ตอนที่ 5

1125 Words
หญิงสาวข่มจิตข่มใจอยู่นาน พยายามสงบสติอารมณ์ไม่ให้ตกหลุมพรางของเขา ที่จริงเธออยากจะเปิดประตูออกไปต่อว่าเขาให้หูดับไปสักข้างเลยด้วยซ้ำ แต่รู้ดีว่าถ้าเธอเปิดประตูออกไป นั่นเท่ากับว่าเธอเปิดรับเสือให้เข้ามาขย้ำตัวเอง หญิงสาวจึงกำหนดลมหายใจเข้าออก ยุบหนอพองหนออยู่นาน กว่าจะสงบจิตใจลงได้ กว่านอนหลับก็เกือบค่อนคืน รุ่งเช้าวันใหม่ พรรณดาราและลูกๆเตรียมพร้อมที่จะกลับไร่ภูอิงฟ้า ลุงเพลิงของเด็กๆกำหนดไว้ว่าเธอต้องพาลูกๆกลับถึงไร่ก่อนเก้าโมงเช้า ซึ่งจากบ้านของอดีตสามีที่อยู่ใจกลางตัวเมืองไปถึงไร่ ใช้เวลาเดินทางเกือบหนึ่งชั่วโมง เพื่อไม่ให้เสียเวลา พรรณดาราจึงอยากจะกลับเลย แล้วค่อยแวะซื้ออาหารที่ร้านสะดวกซื้อให้ลูกรองท้องแทนมื้อเช้า แต่คุณปู่กัมพลและคุณย่ากิ่งแก้วรบเร้าให้อยู่ทานอาหารมื้อเช้าก่อน เพราะมื้อนี้คุณย่าเป็นคนเข้าครัวทำข้าวต้มกุ้งเอง จึงอยากให้หลานๆกินฝีมือตัวเอง หญิงสาวจึงไม่อาจปฏิเสธได้ สามแม่ลูกจึงร่วมรับประทานอาหารมื้อเช้าพร้อมกับคุณปู่คุณย่าที่บ้านก่อน ครู่เดียวหลังจากที่ทุกคนเริ่มรับประทานอาหารแล้ว กวีก็เดินหน้ายุ่งเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร ที่จริงไม่ได้ยุ่งแต่หน้า เพราะหัวเหอก็ยุ่งเหมือนไม่ได้จัดทรงก่อนออกจากห้อง “อ้าว! ตาวี ลืมหวีผมเหรอลูก ไม่หล่อเลยนะนั่น” คุณย่ากิ่งแก้วเอ่ยทักบุตรชายยิ้มๆ “เมียไม่รัก หล่อแล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับ” คนที่ถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับความหล่อของพ่อคนเสน่ห์แรงจิกตามองเขาด้วยความไม่พอใจ แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะจัดการกับอารมณ์ไม่พอใจด้วยการหันไปสนใจลูกๆทั้งสองที่ถูกนั่งขนาบข้างโดยคุณปู่คุณย่า “ข้าวต้มกุ้งของคุณย่าอร่อยมากเลยใช่ไหมคะพี่พร้อม น้องพริ้ง” สองพี่น้องกำลังเคี้ยวกุ้งแก้มตุ่ยต่างยกนิ้วโป้งสองข้างขึ้นมายื่นไปทางคุณย่า คนที่อุตส่าห์ลงทุนเข้าครัวเองเพื่อทำอาหารให้หลานกินถึงกับยิ้มแก้มปริ “อร่อยก็กินเยอะๆนะลูก และถ้าอยากกินบ่อยๆ ก็มานอนกับย่าบ่อยๆนะลูก” คุณย่ากิ่งแก้วลูบศีรษะพี่พร้อมเบาๆอย่างรักใคร่เอ็นดู “ครับคุณย่า พร้อมจะมาหาคุณย่าบ่อยๆนะครับ” พี่พร้อมพยักหน้ารับอย่างจริงจัง “น้องพริ้งก็จะมาหาคุณปู่บ่อยๆนะคะ” น้องพริ้งเงยหน้าบอกคุณปู่ที่นั่งอยู่ข้างๆ คุณปู่กัมพลพยักหน้ารับยิ้มๆ มือเหี่ยวย่นลูบศีรษะหลานสาวเบาๆ ราวกับว่าหลานสาวคือแก้วมณีล้ำค่าแสนเปราะบางที่ท่านต้องทะนุถนอม สัมผัสอย่างเบามือ “มาบ่อยๆนะลูก ปู่คิดถึง” พรรณดารารู้สึกว่าข้าวต้มกุ้งมื้อนี้ช่างฝืดคอเหลือเกิน เธอเห็นใจคุณปู่คุณย่า แต่เธอคงไม่สามารถกลับมาเป็นลูกสะใภ้ของท่านได้อีกแล้ว ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมแล้ว “ป้อนพี่หน่อยสิครับหนูพรรณ” คนที่กำลังตกอยู่ในห้วงความหม่นเศร้ากะพริบตาปริบๆ เมื่อคนตัวโตมานั่งลงข้างๆ แถมเขายังขยับเก้าอี้เข้ามาชิด จนแทบจะสิงร่างเธออยู่แล้ว “กินเองสิคะ มือก็มี ” พรรณดาราเหน็บ แล้วค้อนวงเล็กให้จอมก่อกวน หากแต่คนอยากใกล้ชิดเมียไม่ยอมรามือ กวีหยิบช้อนมาตักข้าวต้มในชามของหญิงสาวกินหน้าตาเฉย “พี่วี ชามของตัวเองก็มี มากินของหนูทำไม” พรรณดาราทำได้แค่แหวเบาๆ ขึงตาดุใส่คนหน้ามึน เพราะเกรงใจคุณปู่คุณย่าและลูกรักทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม กวียิ้มกรุ้มกริ่ม เขาเอนตัวเข้าใกล้อีกนิด แล้วกระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน “ก็ของหนูอร่อย พี่ชอบกินของหนู โอ๊ย!” พรรณดาราหยิกต้นขาแกร่งของคนพูดจาสองแง่สองง่ามสุดแรง จนคนถูกหยิกสะดุ้งโหยงและหลุดอุทานออกมา “ป๊ะป๋าเป็นอะไรคะ เจ็บตรงไหนคะ ให้คุณหมอน้องพริ้งตรวจอาการให้ไหมคะ” น้องพริ้งรีบถามป๊ะป๋า แววตาใสซื่อมองผู้เป็นพ่อด้วยความห่วงใย “มดกัดป๊ะป๋าครับน้องพริ้ง แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวป๊ะป๋าจะจัดการขยี้มดให้ตายคาอกเอง น้องพริ้งไม่ต้องห่วงป๊ะป๋านะครับ” น้องพริ้งพยักหน้ารับหงึกๆ แม้หัวคิ้วของเด็กหญิงแทบจะชนกันเพราะไม่เข้าใจป๊ะป๋าเอาเสียเลย น้องพริ้งงงว่าจะเอาอกขยี้มดจนตายได้ยังไงกันหนอ พรรณดาราขึงตาใส่อดีตสามีด้วยความโมโห เขาจะป่วนเธออะไรนักหนา อยู่ดีๆไม่เป็นหรือไงคะ ปี๊น ปี๊น ปี๊นนนนนน เสียงแตรรถยนต์ดังมาตั้งแต่ผ่านพ้นประตูรั้วบ้านเข้ามา ทำให้ทุกคนยุติทุกบทสนทนา และชะเง้อคอหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมกัน กระทั่งเสียงเบรกลากล้อหยุดนิ่งสนิทที่หน้าบ้าน ร่างสูงใหญ่ใบหน้าถมึงทึงลงมาจากรถด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก ผู้มาใหม่ปิดประตูรถด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนจะก้าวเร็วเข้าไปในบ้านด้วยความคุ้นเคย “ลุงเพลิง!” ดูเหมือนว่าเสียงร้องเรียกของหลานๆทั้งสองจะทำให้อารมณ์คนมาใหม่ดีขึ้นเป็นกอง เพลิงตะวันยิ้มรับแล้วนั่งลงคุกเข่า กางแขนสองข้างออก รอรับหลานทั้งสองที่ลงจากเก้าอี้โผเข้าสู่อ้อมกอดของเขาพร้อมกัน เพลิงตะวันอุ้มหลานทั้งสองขึ้นพร้อมกัน พี่พร้อมน้องพริ้งผู้รู้งานหอมแก้มลุงคนละข้างแบบรัวๆ เพราะสัญญาไว้เมื่อวานตอนโทรขออนุญาตอยู่ที่นี่ต่อว่า หากลุงเพลิงอนุญาตให้อยู่ต่อ จะหอมแก้มลุงเพลิงคนละสิบที “ชื่นใจลุงที่สุด ว่าแต่ทำไมแก้มข้างที่น้องพริ้งหอม ลุงเพลิงรู้สึกว่ามันเปียกๆล่ะครับ” น้องพริ้งยิ้มแฉ่ง รีบเอามือถูแก้มลุงเบาๆ “น้ำลายน้องพริ้งเองค่ะลุงเพลิง” เพลิงตะวันยิ้มให้หลานสาว เขาจุ๊บแก้มหลานทั้งสองคนละที ก่อนจะหันไปมองน้องสาวและสมาชิกบ้านหลังใหญ่ที่มองมาทางเขากันทุกคน ชายหนุ่มย่อตัวลงปล่อยหลานออกจากอ้อมอก เขาลุกขึ้นยืนแล้วประนมมือไหว้ทักทายผู้สูงวัยทั้งสอง และจงใจมองเมินอดีตน้องเขยที่อายุมากกว่าด้วยเพราะชังน้ำหน้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD