Marlin Part
เช้าวันต่อมา...
"อื้อออ โอ้ยปวดหัวชะมัดเลย"
ให้ตายเถอะหลังจากที่จบบทสวาทนั่น ฉันก็พอจะจำได้ว่าฤทธิ์ยาพวกนั้นค่อยๆ อ่อนลง แต่พอมาเช้านี้ทำไมฉันถึงได้ปวดหัวหัวแทบจะระเบิดแบบนี้ล่ะ หรือว่าเป็นเพราะโดนอีตาบ้าที่นอนคว่ำหน้าสบายเฉิบตอนนี้เล่นงานหนักไปเหรอ ร่างกายถึงได้เหมือนจะป่วยแบบนี้
แต่ช่างมันเถอะ ค่อยกลับไปกินยาที่คอนโดแล้วกัน
พอคิดได้ดังนั้น ฉันที่นั่งกุมขมับตัวเองจึงค่อยๆ พยุงตัวเองลุกออกจากเตียงเดินไปทางห้องน้ำอย่างช้าๆ ด้วยความยากลำบากนิดหน่อย เพราะร่างกายที่ถูกใช้หนักทีเดียวทั้งคืนมันทำให้ฉันปวดตรงส่วนนั้นที่โดนมังกรใหญ่กินค่อนข้างมากอยู่เหมือนกัน แถมยังปวดแสบเป็นบ้าอีกด้วย แต่ประเด็นมันก็ไม่เท่าหัวเข่าของฉันที่อ่อนแรงสั่นกึกๆ อยู่ตอนนี้หรอก
ให้ตายเถอะ! ฉันไม่เคยคิดว่าการเสียซิงครั้งแรกมันจะทำให้ตัวเองต้องมาตกอยู่ในสภาพที่ดูไม่จืดขนาดนี้
ทั้งปวด ทั้งเจ็บ ทั้งแสบ เหมือนร่างกายต้องการแยกชิ้นส่วนทางใครทางมันให้ได้อะ แต่เอาเถอะอย่างน้อยก็รู้แล้วละกันว่าการมีอะไรกันมันไม่ได้ฟินอะไรมากในตอนแรก แต่มันเหมือนโดนเชือดชิ้นส่วนต่างหาก
พอคิดได้แบบนั้นฉันก็เลิกสนใจอาการของตัวเองแล้วตั้งหน้าตั้งตาเดินเข้าห้องน้ำต่อไป หลังจากที่ใช้เวลาไปประมาณสองนาทีฉันก็เดินมาถึงห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีทุกอย่างเพียบพร้อม ขาเดินไปหยุดอยู่หน้ากระจกเรียบร้อยพร้อมเช็กใบหน้าของตัวเองในยามเช้า
ทว่า!
"เฮือก!" แม่เจ้านี่ร่างกายฉันไปโดนอะไรมาขนาดนี้เนี่ย ไอ้รอยดูดอย่างกับโดนผีดูดเลือดมาขนาดนี้....
นี่อย่าบอกนะว่าเป็นฝีมืออีตาบ้าที่นอนไม่รู้เรื่องราวอยู่ด้านนอกนั่นนะฮะ! ให้ตายเถอะนี่ฉันได้กับคนหรือว่าผีดูดเลือดเนี่ย!
ใช่ ฉันตกใจลูกตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้าตาเมื่อได้เห็นสิ่งที่ประทับอยู่บนผิวสวยๆ ของตัวเอง
ให้ตายเถอะ ฉันจะจัดการไอ้รอยแดงนี้ได้ยังไงบ้าง!
แต่ไวกว่าความคิดฉันก็รีบใช้มือตัวเองถูและเช็ดไอ้ตรงรอยแดงสีกุหลาบที่มีเป็นสิบรอยบนตัวอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำอย่างบ้าคลั่ง คือมันดูไม่ได้เลยอะ ฉันเหมือนพวกเป็นโรคอะไรสักอย่างที่ร้ายแรงมากๆ จนดูน่าขยะแขยง
แต่...
ที่น่าขยะแขยงกว่าคือ ยิ่งถูเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ออกไปจากร่างกายฉันเลย แถมยิ่งถูภาพที่หมอนั่นใช้ปากสัมผัสร่างกายของฉันแล้วดูดดึงจนเป็นรอยพวกนี้ก็ชัดขึ้นมาในหัวของฉันดื้อๆ
โอ้ยยย ปืนอยู่ไหน ฉันอยากได้ปืนไปยิงหัวอีตาบ้านั่นเดี๋ยวนี้!
"เช็ดให้ตายไอ้รอยพวกนั้นบนตัวคุณมันก็ไม่ออกหรอก"
ขวับ!
"นาย! เข้ามาได้ไง"
"คุณไม่ได้ล็อกประตูไว้" ฉันกลอกตาขึ้นใส่ทันทีที่ได้ยินคำตอบจากไอ้คนหน้าด้านที่ยืนไขว้ขาล้วงกระเป๋ากางเกงโชว์ซิกแพคกับรอยสักใต้ซี่โครงนั่นอย่างลอยหน้าลอยตา
คือเอางี้นะ ถ้ารู้ว่ามีคนใช้ห้องน้ำอยู่ มารยาทง่ายๆ ก็คือ ยืนรอข้างนอกก่อนปะ ไม่ใช่ถือวิสาสะเดินเข้ามายืนเก๊กหล่ออยู่ด้านหลังฉันแบบนี้
"มารยาทอะ รู้จักปะ?"
"คนกันเอง ไม่ต้องใช้ให้เปลืองหรอกมั้ง" โอ้ยย!!! ใครก็ได้ช่วยเอาไอ้บ้านี้ไปเก็บที หัวฉันจะระเบิด! ปวดตัวยังไม่พอยังต้องมาปวดประสาทอีกเหรอ?
"ผมต้องการตกลงเรื่องเมื่อคืนกับคุณ" ฉันมองหน้าคนด้านหลังผ่านกระจกตรงหน้าทันทีที่ได้ยินแบบนั้น หมอนี้จะเอาอะไรจากฉันอีก โดนฉันขโมยจูบไปแค่นั้นทำไมเรื่องมากขนาดนี้อะ ทำอย่างกับฉันไปขโมยเงินตัวเองไปได้
"ตกลงอะไร ก็บอกไปแล้วว่าได้กันครั้งเดียวก็คือจบ เมื่อคืนฉันพลาดท่าเองที่เสียรู้นาย อีกอย่างฉันก็แค่ไม่อยากเก็บไอ้ความบริสุทธิ์บ้าบอนั่นด้วย แค่หาคนสอนงานที่เร้าใจ ต่อไปฉันจะได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่สักที"
ฉันว่าสีหน้าเชิดทำเป็นไม่แคร์กับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เอาจริงๆ ก็ไม่แคร์อย่างที่ว่าจริงๆ นั่นแหละ ฉันอุตส่าห์เก็บความบริสุทธิ์ไว้จนมาถึงอายุยี่สิบหกมาทำไมกันนะ ในเมื่อมีแฟน แฟนก็หักหลังไม่รู้จักพอ ต่อไปฉันก็ขอใช้ชีวิตให้สุดแล้วกัน
"หมายถึงจะไปเอากับผู้ชายคนอื่นแบบไม่เลือกหน้า?" นี่ก็แรงไปปะ!
"ระวังคำพูดหน่อย ฉันไม่ได้จะไปทำแบบที่นายพูดสักหน่อย อย่างน้อยๆ ถ้าคิดจะเอากับใครก็เลือกยะ"
"ถ้าคิดจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว งั้นก็มาเอากับผม ผมจะให้เงินเดือนคุณใช้ด้วย"
หมอนี้ยังไม่รู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นใคร แต่เอาจริงๆ ข้อเสนอของเขาก็น่าสนอยู่นะ ตลอดเวลายี่สิบหกปีที่เกิดมาฉันก็ไม่เคยทำอะไรที่มันนอกกรอบเท่าไหร่ ไม่เคยทำอะไรตามใจตัวเอง ถ้าตอนนี้ฉันอยากลองตามใจตัวเองดูบ้างก็คงไม่น่าจะผิดอะไร
อีกอย่างป๊าก็ไม่ได้อยู่ไทย ลูกน้องที่ให้เฝ้าฉันก็เป็นคนของฉันทั้งหมด อัดฉีดเงินเยอะๆ ก็ไม่น่าจะมีใครลองดีคาบข่าวไปบอกป๊าแล้ว
"ว่าไง ถ้าคุณมาเอากับผมคนเดียว อย่างน้อยๆ คุณก็ไม่ต้องกังวลว่าจะติดโรค เพราะผมไม่ใช่พวกชอบเอาไปทั่ว"
"จะบอกว่าตัวเองสะอาดว่างั้นเถอะ"
"ก็ประมาณนั้น"
"ก็ได้...ฉันตกลงกับข้อเสนอของนายก็ได้ แต่ฉันขอกลับไปร่างสัญญามาก่อนพร้อมตัวเลขเงินเดือนที่อยากได้" ริมฝีปากหนาคว่ำลงพยักหน้าแสดงท่าทีไม่ขัดข้องออกมา ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ฉันที่ยืนกอดอกพิงขอบอ่างล้างหน้าสีหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ ฝ่ามือหนาทั้งสองข้างทาบมือลงบนอ่างไว้จนกลายเป็นว่าตอนนี้เขากักขังฉันไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะยื่นใบหน้าลงมาใกล้ใบหูขาวอมชมพูของฉันแล้วพูดเสียงแหบพร่าทำเอาฉันขนลุกซู่ว่า "อยากได้เท่าไหร่ก็เขียนมา ผมยินดีจ่ายอยู่แล้วแต่คุณต้องถึทนกว่าเมื่อคืนหน่อยนะ"
เหอะไอ้บ้าเอ้ย นี่กำลังล้อเลียนฉันอยู่เหรอ เมื่อคืนมันเป็นครั้งแรกของฉันปะ คนมันเจ็บแล้วจะให้ทนยังไง เจ็บก็คือเจ็บปะ
"ฉันไหวแค่ไหนก็แค่นั้น อยากได้ถึกๆ ก็ไปหาป้ายอื่น" เออ ฉันไม่ยอมหมอนี้หรอก ไม่ชอบแบบฉันก็ไปหาคนอื่น อยากได้ฉันก็ต้องตามใจฉัน ถึงจะจ่ายเงินให้ฉัน แต่นี่มันร่างกายฉัน ใครก็เป็นใหญ่กว่าฉันไม่ได้
"หึ ก็ตามนั้น คุณใช้ห้องน้ำเสร็จหรือยัง ผมจะได้ใช้ต่อ"
"ยัง ออกไปรอข้างนอกก่อน"
"อันที่จริงใช้ด้วยกันก็ได้นะ ยังไงซะเมื่อคืนผมก็เห็นร่างกายของคุณหมดทุกส่วนไปแล้ว" ดูพูดเข้า แล้วไอ้สายตาที่ใช้มองร่างกายฉันเนี่ยก็เกินไปไหมฮะ อยากกลืนกินฉันทั้งตัวขนาดนั้นเลยหรือไง เดี๋ยวปัดจิ้มตาบอดซะเลยนี่
"แต่ประเด็นคือ ฉันไม่อยากเห็นของคุณไง ออกไปได้แล้ว"
ฉันตวัดตาเขียวไล่ให้ไอ้โรคจิตตรงหน้าออกไป เขาก็ยืนเฉยอยู่แป๊บหนึ่งก่อนจะยอมเดินออกไปแต่โดยดีในที่สุด แต่ก็ยังไม่วายทิ้งรอยยิ้มน่าจับมาเย็บปากนั่นให้ฉันดูต่างหน้าก่อนไปอีก
หลังจากที่หมอนั่นออกไปแล้ว ฉันก็รีบล็อกประตูห้องน้ำทันทีก่อนจะหมุนตัวกลับไปทำธุระส่วนตัวต่อ ยืนมองไอ้รอยบ้าบนร่างกายอย่างเหนื่อยใจอยู่สักพักเพราะถูยังไงมันก็ไม่ออกเหมือนที่หมอนั่นว่านั่นแหละ ฉันก็เลยเลิกสนใจมันแล้วหันไปล้างหน้าแปรงฟันต่อด้วยอาบน้ำแทน
ฉันใช้เวลานานหลายนาทีกว่าจะเสร็จ พอชำระล้างร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้วฉันก็เดินออกไปจากห้องน้ำ เตรียมจะบอกให้คนที่รอใช้ห้องน้ำต่อจากฉันเข้าไปใช้ต่อ
ทว่าพอเดินออกมาแล้วฉันก็ไม่เห็นร่างของหมอนั่นอยู่ในห้องแล้ว ใช่ ตอนนี้ทั้งห้องเหลือแค่ฉันคนเดียว แต่พอเดินไปที่โต๊ะเตี้ยโซฟาฉันกลับเห็นโน๊ตบางอย่างถูกวางไว้บนโต๊ะ โดยที่ในกระดาษนั้นเขียนว่า
'ผมมีธุระต้องรีบไป ไว้ผมจะติดต่อคุณภายหลัง' แปลน
"แปลน? หมอนั้นชื่อแปลนเหรอ ชื่อเก๋ดีแฮะ" แต่เรื่องที่บอกว่าจะติดต่อฉันภายหลัง คือรู้เบอร์ฉันเหรอ? ช่างมันเถอะ ถ้าติดต่อมา...เรื่องก็ดำเนินต่อ แต่ถ้าไม่ติดต่อมา ก็จบแค่เมื่อคืนเท่านั้น