บทที่7

1108 Words
จ้าวเหยียนที่ทำความสะอาดเรือน และเก็บถังเช่าใส่ถุงผ้าก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกนางอย่างร้อนใจอยู่ด้านหน้าเรือน "อาเหยียน อาเหยียน อยู่หรือไม่" จ้าวเหยียนรีบเดินไปเปิดประตูเรือนทันที "มีอะไรหรือเจ้าคะ" นางเอ่ยถามท่านป้าชุย ภรรยาท่านหัวหน้าหมู่บ้าน "ลู่เออร์ตกเขา เจ้ารีบไปดูเร็วเข้า" เหมือนฟ้าผ่าลงกลางศีรษะของนาง ป้าชุยที่เห็นนางจะล้มลงก็รีบเข้ามาประคองทันที และพานางเดินไปที่ภูเขา แต่ก็เป็นท่านลุงชุยที่อุ้มจือลู่มุ่งหน้ามาที่เรือนของนางก่อนที่นางจะเดินไปถึงแทน จ้าวเหยียนที่เห็นใบหน้าของจือลู่อาบไปด้วยเลือดก็ยกมือขึ้นปิดปากไม่ให้ร้องออกมา นางรีบตั้งสติแล้วให้ท่านลุงชุยอุ้มจือลู่เข้าไปภายในห้องนอนของจือลู่ "ข้าส่งคนไปตามท่านหมอหวงแล้ว พวกเจ้ารอสักประเดี๋ยว" ผู้นำหมู่บ้านพูดกับจ้าวเหยียน "ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ" จ้าวเหยียนให้หนิงเฉิงดูชาวบ้านอยู่ภายนอกไม่ให้ทั้งหมดเข้ามายุ่งด้านในเพราะนางจะรักษาให้จือลู่เอง จ้าวเหยียนเช็ดเลือดออกจากใบหน้าของจือลู่อย่างเบามือ นางพยายามไม่ให้มือของนางสั่นแล้วแต่ก็ยังคอยคุมไม่ได้ เมื่อตรวจดูก็พบว่านางหัวแตกที่ด้านหลังเป็นแผลใหญ่และที่หน้าผากแตกแต่ไม่ใหญ่นัก ด้านหน้าจ้าวเหยียนเพียงแค่เช็ดแล้วปิดแผลไม่ได้เย็บ จ้าวเหยียนที่กำลังจะเย็บแผลที่ด้านหลัง ประตูห้องก็ถูกเคาะขึ้น หนิงเฉิงเมื่อเปิดเข้ามาดูเห็นจ้าวเหยียนเก็บของเรียบร้อยแล้วก็เชิญท่านหมอหวงเข้ามาภายในห้อง หมอหวงที่ตรวจดูอาการของจือลู่ก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะในยุคนี้ยังไม่มีการเย็บบาดแผล แผลด้านหลังของจือลู่เลือดก็ยังไหลไม่หยุด เขาได้แต่สั่งยาให้เท่านั้น "ต้มยาให้นางกิน หากเลือดหยุดไหลนางก็รอด" หมอหวงให้หนิงเฉิงตามเขาเพื่อกลับเรือนไปรับยา จ้าวเหยียนเมื่อส่งท่านหมอหวงไปแล้วตัวนางก็รีบปิดประตูห้องและเริ่มทำการรักษา นางเจาะแขนจือลู่เพื่อให้น้ำเกลือ และฉีดยาเพื่อระงับเลือดให้หยุดไหล เมื่อทำความสะอาดบาดแผลเรียบร้อย จ้าวเหยียนก็ลงมือเย็บแผลให้นางอย่างรวดเร็ว กว่าจ้าวเหยียนจะเสร็จหนิงเฉิงก็กลับมาเรียบร้อยแล้ว "ท่านแม่ ต้องต้มยาหรือไม่ขอรับ" "ไม่ต้อง" จ้าวเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า หนิงเฉิงจึงเดินออกไปเตรียมอาหารให้มารดาและพี่สาวแทน "ลู่เออร์เจ้าอย่าทำให้แม่กลัวเช่นนี้" จ้าวเหยียนร้องไห้ออกมาเมื่อมองสีหน้าที่ซีดขาวของจือลู่ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ผ่านไปสองสามวันจือลู่ก็ยังมิตื่นขึ้นมา จ้าวเหยียนและหนิงเฉิงจึงไม่กล้าทิ้งนางไว้คนเดียว ถังเช่าที่เก็บไว้จึงไม่ได้นำไปขาย จ้าวเหยียนเฝ้าจือลู่มิได้ห่าง