"ขอบคุณนะคะลุงพวน"
ตามฝันหันไปบอกคนขับรถ ตอนนี้เธอยืนอยู่หน้าโรงแรงระดับหกดาวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนี้
ตามฝันยังไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิต เธอไม่ได้เผื่อใจที่จะกลับมาเจอเรื่องแบบนี้ เธอไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี้เลย ระหว่างที่ชีวิตเหนื่อยล้าแต่โชคดีเงินในบัญชีเธอมีเยอะ ทำให้อะไรๆมันไม่แย่ไปหมดทุกอย่าง
ตามฝันมีหุ้นในบริษัทของบิดา 20% เป็น หุ้นของแม่ที่ก่อนเสียท่านเขียน พินัยกรรมยกให้เธอ และยังมีเงินสดและเครื่องเพชรอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ในธนาคาร นอกจากนี้บิดายังให้เงินเดือนเธอทุกเดือน อยู่ที่อังกฤษเธอแทบไม่ได้ใช้จ่ายอะไร แถมเธอยังทำงานพาร์ทไทม์ได้เงินกินเงินใช้สบายๆ
"ระหว่างนี้ก็ถือว่ามาพักผ่อนก็แล้วกัน"
ตามฝันพูดให้กำลังใจตัวเอง ไม่นานก็มีพนักงานผู้ชายใส่สูทผูกไทด์รีบเข้ามาช่วยยกกระเป๋าไปด้านในโรงเเรม ที่ถูกตกแต่ง อย่างสวยหรู สมกับราคาห้องที่แพงหูฉี่ ตามฝันเปิดห้องไว้หนึ่งอาทิตย์ลวด เธอตั้งใจว่าจะกอบโกยความสุขและกิจกรรมทางบกและทางน้ำให้เต็มที่ ระหว่างนี้ก็จะได้วางแผนชีวิตตัวเองด้วย
ว่าจะเอายังไงต่อไป กว่าจะได้เข้าที่พักเรียบร้อยก็บ่ายมากแล้ว
ตามฝันมองไปรอบๆพอใจกับขนาดของห้อง ที่มีเฟอร์นิเจอร์อำนวยความสะดวกครบครันและวิวตรงหน้าที่มองผ่านกระจกใส่บานใหญ่ มองออกไปเป็นวิวทะเลสีฟ้าครามกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
"ต้องรวยขนาดไหนถึงสร้างโรงแรมได้ขนาดนี้"
ตามฝันชมวิวแล้วนึกถึงเจ้าของโรงเเรมว่าต้องรวยมากแน่ๆ
"พระอาทิตย์จะตกดินแล้วไปถ่ายรูปหน้าหาดดีกว่า"
นึกได้แบบนั้นเธอก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า
กลัวจะไม่ทันถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก
เธอเกล้าผมขึ้นเป็นมวยไว้บนศรีษะ โชว์ลำคอระหง ในชุดเสื้อบิกินีสีเหลือง เลมอนคลุมทับด้วยเสื้อตาข่ายสีขาวคู่กับกางเกงยืนขาสั้นอวดเนื้อนวลโชว์ ทรวดทรงเอว แต่ตามฝันค่อนข้างชินกับการเเต่งตัวแบบนี้ เธอหมุนซ้ายหมุนขวาสำรวจตัวเองก่อนจะหยิบกล้องถ่ายรูปคู่ใจมาห้อยคอไว้และเดินออกมาที่ลิฟท์เพื่อลงมาชั้นล้างสุดของโรงแรม
ขณะยืนอยู่ในลิฟท์ เธอยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูบอกเวลาว่าจะหกโมงเย็นแล้ว
"จะทันไหมเนี่ย"
เธอบ่นคนเดียว พอประตูลิฟท์เปิดเธอก็รีบพุ่งตัวออกไปทันทีเพราะกลัวว่าจะไม่ทันถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก
"ว้ายย...ขอโทษค่ะ"
เธอพูดเป็นภาษาอังกฤษ
เมื่อเธอเดินชนเข้ากับชายหนุ่มร่างใหญ่เล่นเอาเธอกระเด็นหงายหลังเลยทีเดียวดีว่าเขาขว้าเอวเธอไว้ได้เสียก่อน และที่เธอตกใจมากกว่านั้นชายชุดดำตัวใหญ่สองคนกรูเขามาประชิดตัวเธอไว้ทันที
จนชายหนุ่มที่คว้าเอวเธอไว้ต้อง ส่งสัญญาณมือให้ถอยออกไป
"ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ"
ชายหนุ่มคนนั้นตอบเธอเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน
ตามฝันตกใจกับผู้ชายชุดดำสองคนไม่หาย
"ค่ะ..ฉันไม่เป็นไรและต้องขอโทษอีกครั้งฉันขอตัวก่อน"
เธอตอบเป็นภาษาอังกฤษและรีบบิดตัวให้หลุดออกจากอ้อมแขนของชายแปลกหน้า ความหล่อของเขาก็ไม่ได้ช่วยให้ตามฝันอยากเข้าหาเลยสักนิด
พอเป็นอิสระตามฝันก็รีบเดินออกมาจากจุดนั้นทันที
"คนบ้าอะไรตัวโตยังกับยักษ์ยังต้องมี บอดี้การ์ดดูแลอีก ทำตัวเหมือนพวกมาเฟียไปได้"
ตามฝันบ่นให้คนแปลกหน้าที่ชนกันเมื่อกี้
"หึ...โลกมันกลมจริงๆ แถมยังสวยใช่ได้เลยแม่สาวน้อย"
ภาคินขึ้นมาถึงห้องรับรองที่วันนี่เขานัดคุยธุรกิจกับเพื่อนชาวสิงคโปร์ที่ยังมาไม่ถึง
"นายเรียกผมมีอะไรหรือเปล่าครับ"
ตะวันถูกเรียกให้มาหาด่วน รีบมารายงานตัวกับเจ้านาย
"ลูกสาวไอ้ธานีอยู่ที่นี้"
เจ้านายพูดแค่นี้เขาก็เข้าใจแล้ว
"ครับ..เดี๋ยวผมจะรีบเช็คให้ครับ"
"อืมม..ออกไปได้"
ตะวันโคร่งตัวก่อนจะเดินออกไปทันที
ตามฝันถ่ายรูปและเดินเล่นอยู่หน้าหาด
ดีว่าที่นี้เป็นหาดส่วนตัวต้องเป็นลูกค้าของโรงแรมเท่านั้นถึงจะมาเดินเล่นที่นี้ได้
ทำให้คนไม่พลุ่งพล่านและส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติมากกว่า ทำให้ที่นี้ค่อนข้างจะสงบ
ลมพัดเบาๆกับบรรยากาศยามเย็น ถึงมันจะชวนให้เหงาอยู่บ้างแต่เธอก็ชินกับการใช้ชีวิตคนเดียว
"ขออณุญาตครับนาย"
ตะวันเดินเขามาหาเจ้านายในเวลาต่อมา ในขณะที่ภาคินกำลังเล็งกล้องส่องทางไกลไปที่ร่างบางเธอยืนกอดอกหันหน้ามองทะเลอย่างโดดเดี่ยวเงียบๆคนเดียว
"ว่ามา"
เขาบอกลูกน้องแต่สายตายังจดจอกับภาพที่มองผ่านกล้องส่องทางไกลอย่างตั้งใจ
"ตามฝัน อายุ25 จบจากอังกฤษลูกสาวคนเดียวของธานีเเม่เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว เหมือนว่าจะมีปัญหากับแม่เลี้ยงเลยออกจากบ้านมาพักที่นี้เธอเปิดห้องไว้หนึ่งอาทิตย์ครับ"
ภาคินเอากล้องส่องทางไกลลง และเดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน และนั่งลงที่เก้าอี้ตัวใหญ่ในที่ประจำของตัวเอง
"แล้วงานที่ฉันสั่งไปถึงไหนแล้ว"
"ทุกอย่างเป็นไปตามแผ่นเรียบร้อยดีครับ"
"ดี..."
"ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ"
มีเสียงดังขึ้นข้างๆ
ตามฝันหันไปมองยังต้นเสียง ก็พบกับชายหนุ่มหน้าตาดีเลยทีเดียว เธอนั่งอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ในเลาจน์ชองโรงแรม
"เชิญค่ะ ตรงนี้สำหรับลูกค้าของโรงเเรม
อยู่แล้ว"
ตามฝันบอกนิ่งๆและหันมาจิบเครื่องดื่มของตัวเองต่อ
ภาคินที่เดินเข้ามาในเลาจน์หันไปสะดุดตาเข้ากับผู้หญิงในสุดเสื้อสายเดียวสีดำที่โชว์แผ่นหลังขาวเนียนให้เห็นแต่ไกล กับกางเกงยีนส์เข้ารูปผมยาวสลวยถูกรวบมาไว้รวมกันที่ซอกคอด้านซ้ายเหมือนจงใจโชว์แผ่นหลังให้ผู้คนได้เห็นชัดๆ เขาชะงักเท้าทันที
"มีอะไรหรือเปล่าครับนาย"
ตะวันถามเมื่อเห็นเจ้านายหยุดเดินกระทันหัน
"นายเข้าไปบอกพวกไอ้จอมทับว่าฉันติดธุระจะเข้าไปเลทนิดหน่อย ฉันจะนั่งอยู่ตรงนี้สักพัก"
ตะวันมองตามสายตาเจ้านายที่กำลังจ้องไปที่หญิงสาวคนหนึ่งก็พอจะเข้าใจ
"ได้ครับนาย"
ตะวันหันไปสั่งลูกน้องให้ยืนดูแลนายอยู่ห่างๆ สองคน เพราะที่นี้คือโรงแรมของภาคินเองก็เลยไม่มีอะไรให้ต้องกังวนมากก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้าไปด้านในที่เป็นส่วนของห้องรับรอง วีวีไอพี ที่มีเพื่อนของภาคินรออยู่ที่นั้น
ภาคินเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์และนั่งลงที่เก้าอี้โดยเว้นระยะห่างจากตามฝันเพียงแค่เก้าอี้คั่นกลางตัวเดียว
พร้อมสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์
บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่เห็นแขกมาใหม่ถึงกับทำตัวไม่ถูกทำงานที่นี้จะไม่รู้จักเจ้าของโรงแรมได้ไงและก็รู้ถึงดีถึงกิตติศักดิ์ของเขาดีเอาเป็นว่าถ้าเขาจะฆ่าใครสักคนรับรองว่าเขาไม่ทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็นแน่นอน แต่ถึงแม้จะเกร็งแค่ไหน
บาร์เทนเดอร์หนุ่มก็ต้องทำหน้าทีต่อไปให้ดีที่สุด
"ให้เกียรติผมได้เลี้ยงเครื่องดื่มคุณสักแก้วได้ไหมครับ"
ชายหนุ่มแปลกหน้าที่นั่งอยู่ข้างๆตามฝันพูดขึ้น
"ดิฉันไม่รับเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้าต้องขอโทษด้วยนะคะ"
ตามฝันพูดอย่างรักษามารยาทแต่ก็ไม่เปิดโอกาสให้ใครเข้ามาตีสนิทได้
"เหมือนเดิมอีกหนึ่งคะ"
ตามฝันสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์อีกแก้วโดยไม่ได้สนใจกับผู้คนรอบตัวรวมถึงชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆเธออีกคน
ภาคินยกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินเธอตอบหนุ่มหน้าตี๋ที่นั่งอยู่ข้างๆ
(เล่นตัวใช้ได้)
เขาคิดในใจพร้อมกับยกเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
"เหมือนเดิมอีกหนึ่ง"
ตามฝันหันไปมองตามน้ำเสียงเข้มๆที่สั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ แต่ก็ต้องขมวดคิ้วรู้สึกคุ้นๆแต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน
(ช่างเถอะ)
แล้วเธอก็หันมาสนใจกับเครื่องดื่มของตัวเองต่อ
"ขอแนะนำตัวได้ไหมครับ ผม...ต้นกล้าครับ"
หนุ่มหน้าตี๋ยังไม่ละความพยายาม
"เอ่อ...ค่ะ ดิฉันตามฝันค่ะ"
ตามฝันตอบกลับอย่างจำใจ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มีมิตรย่อมดีกว่ามีศัตรู
"ชื่อเพราะจังเลยนะครับ"
ต้นกล้ายิ้มหวานส่งให้
"ขอบคุณค่ะ"