บทที่ 3 เริ่มต้นภารกิจ

1893 Words
สองวันต่อมา ร่างอรชรของเอวาสวมชุดสีดำเงารัดรูปจนแนบสนิทไปทุกสัดส่วน อวดเอวคอดกิ่วกับหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินมาตรฐานของเธอ เอวาขับรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันสีดำเงา โดยมีอัญญาที่ขับรถบิ๊กไบค์คันใหญ่ตามมาติดๆ เช่นกัน สองสาวขับรถมาเรื่อยๆ โดยที่สองข้างทางเป็นป่าใหญ่อันแสนมืดมิด เสียงเครื่องยนต์ของรถทั้งสองคันดังกึกก้องไปทั่วป่า ก่อนที่พวกเธอจะพุ่งทะยานตามเส้นทางขึ้นมายังเขาลูกหนึ่งที่มองสถานที่ลับได้อย่างชัดเจนที่สุด เวลาผ่านไปไม่นานสักเท่าไหร่ รถบิ๊กไบค์ทั้งสองคันก็ขับเคลื่อนมาจอดสนิทลงตรงข้างถนนบนเขาลูกหนึ่งเป็นจุดที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านล่างมากกว่าจุดอื่น เอวาเอื้อมมือไปดับเครื่องยนต์รถ ก่อนที่เธอจะกวาดเรียวขายาวก้าวลงมาจากรถบิ๊กไบค์ด้วยท่าทางมั่นคงแข็งแรง มือบางยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมาแนบไว้ที่ดวงตาของเธอ ดวงตากลมโตมองผ่านกล้องส่องทางไกลสีดำขนาดเล็กก็พบกับผู้คนมากมายที่กำลังหลั่งไหลเข้าไปในสถานที่ลับแห่งนั้น ทุกคนสวมชุดราตรียาวและชุดสูทมาพร้อมกับรถสุดหรูมูลค่าหลายล้าน และที่สำคัญทุกคนสวมหน้ากากเพชรเพื่อปกปิดใบหน้ากันทุกคน ซึ่งเอวารับรู้ได้ทันทีว่างานนี้ต้องมีแต่ผู้คนที่ร่ำรวยระดับเศรษฐีมาประมูลเพชรอย่างแน่นอน “ที่นี่แหละ” เอวาเอ่ยขึ้นมา เสียงหวานของเธอไม่ได้นุ่มนวลเหมือนหญิงสาวปกติทั่วไป ออกจะแข็งกระด้างและดุดันเลยด้วยซ้ำ “เราต้องแยกกันไป” เอวาเอ่ยต่อ “ค่ะ” อัญญาตอบกลับสั้นๆ ก่อนที่เธอจะบิดคันเร่งรถบิ๊กไบค์ของเธอพุ่งทะยานลงไปก่อนข้างล่างก่อน เอวายกกล้องส่องทางไกลออกจากดวงตากลมโต เธอเดินกลับมาที่รถมอเตอร์ไชต์ของตัวเองและตวัดเรียวขาสวยขึ้นคร่อมรถเอาไว้ จากนั้นหญิงสาวก็บิดคันเร่งพร้อมกับใช้เท้าใส่เกียร์เพื่อให้รถบิ๊กไบค์พุ่งไปยังจุดหมายทันที เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง… ร่างอวบอิ่มสวมชุดราตรียาวสีดำเกาะอกจนเต้าสวยล้นทะลัก ใบหน้าสวยคมถูกปกปิดด้วยหน้ากากสีเดียวกันกับชุดที่ประดับด้วยกากเพชรมันวาว เรือนผมสีน้ำตาลเข้มถูกมัดรวบตึงไว้ตรงกลางหัว เผยให้เห็นลำคอระหงขาวเนียนได้อย่างชัดเจน เอวาค่อยๆ เดินกรีดกราดเข้ามาตามเหล่าบรรดาเศรษฐีที่สวมใส่หน้ากากเพชรกันทุกคน มือบางถือกระเป๋าใบเล็กสีดำในมือ สายตาของหญิงสาวกวาดไปมารอบงานเพื่อสอดส่องและประเมินสถานการณ์ เอวาหยุดเดินอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เธอจะล้วงหยิบเครื่องมือสื่อสารสีดำออกมาจากกระเป๋าถือ มือเล็กกดพิมพ์ข้อความหาน้องสาวตัวเองอยู่ไม่นานสักเท่าไหร่ ‘ถ้างานนี้ไม่สำเร็จให้รีบหนีไปทันที รักน้องนะ’ ‘รักพี่เหมือนกันนะ’ ดวงตากลมโตอ่านข้อความของน้องสาวที่ตอบกลับมาทันที จากนั้นเธอก็เก็บโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋าและเดินเข้ามาในงานอย่างเชื่องช้า เอวาก้าวเดินเข้ามาจนถึงในงานประมูลเพชรสุดหรู สถานที่ลับแห่งนี้เหมือนคฤหาสน์ขนาดย่อยที่อยู่กลางป่าใหญ่ ถึงแม้ภายนอกจะตกแต่งดูเหมือนเป็นคฤหาสน์ของแวมไพร์ แต่ทว่าเมื่อเข้ามาถึงด้านในแล้ว ทุกอย่างที่อยู่ในคฤหาสน์เล็กหลังนี้กลับดูหรูหราและตระการตาไปหมด เวลาผ่านพ้นไปเรื่อยๆ เอวายังคงเดินเตลิดเตร่อยู่ภายในงานเพื่อหาลู่ทางในการทำภารกิจของเธอต่อไป ซึ่งในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่กับการประมูลเครื่องเพชรสุดหรูหราบนเวทีประมูลอยู่นั้น เอวาเลือกที่จะเดินออกมาอย่างเงียบๆ เพื่อหาห้องที่ดูจะเป็นเป้าหมายของเธอในวันนี้ ร่างอรชรในชุดราตรียาวสีดำรัดรูปเดินกรีดกราดสำรวจรอบคฤหาสน์เล็กด้วยท่าทางระแวงระวังอยู่ตลอดเวลา เมื่อเดินลึกเข้ามาเรื่อยๆ เธอหยุดชะงักที่ปลายทางเดินยาวสายหนึ่ง แสงไฟส่องให้เห็นชายชุดดำยืนเรียงรายอยู่เกือบสิบคน พวกเขาแต่ละคนมีรูปร่างที่ใหญ่โต บึกบึน และดวงตาเย็นชาราวกับไร้ชีวิตบวกกับใบหน้านิ่งเรียบไร้อารมณ์ไม่ต่างจากสปายสาวสักเท่าไหร่ เธอเหลือบมองประตูไม้บานหนึ่งที่อยู่ถัดไปจากพวกนั้นไป เธอคาดว่านั่นแหละคือห้องเป้าหมายของเธอ “ทางนี้ไปไม่ได้นะครับ” เสียงของชายฉกรรจ์คนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของหญิงสาว ทำให้เอวาหันขวับไปมองทันที “ขอโทษนะคะ พอดีฉันหลงทางค่ะ” เสียงหวานดัดเสียงให้ดูออดอ้อนมากยิ่งขึ้นแสร้งทำเป็นว่าตัวเองเป็นแค่หญิงสาวที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไร “คุณผู้หญิงหาอะไรอยู่ครับ” ชายชุดดำเอ่ยถามต่อ “พอจะมีห้องน้ำอีกไหมคะ พอดีห้องน้ำด้านในคนเต็มเลยค่ะ” “ไปฝั่งซ้ายของตึกได้เลยครับ” “ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวส่งยิ้มบางๆ ให้กับชายชุดดำเบาๆ จากนั้นเธอก็เดินกรีดกรายไปตามทางที่บอดี้การ์ดชุดดำบอกกล่าวทันที ‘กลับไปได้แล้ว พี่เจอห้องแล้ว ที่เหลือเดี๋ยวพี่จัดการเอง’ เอวาไม่ลืมที่จะพิมพ์ข้อความส่งทิ้งไว้ให้กลับน้องสาวของเธอ งานประมูลเพชรใต้ดินดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งจบงาน เมื่อทุกคนกลับกันไปจนหมดแล้ว เอวาซ่อนตัวอยู่ภายในห้องเก็บของที่มืดสนิทและมีกลิ่นอับชื้นจวบจนเธอสัมผัสได้ว่าไม่มีเสียงของผู้คนดังกึกก้องอยู่ภายในคฤหาสน์แห่งนี้แล้ว หญิงสาวผู้เลอโฉมจึงค่อยๆ เปิดแง้มประตูออกมาจากห้องอย่างเชื่องช้า ใบหน้าสวยคมหันมองซ้ายมองขวาอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะใส่ส้นสูงแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับการเดินที่เงียบเหมือนย่องเบาของเธอเลยสักนิด หญิงสาวพยายามเดินหลบหลีกองศาของกล้องวงจรปิดได้อย่างช่ำชอง เอวาเดินตรงไปยังห้องที่ควบคุมกล้องวงจรปิดที่เธอได้เดินสำรวจมาแล้วทันที ใช้เวลาไม่นาน ร่างอรชรสวมชุดราตรียาวก็มาถึงทางยาวที่เดินไปยังห้องวงจรปิดที่มีบอดี้การ์ดสองคนยืนเฝ้าอยู่ เธอแอบอยู่หลังกำแพงก่อนที่เธอจะชะเง้อหน้าไปมองชายร่างใหญ่สองคนที่ยืนเฝ้าหน้าห้องอยู่ เอวาหันกลับมาชั่วครู่พร้อมกับมือบางเคลื่อนต่ำลงไปหยิบของบางอย่างออกมาจากร่องอกของตัวเอง สิ่งนั้นก็คือปากกายิงยาสลบที่เธอแอบพกเข้ามาในงานด้วย ซึ่งแน่นอนว่าถ้าคนอื่นมองก็คงคิดว่าเป็นเพียงปากการาคาแพงเท่านั้น แต่ข้อจำกัดของมันคือ…ปากกาด้ามนี้มันสามารถใช้ได้เพียงห้าครั้งเท่านั้น มือบางยกปากกาขึ้นมาและหันกลับไปเล็งใส่ลำคอของบอดี้การ์ดตัวใหญ่ทั้งสองคนที่ยืนเฝ้าหน้าห้องอยู่ ชายชุดดำล้มพับไปอย่างรวดเร็วเพราะยาสลบที่หญิงสาวยิงใส่พวกเขาออกฤทธิ์ทันที หญิงสาวไม่รอช้า ใบหน้าสวยคมภายใต้หน้ากากสีดำหันซ้ายหันขวาและรีบวิ่งไปที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดอย่างรวดเร็ว มือบางเอื้อมไปเปิดประตูห้องควบคุมกล้องวงจรปิดและเธอก็พบว่ามีชายชุดดำสองคนกำลังยืนรอเธออยู่ พวกเขาคงจะเห็นภาพจากในกล้องวงจรปิดแล้ว “เธอเป็นใคร!” เสียงทุ้มตะโกนขึ้นมาดังลั่น ก่อนที่เขาจะหันไปเอ่ยกับชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง “จัดการเธอ!” จากนั้นชายหนุ่มทั้งสองคนก็พุ่งตัวเข้ามาหาเอวาด้วยความเร็ว พวกเขาไม่ได้คิดจะใช้ปืนกับผู้หญิงตัวเล็กๆ เพราะคิดว่าแค่มือเปล่าก็เอาอยู่แล้ว แต่ทว่า… ผลัวะ! ผลัวะ! ตุบ! ตุบ! เอวาหลบการโจมตีของชายหนุ่มทั้งสองคนและหันกลับมาใช้มือเล็กฟาดเข้าที่ท้ายทอยของพวกเขาอย่างแม่นยำ ชายชุดดำทรุดฮวบลงกับพื้นทันทีเพราะระบบประสาทที่โดนจู่โจมอย่างกะทันหัน หญิงสาวปรายตามองพวกเขาที่นอนกองอยู่กับพื้นเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะหันหลังมายังแผงควบคุมต่อ ด้านหน้าของหญิงสาวมีหน้าจอคอมพิวเตอร์เรียงกันหลายอันที่มีภาพของกล้องวงจรปิดอยู่ ดวงตากลมโตมองและไตร่ตรองเพื่อประเมินฝ่ายตรงข้ามอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเธอก็ใช้เวลาอันน้อยนิดในการแฮ็กเข้าไปตัดสัญญาณกล้องวงจรปิดทุกตัวทันที เอวามีเวลาแค่ไม่กี่นาทีเพียงเท่านั้น เธอรีบถอดรองเท้าส้นสูงทิ้งถังขยะในห้องและรีบวิ่งออกจากห้องควบคุมตรงไปยังเส้นทางที่เป็นเป้าหมายของเธอทันทีโดยที่เธอพยายามหลบหลีกเหล่าบอดี้การ์ดที่วิ่งกรูกันมาที่ห้องควบคุมกล้องวงจร เสียงฝีเท้าหลายคู่กำลังวิ่งกันอย่างจ้าละหวั่น หญิงสาวแอบอยู่ตรงซอกกำแพงเล็กๆ ก่อนถึงเส้นทางที่ไปยังห้องนั้น “กล้องวงจรปิดมีปัญหา! รีบไปดูด่วน!” “อยู่เฝ้าหน้าห้องสองคน!” “ครับ!” เสียงของเหล่าบอดี้การ์ดที่กำลังวุ่นวายเพราะกล้องวงจรปิดโดนตัดสัญญาณไปอย่างกะทันหัน จึงทำให้ตอนนี้ภายในตึกกำลังวุ่นวายเป็นอย่างมาก พวกเขารีบวิ่งไปที่ห้องควบคุมเพื่อดูต้นสายปลายเหตุกันอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งด้านหน้าห้องเหลือเพียงแค่บอดี้การ์ดสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่ เอวาชะเง้อหน้าออกไปมองชายชุดดำทั้งสองคนและยกปากกาขึ้นมาเล็ง จากนั้นหญิงสาวก็ยิงยาสลบใส่พวกเขาทั้งสองคน เหมือนที่เธอทำกับชายชุดดำที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องควบคุมกล้องวงจรปิด เมื่อชายหนุ่มทั้งสองคนล้มพับไป เอวาจึงรีบสาวเท้าก้าวยาวๆ ตรงมายังห้องที่เป็นเป้าหมายของเธอ มือบางเอื้อมไปหยิบมีดสั้นและปืนที่อยู่ตรงเอวของบอดี้การ์ดชุดดำคนหนึ่งขึ้นมาถือเอาไว้ จากนั้นเอวาก็ลองเอื้อมมือไปบิดลูกดูก่อน ซึ่งแน่นอนว่ามันล็อกอยู่อย่างแน่นหนา หญิงสาวยกมีดสั้นที่เอามาจากชายชุดดำขึ้นมาแล้วสอดมันเข้าไปในช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างบานประตูกับกลอนด้านในอยู่สักพัก แกร๊ก! เสียงปลดล็อกดังขึ้นแผ่วเบา หญิงสาวหันซ้ายหันขวาเพื่อมองดูว่ามีใครตามหลังเธอมาหรือเปล่า เมื่อตรวจสอบจนมั่นใจแล้วไม่มีใคร เธอจึงค่อยๆ เปิดแง้มประตูออกอย่างช้าๆ จนท้ายที่สุดเอวาก็เข้ามาถึงในห้องนี้ได้สำเร็จ…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD