้องมองพร้อมกับรู้สึกไม่พอใจกับภาพที่เห็นตรงหน้าในตอนนี้เลยสักนิด
"พี่ซัน"
"หายไปไหนมาน่ะ ฉันตามหาตั้งนานก็ไม่เจอ"
สายตาที่จ้องมองคนทั้งคู่ รู้สึกเคืองกับสิ่งที่เห็นอยู่ไม่น้อย ทำไมต้องขึ้นหลังคนแปลกหน้ามาแบบนี้ด้วยนะ
"เอ่อ..พอดีว่าเมษาเขาเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยครับ ข้อเท้าเจ็บเดินเองไม่ไหว ผมเลยอาสามาส่งให้ครับ"
ปรเมศวร์รับรู้ถึงความไม่ปกติ เพราะสายตาของคนตรงหน้าที่จ้องมองมา บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเขาไม่พอใจและกำลังโกรธเคืองกันอยู่
"ยืนได้ไหม มานั่งหลังฉันนี่ ไปรบกวนเขาทำไม ไม่หัดเกรงใจคนแปลกหน้าบ้างนะเมษา"
"พี่เมศวร์วางเมษาลงก่อนเถอะค่ะ"
เมษาบอกอย่างรู้สึกเกรงใจ และไม่ชอบสายตาของสามีที่มองจ้องหน้ากันอยู่
"เดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่ห้องก็ได้นะครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะ วางเมษาลงตรงนี้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวแฟนเมษาเขาจะดูแลเมษาต่อเอง"
ปรเมศวร์หันไปจ้องมองชายหนุ่มหน้าตาดีตรงหน้าอีกครั้ง สามีของเมษางั้นเหรอ ไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมเขาถึงได้มองจ้องหน้าไม่พอใจมากขนาดนี้ จนต้องพาคนตัวเล็กไปวางลงที่นั่งม้าหินอ่อนที่อยู่ไม่ไกล ทั้งที่ใจจริงอยากไปส่งให้ถึงห้องพักตามที่ตั้งใจเอาไว้
"คนนี้ชื่อพี่เมศวร์ค่ะ เป็นเจ้าของรีสอร์ตที่นี่ ส่วนนั่นสามีเมษาชื่อพี่ซันค่ะ"
หญิงสาวแนะนำสองหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวให้ได้รู้จักกันอีกครั้ง ปรเมศวร์ยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตร แต่สีหน้าของอีกคนกลับดูไม่อยากเป็นมิตรด้วยเท่าไหร่นัก
"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"
"ครับ เช่นกัน"
ตะวันฉายตอบกลับเพียงเท่านั้น ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าของเมษา จับข้อเท้าข้างที่เจ็บขึ้นมา เห็นบวมแดงมากจนอดสงสารไม่ได้
"เดี๋ยวผมให้คนเอาเจลเย็นกับยาแก้ปวดไปให้ที่ห้องนะครับ ยังไงผมขอตัวไปดูแลลูกค้าคนอื่นก่อน"
ปรเมศวร์บอกอย่างเข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้า ไม่อยากให้เมษาและผู้ชายคนนี้ต้องมีปัญหากันเพราะความเข้าใจผิด มองจากสีหน้าของตะวันฉายแล้วดูไม่พอใจเขากับเมษาอยู่มาก
"ขอบคุณนะคะพี่เมศวร์"
เมษาส่งยิ้มให้กับคนตรงหน้าอีกครั้ง ปรเมศวร์จึงเดินจากตรงนั้นไปในที่สุด
สายตาคมของคนที่ได้ชื่อว่าสามีจ้องมองคนบาดเจ็บตรงหน้า เมื่อเมษาจ้องมองกลับมารอยยิ้มเมื่อครู่จำต้องหุบลงแทบจะทันที
"ไปรู้จักมักคุ้นกับเขามากขนาดนั้นเชียว?"
"ทำไมล่ะคะ พี่เมศวร์เขาเฟรนลี่จะตาย รู้จักไว้ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ"
"มัวแต่อ่อยมันหรือไง ถึงได้แกล้งเดินขาพลิกแพลงให้ตัวเองเจ็บแล้วขี่หลังมันกลับมาแบบนี้"
"ทำไมเหรอคะ พี่ซันหึงเมษากับเขาหรือไง ถึงต้องทำหน้าไม่พอใจกับเรื่องแค่นี้"
"หึงบ้าน่ะสิ ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนั้น แต่ถ้าคนอื่นที่มาร่วมงานเห็นเข้า เขาจะต้องคิดว่าฉันมีเมียที่แรดและร่าน สวีทหวานกับผู้ชายคนอื่นทั้งที่มากับผัว!"
ริมฝีปากเล็กขบเม้มเข้าหากันอีกครั้ง ไม่อยากจะทะเลาะกับเขาเพราะเรื่องไร้สาระแบบนี้เลย จำต้องฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นเดิน พร้อมกับจะก้าวเดินกลับไปที่ห้องพักด้วยตัวเอง แต่ความเจ็บปวดที่มีทำให้เกือบจะล้มลงกับพื้นจนได้ อ้อมแขนของคนที่ยืนข้างกายเข้ามาประคองเอาไว้อย่างไม่รอช้า
"รู้ว่าเดินไม่ได้ยังจะเดินอีกนะ จะเรียกร้องความสนใจไปถึงไหน"
"เมษาจะกลับห้องไปนอนพัก เมษาปวดหัว"
อ้อมแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามช้อนอุ้มร่างของคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง เรียวแขนเล็กโอบตวัดรอบคอของสามีเอาไว้เพราะกลัวตกลงกระแทกกับพื้นปูนด้านล่าง สายตาคมดุจ้องมองหน้าขาวเนียนอย่างไม่สบอารมณ์อีกหน
"หนีไปเที่ยวถึงไหนกันมาล่ะ?"
"ไปดูน้ำตกมาค่ะ ลื่นล้มตรงโขดหินที่น้ำตกจนขาเจ็บอย่างที่เห็น"
"หึ เจ้าป่าเจ้าเขาคงทำโทษ ที่กล้าหนีฉันไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น"
"ไม่ใช่ซะหน่อย พี่เมศวร์เขาก็แค่เทคแคร์ดูแลลูกค้าในฐานะเจ้าของรีสอร์ต พี่ซันคิดน่าเกลียด"
"แต่สายตาที่มันจ้องมอง มันอยากกินไปทั้งตัวเธอเลยนะเมษา"
"บ้า พี่ซันคิดไปเอง เมษาไม่ได้สนใจเขาหรอกค่ะ แต่ผิดกับพี่ซันนะที่นั่งทานข้าวกับแฟนเก่า สายตาดูมีความสุขมากเลยนะคะ"
พูดจบก็รีบเบือนหน้าหนี ไม่อยากจะมองคนไม่มีหัวใจเลย ความผิดตัวเองเท่าเส้นผม ส่วนความผิดคนอื่นกลับมองใหญ่เท่าภูเขา ทั้งที่ไม่มีอะไรเกินเลยเกิดขึ้นแม้แต่นิด แค่ไปเที่ยวกับผู้ชายบ้างทำไมต้องมาประชดประชันกันขนาดนี้
"ก็แค่ทานข้าวกันไหม ฉันไม่ได้ไปนอนเอากับเขาซะหน่อย จะมาหึงหวงอะไรไร้สาระ"
"ก็เพราะไร้สาระไงคะ เมษาถึงไม่อยากเดินเข้ามาเป็นก้างขวางคอตอนที่เห็นพี่อยู่กับเธอคนนั้น ไม่อยากเข้าไปทำให้พี่เสียหน้า เมษาก็เลยต้องออกไปเที่ยวกับพี่เมศวร์แทน พี่จะได้มีความสุขกับคนเก่าให้พอใจ"
คำพูดของเมษาทำให้ตะวันฉายถึงกับส่ายหน้าให้ เพราะรู้ดีว่าระหว่างเขากับกรกนกไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว ถ้าตราบใดที่ตัวเองยังมีเมษาเป็นคู่ชีวิตอยู่ จะไม่มีเรื่องมือที่สามเกิดขึ้นให้เสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน