7

1104 Words
หลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว บ้านไร่เพลิงพนายิ่งดูเงียบสงบ เพราะพื้นที่ส่วนที่เป็นบ้านของนิลกาฬแทบจะไม่มีใครอยู่เลย ตั้งแต่เหมยมาถึงเธอก็เจอเพียงแค่เขาและลุงสิงห์เท่านั้น เหมยมองออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ก็เห็นเพียงทิวทัศน์ด้านนอกที่เต็มไปด้วยแมกไม้หนาทึบ ยามไร้แสงตะวันมองไปทางไหนก็ดูดำมืดและน่ากลัวไปหมด ทั้ง ๆ ที่มาไกลบ้าน แต่จนป่านนี้คุณตาก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะโทรมาหาเธอเลย ครั้นจะโทรไปหาก่อนก็กลัวว่าคุณตาจะจับน้ำเสียงได้ว่าเธอกำลังไม่ค่อยสบายใจกับที่อยู่ใหม่ ‘คุณตาจะเลิกงานหรือยังนะ’ “คุณหนูเหมยยังไม่นอนหรือครับ” ลุงสิงห์เห็นสาวน้อยอยู่นอกห้องนอนจึงเดินเข้ามาไถ่ถาม ตั้งแต่รู้ว่าห้องนอนใหญ่ที่ลุงสิงห์เอากระเป๋าเสื้อผ้าเธอไปไว้ แท้จริงแล้วคือห้องของเจ้านายหนุ่ม หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เหมยก็ไม่กล้ากลับเข้าไปข้างในอีก เพราะยังทำใจไม่ได้ “เพิ่งทุ่มกว่าเอง เหมยยังไม่ง่วงเลยค่ะ ว่าจะโทรหาเพื่อนแต่เหมยลืมดูน่ะค่ะว่าโปรอินเตอร์เน็ตรายเดือนหมดไปตั้งแต่เมื่อวาน แถวนี้พอจะมีร้านค้าที่รับเติมเงินมือถือไหมคะลุงสิงห์” สาวน้อยถาม เพราะคิดถึงเพื่อนสาวคนสนิทขึ้นมา แต่พอจะวีดีโอคอลหาตามที่รับปากไว้ อินเตอร์เน็ตรายเดือนที่สมัครไว้ดันหมด ทำให้เธอใช้อินเตอร์เน็ตไม่ได้ “รู้สึกว่าที่ห้องทำงานคุณนิลเธอมีไวไฟนะครับ ลองขอรหัสเชื่อมต่อดูดีกว่าไหมครับ เพราะป่านนี้ร้านค้าหน้าไร่น่าจะปิดแล้วล่ะ” ลุงสิงห์ตอบ เหมยจึงได้แต่ทำหน้าง้ำ ทำไมต้องเป็นเขาอีกแล้วล่ะ เธอยังไม่พร้อมเจอหน้าเขาตอนนี้แท้ ๆ แต่ถ้าไม่โทรหามุก เพื่อนรักของเธอคงจะเป็นห่วงเธอมากแน่ ๆ “ขอบคุณนะคะ เหมยจะถามเจ้านายดูค่ะ” สาวน้อยตอบ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเดินกลับไปที่หน้าห้องของนิลกาฬ เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปิดประตูเข้าไปด้านใน ‘ยังไงก็ต้องใช้อินเตอร์เน็ต เขาคงไม่ใจดำหรอกมั้ง’ ภายในห้องที่โซนโต๊ะทำงาน เจ้าของไร่เพลิงพนายังคงนั่งดูรายงานการตลาดของไร่ที่ทางห้องบัญชีส่งอีเมลมาให้เขาตรวจสอบ เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูชายหนุ่มจึงหันไปมองแม่สาวเมืองกรุงเล็กน้อย แต่ไม่คิดไถ่ถามอะไร “เอ่อ...คือว่า” เหมยได้แต่อ้ำอึ้ง เธอเดินเข้าไปหาเขาคล้ายจะพูดอะไร แต่ก็ไม่ยอมพูดสักที “อะไร…” นิลกาฬถามสั้น ๆ โดยที่สายตายังคงจับจ้องแล็ปท็อปตรงหน้าอยู่ “คือว่าเหมยอยากขอใช้ไวไฟของเจ้านายหน่อยน่ะค่ะ พอดีอินเตอร์เน็ตเหมยหมด แล้ว…” สาวน้อยกลั้นใจบอกเขา แต่ยังพูดไม่จบนิลกาฬก็แทรกเสียงขึ้นมาเสียก่อน “รหัสเลขเก้าเจ็ดตัว” เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนหมุนเก้าอี้หันมาหาสาวน้อย นัยน์ตาคมดุที่ช้อนขึ้นมองสบตากัน ทำให้เหมยได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ ยิ่งเมื่อเห็นว่าสาบเสื้อด้านหน้าของเขาไม่ได้ติดกระดุมเลยสักเม็ด จนเธอมองเห็นกล้ามท้องเป็นลอนสวย และแผงอกที่มีรอยสักอะไรสักอย่างก็ทำสาวน้อยผิวแก้มร้อนฉ่าขึ้นมา เรื่องความหล่อเหลาและเซ็กซ์แอพพีลของนิลกาฬนั้นมันช่างโดดเด่นเหลือเกิน “เอ่อ...คือว่า...เหมย” สาวน้อยอึกอักไม่รู้จะวางสายตาไว้ตรงไหน สองครั้งแล้วนะที่เขาอยู่ในสภาพล่อแหลมแบบนี้ “มีอะไรอีก” เขาถาม ทำเป็นมองไม่เห็นอาการประหม่าของสาวน้อย “มะ...ไม่มีค่ะ งั้นเหมยขอไปโทรศัพท์ข้างล่างนะคะ” เธอรีบบอกเขา แล้วก้าวฉับ ๆ ออกจากห้องทันที คล้อยหลังสาวน้อยซึ่งออกไปด้วยอาการผิวแก้มนวลขึ้นสีระเรื่อไปจนถึงใบหู ทำให้คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ยกยิ้มร้าย สายตาปรายไปยังร่างสูงที่ยืนอยู่หลังบานประตูระเบียง "เข้ามา" นิลกาฬบอกสั้น ๆ “เด็กนี่เหรอที่เฮียบอก” คนที่เดินเข้ามานั่งลงที่ปลายเตียงเอ่ยถาม พลางวางหมวกกันน็อคใบโปรดไว้ข้างตัว “อืม” นิลกาฬรับคำสั้น ๆ เช่นเคย “กลิ่นไปไกลอยู่นะ ไม่นานพวกนั้นคงมาหาเธอ” ผู้มาใหม่ว่า ตอนที่เขามาถึงหน้าไร่ กลิ่นหอมหวานแบบเมื่อครู่ก็ลอยมาเตะปลายจมูกแล้ว กลิ่นของเธอมันชัดจนน่ากลัว และคำพูดของ ‘เพลิงนิล’ ก็ทำให้นิลกาฬวางมือจากงานตรงหน้า ชายหนุ่มหันมาหาเจ้าของนัยน์ตาคมสีทับทิมที่แปรเปลี่ยนเป็นสีดำช้า ๆ “ไกลแค่ไหน” ชายหนุ่มถามย้ำ ไม่ใช่แค่เขาที่ได้กลิ่นฟีโรโมนนั่น แต่น้องชายของเขาก็ได้กลิ่นของเหมยเช่นกัน “หน้าไร่ล่ะมั้ง” เพลิงนิลตอบแบบขอไปที เพราะไม่ได้สนใจกลิ่นนั่นสักเท่าไหร่ แต่ตอนที่เข้ามาในตัวบ้าน กลิ่นฟีโรโมนของเด็กคนนั้นทำให้เขาแทบควบคุมสติตัวเองไม่ได้ เลยต้องขึ้นมาหาพี่ชายทางหน้าต่างแทน ไม่อย่างนั้นเด็กนั่นคงเห็นว่านัยน์ตาของเขาแปลกประหลาด และน่าหวาดกลัวแค่ไหน “กลิ่นนั่นทำแกเสียการควบคุมเลยรึไง” นิลกาฬถามน้องชาย ที่ทำสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่เมื่อถูกรบกวนจนลักษณะทางกายภาพมีความผิดปกติโดยไม่ตั้งใจ “แหง...จู่ ๆ ตาก็เปลี่ยนสีเอง แถมครั่นเนื้อครั่นตัวไปหมด เด็กนั่นทำผมไม่สบายตัว” เพลิงนิลว่าเสียงฉุน กรอกตาไปมาอย่างไม่รู้จะพูดยังไงกับสิ่งที่เด็กคนนั้นทำไว้ “ขนาดนั้นเลย ทำไมเฮียไม่เป็นวะ” นิลกาฬตั้งคำถาม เวลาอยู่ใกล้เหมยเขาไม่เห็นจะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอย่างที่เจ้าน้องชายว่าเลย “คืออะไร? เด็กนั่นโดนเฮียตีตราตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ร่างกายเฮียไม่ต่อต้านเธอหรอก รออีกหน่อยมีแต่จะเข้าหาเธอสิไม่ว่า” เพลิงนิลเอ่ยย้ำถึงเรื่องที่ผ่านมา เพราะคิดว่าพี่ชายของเขาคงจะลืมเลือนมันไปแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD