ครืด!! ครืด!! ครืด!!
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตอยู่นั้น โทรศัพท์ที่อยู่ในมือของฉันมันก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา แล้วพอยกขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นยัยกุ๊กไก่ที่โทรเข้ามาเวลานี้
สายเรียกเข้า กุ๊กไก่
“มีอะไรคะ? โทรหาฉันเวลานี้เนี่ย” ทันทีที่กดรับสาย ฉันก็กรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ทันที
(จะโทรถามว่าแกนอนยัง?)
“ยังไม่นอน แกมีอะไร คงไม่ได้โทรมายกเลิกนัดฉันวันพรุ่งนี้ใช่ไหม” ถ้ามันตอบว่าใช่นะ ฉันจะทุบมันให้หลังหักจริงๆด้วย
(เปล่าจ้ะ กะจะโทรมาชวนไปเที่ยวอ่า สนใจไหม?) เที่ยวงั้นเหรอ เที่ยวเวลานี้ก็คงจะไม่พ้นสถานที่อโคจรแน่ๆ
“ที่ไหน?”
(เคเอ็มผับ อยู่ใกล้ๆกับคอนโดฉันนี่แหละ จะไปไหม แต่ต้องบอกก่อนนะว่าที่นั่นคนเยอะมาก ถ้าจะไปฉันจะโทรบอกเพื่อนฉันที่เป็นผู้จัดการอยู่ที่นั่นจองโต๊ะไว้ให้) ฉันหันไปมองนาฬิกาที่ตอนนี้บ่งบอกว่าสองทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว ถ้าคำนวณเวลา ฉันก็น่าจะถึงที่นั่นสามทุ่มนิดๆ
“โต๊ะมันจะว่างอยู่เหรอวะ? แล้วจะให้ฉันไปนอนที่ไหน?” คือคอนโดยัยกุ๊กไก่ก็ไม่ได้ป่ะ เพราะว่ามันอยู่กับผัวมัน ส่วนคอนโดฉันที่จะย้ายเข้าไปก็เหมือนจะยังไม่ได้ทำความสะอาด
(เมื่อกี้ทักไปถามยัยเจนนี่มันบอกว่าโซนวีไอพีว่างอยู่นะ คือถ้าแกจะไปฉันจะได้บอกมันให้จองโต๊ะไว้ให้ไง ส่วนเรื่องที่นอนแกไม่ต้องห่วงจ้ะ เพราะที่นั่นมีบริการห้องพักด้วยนะ ถ้าเมาก็เปิดห้องนอนไปเลย) มีบริการห้องพักด้วยงั้นเหรอ ดีเหมือนกันนะ เพราะฉันก็คงจะไม่ขับรถกลับมานอนที่บ้านแล้ว
“งั้นก็ให้เพื่อนแกจองเลย เราไปกันสองคนใช่ไหม?”
(อาฮะ ไปกันสองคนนี่แหละ เพราะพรุ่งนี้พี่แม็กซ์เขามีประชุมกับหัวหน้างานตอนเช้า แต่เดี๋ยวตอนไปฉันจะให้พี่แม็กซ์เป็นคนไปส่ง ส่วนแกก็ตามโลเคชันไปนะ เดี๋ยวจะปักหมุดเอาไว้ให้)
“โอเคได้ งั้นเดี๋ยวอีกสิบนาทีฉันจะออกไปนะ” ที่บอกว่าอีกสิบนาทีจะออกไปเพราะตอนนี้ฉันต้องแต่งหน้ากับหาชุดใส่ก่อนไง
(จ้ะ งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ บาย)
หลังจากวางสายยัยกุ๊กไก่ ฉันก็รีบแต่งหน้าแล้วก็หาชุดใส่ ซึ่งฉันทำเวลาไปแค่สิบนาทีอย่างที่บอกมันจริงๆ
“นับดาว นั่นลูกจะไปไหนจ้ะ” ทันทีที่ฉันเดินลงบันไดมา เสียงแม่ที่นอนดูละครหลังข่าวตรงกลางห้องโถงก็ดังขึ้นมา
“ไปเที่ยวกับยัยกุ๊กไก่ค่ะ คืนนี้นับดาวไม่กลับบ้านแล้วนะ จะนอนที่คอนโดยัยกุ๊กไก่เลย”
“เดี๋ยวๆ สิ ทำไมถึงได้รีบร้อนขนาดนั้น แล้วนี่จะไปเที่ยวที่ไหนกัน”
“ผับแถวๆคอนโดยัยกุ๊กไก่นั่นแหละค่ะแม่ เดี๋ยวนับดาวไปก่อนนะคะ รักแม่นะ” ไม่รอให้แม่ได้พูดอะไร ฉันก็รีบใส่รองเท้าแล้วเดินตรงไปที่ลานจอดรถทันที
ด้านคามิน
KM PUB 21.15 น.
“ไงครับ วันนี้โผล่หัวออกมาได้เหรอ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามเพื่อนรักอย่างเพทายที่ตอนนี้เดินมาหาเขาที่กำลังนั่งดื่มคนเดียวอยู่ตรงที่ประจำ
ที่เขาถามไปแบบนั้น เพราะตั้งแต่ที่เพทายมีเมียเป็นตัวเป็นตน เขาก็แทบจะไม่เห็นหัวมันอีกเลย
ยิ่งองศา รายนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะตั้งแต่ที่พราวฟ้าคลอดลูกชายออกมา เขาก็แทบไม่มีโอกาสได้นั่งดื่มกับมันอีกเลย
“คิดถึงมึงไง เหงาไหมนั่งดื่มคนเดียว”
“ไม่เหงาครับ เดี๋ยวก็มีสาวๆมานั่งดื่มกับกู”
“งั้นกูกลับแล้วนะ”
“……..” คามินไม่ได้ตอบกลับเพทายแต่อย่างใด เพียงแค่งใช้สายตามองหน้าเพื่อนด้วยความเอือมระอา
“มึงจะไม่ห้ามกูหน่อยเหรอวะ?”
“ห้ามทำไม อยากกลับก็กลับครับ กลับไปดูดนมเมียมึงเลยไป”
“หึ หน้ามึงนี่งอนเป็นตุ๊ดไปเลยนะ ” เพทายว่าพลางหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตัวที่อยู่ตรงข้ามกับคามิน ก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบขวดเหล้ามาเทใส่แก้วเปล่าที่วางอยู่ตรงหน้าของตัวเอง
“พวกมึงแต่ละคนนะ มีเมียมีลูกแล้วลืมกู”
“กูไม่ได้ลืมครับ แล้วกูก็ยังไม่มีลูกโว้ย มีแค่เมีย”
“เออ ทั้งมึงทั้งไอ้องศานั่นแหละ พอกันเลย”
“มึงก็หาเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีดิ จะได้รู้ว่าการมีเมียมันดีแค่ไหน”
“เมื่อก่อนกูว่ามึงไม่ได้พูดแบบนี้นะไอ้เพทาย”
“นั่นมันเมื่อก่อนไง แต่ตอนนี้กูเปลี่ยนไปแล้วมึงเองก็เห็น อีกอย่างมีเมียเด็กมันทำให้รู้สึกคึกคักตลอดเวลาเลยนะ ไม่เชื่อมึงก็ลองหาเมียที่เด็กกว่าสักคนสิวะ จะได้รู้ว่ามันวิเศษแค่ไหน”
“แต่กูว่าการไม่มีเมียมันวิเศษกว่าอีกนะ อยากควงใครก็ควง อยากเอาใครก็เอา เดี๋ยวมึงดูคืนนี้นะ กูจะจัดสาวสวยโต๊ะนั้นให้ได้เลย” คามินพยักพเยิดหน้าไปทางโต๊ะตรงหัวมุมที่อยู่ใกล้ๆกับบันได ที่ตอนนี้มีแต่สาวๆ สวยๆนั่งดื่มกันอยู่สามสี่คน
“หึ กูไม่สงสัยเลยนะ ว่าทำไมแม่มึงถึงให้มึงไปดูตัวแทบจะทุกเดือนแบบนี้” สิ่งที่เพทายพูดเมื่อกี้ ทำเอาคามินถึงกับยกแก้วเหล้าที่อยู่ในมือขึ้นดื่มจนหมดแก้ว เพราะเขาเองก็เริ่มเบื่อที่จะต้องไปดูตัวผู้หญิงที่แม่เขาหามาให้แล้วเหมือนกัน
และในขณะที่คามินยกขวดเหล้าขึ้นมาเทใส่แก้วที่วางอยู่ตรงหน้าของตัวเองนั้น เสียงของเพทายก็ดังขึ้นมา
“ไอ้คามิน มึงดูทางบันไดดิ โคตรสวยเลยว่ะ กูว่าคนนี้น่าจัดกว่าโต๊ะนั้นอีกนะ” สายตาคมจ้องมองไปยังทิศทางที่เพื่อนของตัวเองบอกเมื่อกี้ ก่อนจะไปสะดุดเข้ากับร่างบางที่กำลังเดินขึ้นบันไดมา
เขาจะไม่อะไรเลย ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาเพิ่งคุยโทรศัพท์ไปก่อนหน้านี้ ที่สำคัญเธอคือคนที่เขาเจอที่บ้านเมื่อตอนเย็น
“นับดาว” เสียงทุ้มเผลอเอ่ยชื่อหญิงสาวออกมา จนเพทายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับอดที่จะถามไม่ได้
“มึงรู้จักเหรอ?”
อึกอึกอึก!!
คามินไม่ตอบคำถามเพื่อนของตัวเอง แต่กลับยกแก้วเหล้าที่เพิ่งจะชงเสร็จเมื่อกี้ขึ้นดื่มทีเดียวจนหมดแก้วเหมือนเดิม
“เฮ้ย ไอ้ห่า ดื่มขนาดนั้นเดี๋ยวก็ได้เมาตายห่ากันพอดี”
“คนอย่างกูไม่เคยเมา มึงเองก็รู้” ปกติคามินเป็นคนที่คอแข็งมาก ต่อให้ดื่มมากแค่ไหนเขาก็ไม่เคยเมาเลยสักครั้ง
“ครับไอ้คนเก่ง กูจะคอยดู” เพทายเลิกสนใจเพื่อนของตัวเอง ก่อนจะหันมาสนใจแก้วเหล้าที่อยู่ในมือแทน
และในขณะที่ทั้งสองคนกำลังนั่งดื่มกันอยู่นั้น จู่ๆก็มีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาหาที่โต๊ะ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้าของคามิน
“ขอโทษนะคะ พอดีเพื่อนฉันให้มาขอเบอร์คุณค่ะ”
“เพื่อนคนไหนครับ?” ชายหนุ่มเจ้าของความสูง187 เซ็นติเมตร ที่มีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ เพราะปกติเขาก็เป็นคนที่พูดจาสุภาพกับผู้หญิงทุกคนอยู่แล้ว
“คนนั้นค่ะ ที่ใส่ชุดสีแดง” คามินมองไปที่โต๊ะ ที่เขาเล็งเอาไว้เมื่อกี้ แต่จู่ๆสายตาก็ไปปะทะเข้ากับดวงตาคู่สวยของหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไป ซึ่งกำลังมองมาทางเขาพอดี พลันหัวใจก็เริ่มเต้นแรงขึ้นมา
“เอ่อ เอาไว้โอกาสหน้านะครับ พอดีช่วงนี้โทรศัพท์ผมพัง”