วันที่สี่จือลู่ก็ลืมตาขึ้น จ้าวเหยียนที่รู้ตัวว่าบุตรสาวขยับตัวก็รีบลุกขึ้นจุดเทียน แล้วเข้าไปประคองนางขึ้น ส่งน้ำให้นางดื่ม "คุณเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน" จ้าวเหยียนมองจือลู่แล้วถอนหายใจ เรื่องที่นางคิดว่าคงไม่เกิดขึ้นก็เกิดขึ้นเสียแล้ว นางมิได้ตอบคำถามในทันที แต่ปล่อยให้จือลู่ได้ทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเสียก่อน "จือลู่ เธอย้อนมาในยุคโบราณ เหมือนกับฉันที่ย้อนกลับมา" จือลู่หันมามองจ้าวเหยียนที่ขึ้นชื่อว่ามารดาอย่างตกใจ "หมายความว่ายังไง" จ้าวเหยียนจึงเล่าเรื่องของนางให้จือลู่ฟัง และบอกว่าในภพนี้จือลู่คือลูกของนาง "เจ้าคงเหมือนกับข้าที่มาถึงที่นี่ในวันแรก แต่ยอมรับเสียเถอะ เจ้ากลับไปไม่ได้แล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นบุตรที่ดีของข้า" จ้าวเหยียนมองจือลู่อย่างจริงจัง นางเดินออกจากห้องไปเพื่อให้จือลู่ได้อยู่กับตัวเอง เพราะนางรู้ดีว่าความรู้สึกที่หลงยุคเป็นเช่นไร คงได้แต่ปล่อยให้จือลู่อยู่กับตัวเองสักพัก โชคชะตาที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ หากจือลู่ไม่ข้าวภพมา เว่ยหยางก็คงมิอาจพบเจอนางที่เป็นคู่ชะตา หนิงเฉิงที่เห็นมารดาเดินออกมาจากห้องของพี่สาวอย่างเหม่อลอยก็เดินเข้าไปดูอย่างเป็นห่วง จ้าวเหยียนจึงปรับสีหน้าแล้วบอกเรื่องที่จือลู่ฟื้นแล้ว หนิงเฉิงจึงเข้าไปในห้องของพี่สาวอย่างรวดเร็ว จือลู่ที่นั่งกอดเข่าอยู่บนที่นอนก็มองผู้มาเยือนคนใหม่ด้วยสายตาประหม่า จากความทรงจำเดิมเด็กชายที่เดินเข้ามาต้องเป็นหนิงเฉิงน้องชายของนางด้วยแน่ แต่เขาคงไม่ได้ย้อนมาเช่นเดียวกับนางและมารดาหรอกนะ "พี่หญิงท่านยังเจ็บอยู่หรือไม่" หนิงเฉิงนั่งลงข้างนางและมองอย่างเป็นห่วง "ไม่เป็นไรแล้ว" นางส่ายหน้า และเริ่มจะยอมรับความจริงได้ เพียงแต่ไม่รู้จะทำตัวเช่นไรดี สองวันผ่านไปที่จ้าวเหยียนปล่อยให้จือลู่ปรับตัวเพื่อให้ชินกับนางและหนิงเฉิง แต่นางก็ไม่ได้ทำตัวเหินห่างจากจือลู่ ยังทำหน้าที่ของมารดาเช่นปกติ และพูดคุยกับนางเหมือนกับนางคือบุตรของตนเอง "ทะ ท่านแม่" จือลู่เดินออกมาจากห้อง แล้วเอ่ยเรียกจ้าวเหยียนที่ทำความสะอาดเรือนอยู่ "ลู่เออร์ ยังปวดหัวอยู่หรือไม่" จ้าวเหยียนวางผ้าในมือลงแล้วเดินเข้าไปประคองจือลู่ให้มานั่งลง "ไม่เจ้าค่ะ" จือลู่มองจ้าวเหยียนอย่างซึ้งใจ แม้จะรู้ว่านางมิใช่วิญญาณของบุตรสาวก็ไม่แสดงท่าทีรังเกียจนาง จือลู่กับจ้าวเหยียนต่างกันที่นางมาแทนที่ร่างเดิมของจือลู่ แต่จ้าวเหยียนเป็นการย้อนกลับมา "ดี เช่นนั้นพรุ่งนี้แม่จะพาพวกเจ้าเข้าเมืองแต่เช้าเพื่อไปขายหญ้าหนอน" จือลู่จึงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD