5

1011 Words
"ทำไมเหมยต้องปรนนิบัติคุณด้วย ถ้าต้องทำงานแบบนั้น เหมยขอไม่ทำค่ะ" สาวน้อยส่งเสียงคัดค้านเขา แต่คนตัวโตกลับขยับยิ้มมุมปาก ที่ไม่ว่าจะเห็นสักกี่ครั้งก็ดูร้ายกาจในสายตาเธอ "เธอเลือกไม่ได้ อยู่ที่นี่และเป็นเด็กดีทำตามคำสั่งฉัน" ชายหนุ่มตอบ ยื่นมือใหญ่มาเชยปลายคางเธอขึ้น ใบหน้าของเขาโน้มต่ำลงมาหยุดข้างพวงแก้มเนียน ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึก ทำเอาสาวน้อยผิวแก้มนวลร้อนฉ่า "คุณทำอะไรน่ะ? " สาวน้อยรีบเบี่ยงหน้าหลบการกระทำของเขา "เป็นกลิ่นฟีโรโมนที่ยั่วยวนน่าดู อย่าได้อยู่ห่างจากพื้นที่ของฉัน ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน" พูดจบเจ้านายหมาด ๆ ก็เดินเข้าบ้านไปดื้อ ๆ ปล่อยให้เหมยยืนบื้อมองตามแผ่นหลังกว้างตาปริบ ๆ นี่มันเรื่องอะไร? ทำไมเธอต้องอยู่ใกล้ ๆ เขาด้วย ใครจะไปทำตามกันล่ะ เธอโตพอจะแยกแยะว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรเองได้ "ทำอย่างที่คุณนิลกาฬเธอบอกเถอะนะครับคุณหนู" ลุงสิงห์พูดขึ้น เมื่อเห็นแววตาต่อต้านของสาวน้อย "เจ้านายชื่อ ‘นิลกาฬ’ เหรอคะลุงสิงห์" เหมยถามย้ำ การกระทำกับชื่อช่างร้ายกาจไปในทางเดียวกันจริง ๆ "ใช่ครับ ที่ไร่เพลิงพนาคุณหนูเหมยจะไปที่ไหนก็ได้ แต่อย่าข้ามไปที่ไร่ข้างเคียงก็พอ" ลุงสิงห์บอกย้ำ ว่าสาวน้อยไม่ควรออกนอกอณาเขตของคุณนิลกาฬแม้แต่ก้าวเดียว "นอกจากไร่เพลิงพนา แถวนี้ยังมีไร่อื่นอีกเหรอคะเนี่ย" เหมยถามต่ออย่างสงสัยใคร่รู้ ไร่เพลิงพนากินพื้นที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ เธอไม่คิดว่าจะมีไร่ใกล้ ๆ นี้แล้วเสียอีก แถวนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ไร่แต่ฟาร์มสัตว์จนละลานตาไปหมด "มีสิครับ คุณหนูน่าจะเห็นว่าตั้งแต่ที่เราผ่านเข้ามามีป้ายบ้านไร่ทิวไผ่งาม ฟาร์มโคนม ไร่ของเรา และถัดไปคือไร่หัสดินทร์ แต่คุณนิลไม่ค่อยถูกกับเจ้าของไร่นั้น คุณหนูเองก็อย่าไปใกล้อณาเขตไร่นั้นนะครับ” ลุงสิงห์ย้ำอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจัง ทำให้สาวน้อยผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ แบ่งแยกอณาเขตอะไรกัน เธอไม่เห็นจะเข้าใจเลย เขาไม่ถูกกับไร่ข้าง ๆ แล้วเธอต้องทำแบบเขาด้วยหรือไง "เหมยรู้แล้วค่ะ งั้นเหมยขอไปจัดข้าวของก่อนนะคะ" สาวน้อยบอกและเดินเข้าไปในตัวบ้าน เพราะยังไม่อยากรับรู้กฎเกณฑ์ข้อห้ามของไร่เพลิงพนาในตอนนี้ เมื่อเดินเข้ามาเหมยก็พบว่าด้านนอกที่ดูใหญ่โตหรูหราราวคฤหาสน์ ด้านในบ้านนั้นหรูยิ่งกว่า ไม่ว่าจะเฟอร์นิเจอร์หรือของประดับตกแต่งล้วนดูมีราคาและดีไซน์โดดเด่นเป็นโทนสีเทาดำทั้งสิ้น ทำให้ทั่วอณูพื้นที่ดูทรงอำนาจราวอาณาจักรมาเฟียไม่ผิด สาวน้อยเดินขึ้นบันไดมายังชั้นสองห้องแรกซ้ายมือตามที่ลุงสิงห์บอกไว้ เมื่อหมุนลูกบิดเข้ามาในห้อง ก็พบว่าด้านในมีเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่ปูด้วยผ้าปูแบรนด์ดังโทนสีเทาดำท่าทางนุ่มสบาย และเฟอร์นิเจอร์หรูครบครันจนเหมยแทบไม่อยากจะเชื่อ ว่าเจ้านายของเธอจะจัดห้องให้ลูกจ้างดีถึงขนาดนี้ ก็นะ...ถึงแม้ห้องนอนจะดูอึมครึมไม่ค่อยเหมาะกับเด็กสาวแรกรุ่นอย่างเธอเท่าไหร่ก็ตาม แต่เธอเลือกอะไรได้เสียที่ไหนล่ะ "อาบน้ำหน่อยดีกว่า" สาวน้อยพึมพำกับตนเอง เพราะรู้สึกเหนียวตัวเหลือเกิน กระเป๋าเสื้อผ้าสีครีมรูปแบบธรรมดาของเหมยถูกวางอยู่ที่ปลายเตียงกว้าง เหมยจึงเดินไปเปิดเอาเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นลำลองยาวแค่เข่า รวมถึงชุดชั้นในสีชมพูอ่อนเข้าคู่กันออกมาวางไว้ ก่อนจะเปลื้องเสื้อผ้าที่ซึมเหงื่อออก เอื้อมหยิบผ้าขนหนูสีชมพูอ่อนที่ลุงสิงห์น่าจะนำมาวางไว้ให้ใช้ตอนเอากระเป๋าเธอมาส่ง มาพันเรือนร่างเปล่าเปลือย และตรงไปยังบานประตูที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องอาบน้ำ กริ๊ก! มือน้อยหมุนลูกบิดประตูก่อนจะเปิดออก ทว่าเหมยกลับต้องร้องกรี๊ดลั่น เมื่อเห็นว่าใต้ฝักบัวมีร่างเปลือยเปล่ากำยำของเจ้าของไร่เพลิงพนากำลังยืนหันหน้าเข้าหาฝักบัวเพื่อล้างฟองสบู่ออกจากร่างกาย ชายหนุ่มอย่างนิลกาฬเองก็ตกใจไม่น้อยที่ได้ยินเสียงกรีดร้องจึงรีบหันมามอง และเมื่อเห็นว่าเป็นสาวน้อยเมืองกรุงที่เอาแต่ส่งเสียงดังไม่หยุด ร่างสูงก็พุ่งตัวเข้ามาประชิดร่างเล็กของเหมยอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยกมือปิดปากเธอไว้แน่น "ทำไมต้องกรี๊ดตลอด ปากอมนกหวีดไว้รึไง" นิลกาฬส่งเสียงดุคล้ายรำคาญ ขยับเนื้อตัวกำยำพราวไปด้วยหยดน้ำเข้าแนบชิดร่างสาวน้อยมากขึ้น เข่าที่สอดเข้ามาตรงหว่างขาของเหมยจนผ้าขนหนูเลิกขึ้นสูงถึงขาอ่อน คล้ายต้องการยึดตรึงร่างเธอไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้ ทำให้สาวน้อยตื่นตระหนกมองเขาด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก "อื้อ ๆ อ่อย-เอ๋ย-อ๊ะ” เหมยบอกคำเดิมเหมือนตอนที่เขาปิดปากเธอที่หน้าบ้าน สาวน้อยหอบหายใจแรง พยายามเงยหน้าไว้ ไม่ยอมก้มต่ำอีก เพราะเพียงแค่เหลือบสายตาไปนิดเดียว เธอก็มองเห็นลอนกล้ามแน่นขนัดที่เรียงตัวสวยของเขา พอเลื่อนต่ำลงอีกนิดสายตาก็ดันไปเห็นเส้นขนรำไรใต้สะดือสุดเซ็กซี่นั่น เธอไม่อยากจะคิดต่อหรอกว่าถ้ามองต่ำลงไปมากกว่านั้น สายตาเธอต้องไปรู้เห็นอะไรของเจ้านายหนุ่มอีกบ้าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD