“แก!!” เสียงหวานร้องขึ้นมาดังลั่นเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงน้ำอุ่นร้อนจำนวนมากที่พุ่งเข้ามาในท้องน้อยของเธอ
“ไม่ต้องห่วงหรอก เธอไม่มีโอกาสได้ท้องลูกของฉันหรอกเพราะเดี๋ยวพอฉันเอาเสร็จเธอก็ต้องตายแล้ว” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
ราฟาเอลกดแช่แก่นกายใหญ่เอาไว้ไม่นานสักเท่าไหร่ เขาก็ค่อยๆ ดึงแท่งเอ็นออกมาจากถ้ำสีกุหลาบช้าๆ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปดึงรั้งกระโปรงยาวที่หญิงสาวนอนทับอยู่มาเช็ดแท่งลำลึงค์ใหญ่อย่างลวกๆ ก่อนที่เขาจะก้าวลงจากที่นอนและลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“หึ!” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปากด้วยสีหน้าเยาะเย้ย เมื่อเขาได้เห็นสภาพของหญิงสาวแบบเต็มตา เลือดสีแดงสดผสมกับน้ำกามเหนียวข้นไหลเยิ้มออกมาจากร่องสวาทสาวเปียกที่นอนเป็นวงกว้าง
หญิงสาวนอนหอบหายใจรวยรินพลางจ้องมองมาเฟียคนที่ย่ำยีความบริสุทธิ์ของเธอไปจนไม่เหลือชิ้นดีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและจงเกลียดจงชังชายหนุ่มเป็นอย่างมาก
มือแกร่งกอบกุมตัวตนของตัวเองแล้วยัดกลับเข้าไปในกางเกงเนื้อดี ราฟาเอลดึงรั้งกางเกงขึ้นมาพร้อมกับรูดซิปจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มหันหลังกลับและเดินออกจากห้องไปทันที
เอวามองตามหลังของชายหนุ่มด้วยความแค้นที่สุ่มอยู่ภายในใจของหญิงสาวอย่างเต็มเปี่ยม จนกระทั่งประตูห้องปิดสนิทลง เอวาจึงรีบมองสำรวจรอบๆ ห้องอีกครั้งพลางครุ่นคิดหาวิธีที่จะหนีออกไปจากที่นี้ให้ได้
ใบหน้าหวานผงกหัวขึ้นมาดูร่องรอยบนร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง น้ำเหนียวข้นปนกับเลือดสีแดงสดยังคงไหลปริ่มออกมาจากรูเล็กที่ฉีกขาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ตอกย้ำเธอได้เป็นอย่างดีว่ามันเพิ่งเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเธอไป
ราฟาเอลเดินออกมาจากห้องด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ลูกากับบอดี้การ์ดอีกสี่คนยืนเฝ้าหน้าห้องเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง เมื่อลูกาเห็นเจ้านายของเขาเดินออกมาจากห้องนั้น ลูกาจึงปรี่เข้ามาหามาเฟียหนุ่มทันที
“ไปตามหมอมา” เสียงทุ้มทรงหลังของราฟาเอลเอ่ยสั่งลูกน้อง
“นายครับ…แผลของนาย” คนสนิทเห็นแผลที่ต้นขาของเจ้านายมีเลือดไหลซึมทะลุผ้าก๊อซสีขาวออกมา
“ช่างมันเถอะ ลูเซียนอยู่ไหน”
“จับผู้หญิงอีกคนเอาไว้อยู่อีกฝั่งของตึกครับ” ลูกาตอบกลับเจ้านาย
“ไปตามมันมาหาฉันที่ห้องทำงาน”
“ครับนาย”
ราฟาเอลสาวเท้าก้าวยาวๆ ตรงไปยังห้องทำงานทันที ในระหว่างทางชายหนุ่มเอาแต่คิดถึงภาพของผู้หญิงคนนั้นที่ถูกเขากระทำย่ำยี ไม่ใช่ว่าเขาสงสารหรือเห็นใจเธอหรอกนะ แต่เขายังอยากสนุกกับเธอต่อมากกว่านี้
มาเฟียหนุ่มมาถึงห้องทำงานของตัวเองในเวลาต่อมา ร่างกำยำทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่ตรงโต๊ะทำงาน เขามองบาดแผลที่ต้นขาของตัวเองด้วยความรู้สึกที่แปลกใหม่ เขาทั้งรู้สึกโมโหและรู้สึกถูกใจหญิงสาวที่กล้าต่อกรกับเขาในเวลาเดียวกัน
เวลาผ่านไปไม่นานสักเท่าไหร่ ประตูห้องทำงานของเขาก็ถูกเปิดออกจากกว้างพร้อมกับร่างของลูเซียโน่ที่เดินเข้ามาในห้องอย่างช้าๆ
ราฟาเอลปรายตามองเพื่อนเล็กน้อยแล้วเขาก็พบว่าลูเซียโน่เองก็มีสภาพที่ยับเยินไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่นัก แต่ต่างกันตรงที่ว่าลูเซียโน่ได้แผลตรงหน้าผาก ส่วนเขาได้แผลที่ต้นขา ทั้งสองคนเนื้อตัวมีแต่ร่องรอยของการต่อสู้และเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง
“แสบใช่ย่อยเลยดิ” ราฟาเอลเอ่ยขึ้นมาในขณะที่ลูเซียโน่กำลังเดินตรงมายังโต๊ะทำงานของเขา
“มึงก็ไม่ต่างจากกูเลย เลือดไหลจะหมดตัวอยู่แล้วมั้ง” ลูเซียนมองไปที่บาดแผลตรงต้นขาของราฟาเอลพลางตอบกลับ ใบหน้าของเขามีเลือดไหลเยิ้มออกมาตามกรอบหน้าเล็กน้อยเพราะเขาใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเลือดออกไปบ้างแล้วก่อนที่เขาจะเดินมาที่ห้องทำงาน
“มึงไปทำแผลก่อนเถอะ แล้วค่อยกลับมาคุยกัน”
“เออ งั้นกูไปทำแผลก่อน” สิ้นเสียงลูเซียโน่ เขาหันหลังกลับไปและเดินออกไปจากห้องทำงานทันที
เวลาผ่านพ้นไปหลายชั่วโมง เอวาไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่เธอทำได้เพียงแค่นั่งใช้ความคิดพิจารณาถึงสถานการณ์และหาหนทางหนีออกไป จนกระทั่งประตูห้องถูกเปิดแง้มออกมา หญิงสาวจึงได้สติขึ้นมา เรียวขาเล็กหุบขาเข้าหากันทันทีโดยอัตโนมัติ
“พร้อมจะตายหรือยัง” เสียงทุ้มทรงพลังของราฟาเอลเอ่ยออกมาพร้อมกับร่างกำยำที่เดินเข้ามาภายในห้องอย่างช้าๆ ดวงตาคมกริบมองร่างเปลือยเปล่าที่มีรอยแดงเป็นจ้ำๆ เต็มตัวด้วยความรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“ฉันพร้อมตั้งนานแล้ว” เสียงหวานตอบกลับไปอย่างแข็งกระด้าง
“หึ!” ชายหนุ่มใช้สองมือล้วงกระเป๋าค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้หญิงสาวมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่เขาจะย่อตัวนั่งลงตรงปลายเตียง
“รู้อะไรไหม…ยิ่งฉันเห็นว่าเธออยากตายมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งไม่อยากจะฆ่าเธอง่ายๆ”
“ฝีมือเธอก็เก่งใช้ได้เลยนะ” ชายหนุ่มมองจ้องไปที่ดวงตาของหญิงสาว แน่นอนว่าเธอก็ไม่คิดที่จะหลบสายตาชายหนุ่มเช่นกัน
“มาอยู่กับฉัน” ราฟาเอลครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่สักพักใหญ่ๆ เขารู้สึกถูกอกถูกใจหญิงสาวอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่” หญิงสาวตอบกลับทันทีโดยที่เธอไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมากมาย
“คิดไว้แล้วว่าเธอต้องตอบแบบนี้” ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย คนพยศแบบนี้ไม่มีทางที่จะยอมเขาง่ายๆ หรอก ชายหนุ่มล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนที่เขาจะหันหน้าจอกลับมาให้เอวาดูอย่างช้าๆ
เอวามองจ้องหน้าจอโทรศัพท์ของชายหนุ่ม ดวงตากลมโตที่เคยแข็งกร้าวกลับสั่นไหวอย่างง่ายดายจนชายหนุ่มสังเกตเห็นอาการของเธอ
“ปล่อยเธอ” เสียงหวานบอกกล่าวชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย
“ดูเป็นห่วงผู้หญิงคนนี้มากเลยนะ เป็นอะไรกันล่ะ” สิ่งที่มาเฟียหนุ่มให้หญิงสาวดูอยู่ก็คือรูปของผู้หญิงอีกคนที่พวกเขาจับได้ก่อน
“เพื่อนสนิท คู่หู หรือพี่น้อง” เสียงทุ้มเอ่ยถามต่อด้วยน้ำเสียงที่ราวกับว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าหญิงสาว
“ไม่ใช่เรื่องของแก” เอวากัดฟันกรอด ภาพที่อยู่ตรงหน้าของเธอทำให้หัวใจดวงน้อยที่แข็งแกร่งสั่นวูบและรู้สึกหน่วงในใจ อัญญาถูกมัดติดไว้กับเก้าอี้ไม้เช่นเดียวกับเธอในตอนแรก แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือรอยแดงจ้ำที่ลำคอระหงของน้องสาวเธอที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าอัญญาก็ถูกกระทำไม่ต่างจากเอวา
“อยากให้ฉันปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปไหมล่ะ”
“จะเอาอะไรก็พูดมา” เอวาพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ต่อให้เธอจะอยากฆ่าเขามากแค่ไหนก็ตาม
“ฉลาดดี…มาอยู่กับฉัน แล้วฉันจะยอมปล่อยผู้หญิงคนนี้ไป”
“แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่านายจะยอมทำตามที่พูด”
“ตอนนี้เธอมีทางเลือกอื่นด้วยหรือไง” สิ้นเสียงของราฟาเอล หญิงสาวครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง
“ว่าไงแม่นักฆ่าคนสวย” ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกครั้ง
“ฉันไม่ใช่นักฆ่า”
“หึ! เลือกมา!” ใบหน้าหล่อเหลากระตุกยิ้มชั่วร้าย
“ได้! ฉันจะยอมรับข้อเสนอของแก” นี่คงเป็นวิธีเดียวที่เธอจะช่วยน้องสาวของตัวเองให้รอดพ้นไปได้ แล้วเธอค่อยมาคิดหาทางหนีทีหลังก็แล้วกัน
“ฉลาดเลือกดี” ราฟาเอลยกยิ้มอย่างชั่วร้าย เมื่อเขาได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว มือหนาหันโทรศัพท์กลับมาและกดโทรออกหาใครบางคนทันที
ชายหนุ่มยกโทรศัพท์แนบหูอยู่ชั่วครู่ เวลาผ่านไปไม่นานสักเท่าไหร่ ปลายสายกดรับสายและมาเฟียหนุ่มก็เอ่ยสั่งออกไปทั้งๆ ที่ดวงตาคมกริบก็ยังคงจับจ้องกับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอย่างไม่ละสายตา
“ปล่อยตัวเธอไป”