Chapter 1
รถสปอร์ตแลมโบกินีสีดำขับเคลื่อนมาจอดที่คลับหรูในเวลาสามทุ่ม สองนาทีต่อมาเจ้าของรถวัยยี่สิบห้าปีก็เปิดประตูลงรถด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง จากนั้นเขาก็ยืนหันหลังพิงรถเอามือล้วงหยิบพอตจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาอัดสูบพ่นควันสีเทาออกจากปาก มือหนึ่งถือพอต อีกมือหนึ่งสไลด์มือถือกดส่งข้อความไลน์ไปหาใครบางคน แต่ทว่าห้านาทีต่อมาใบหน้าหล่อร้ายกลับต้องขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่พอใจ เพราะคนคนนั้นไม่เปิดอ่านไลน์ของเขา
ร่างสูงสง่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรเก็บพอตใส่กระเป๋ากางเกง ถอดเสื้อสูทโยนเข้าไปในรถอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินเข้าประตูหลังของคลับไปห้องแคชเชียร์ พอมาถึงที่หมาย ชายหนุ่มยกแขนแกร่งกอดอก เอาหลังพิงที่กรอบประตู สายตาคมกริบจ้องมองพนักงานพาร์ตไทม์ที่มือถือวางอยู่บนโต๊ะทำงานข้างตัว แต่ทว่าเธอกลับไม่สนใจ มัวแต่นั่งหัวเราะต่อกระซิกกับผู้จัดการและพนักงานแคชเชียร์
“ว่างมากเหรอ?” น้ำเสียงเย็นยะเยือกถามคนในห้องแคชเชียร์ ทำให้ทั้งสามคนสะดุ้งสุดตัวรีบหันพรึบยกมือไหว้เขาด้วยใบหน้าเจื่อน
“สวัสดีครับคุณพัตเตอร์ มีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ...” ม่อนผู้จัดการคลับวัยสามสิบปี พอตั้งสติได้ก็รีบเอ่ยถามอย่างลนลาน เมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านายดูอารมณ์ไม่ดีนัก
“เอาแบล็กขึ้นไปให้ฉันที่ชั้นสามหนึ่งขวด...” พัตเตอร์ไม่ได้สนใจคำถามของผู้จัดการคลับ แต่ทว่าเขากลับหันไปสั่งพนักงานพาร์ตไทม์ที่ทำตัวเล็กตัวน้อยเจียมตัวเมื่อเห็นเขาอยู่ที่นี่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้หัวเราะจนหัวโยก
“เดี๋ยวผมจะไปแจ้งพนักงานเสิร์ฟให้รีบเอาแบล็กขึ้นไปให้นะครับ” ม่อนรับคำสั่งทันทีพร้อมทั้งผลุนผลันจะเดินออกจากห้องแคชเชียร์ แต่ทว่ากลับต้องชะงักฝีเท้าหยุดนิ่งกะทันหันแทบจะล้มหัวคะมำไปกับพื้น เมื่อได้ยินผู้เป็นเจ้านายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“เมื่อกี้ผมสั่งว่าอะไร?” ใบหน้าหล่อร้ายเลิกคิ้วขึ้น แล้วเลื่อนมือสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ถึงปากจะระบายยิ้มบางแต่ทว่าแววตาคมกริบกลับดุดันมากเมื่อเขาโดนขัดใจ
“เอ่อ...คุณพัตเตอร์สั่งให้น้องนับดาว เอาแบล็กขึ้นไปให้ที่ชั้นสามครับ” ม่อนทวนคำพูดของเจ้านายเมื่อครู่นี้ด้วยสีหน้ายิ้มแห้งพร้อมทั้งก้มหัวเล็กน้อยขอโทษที่หวังดี แต่เจ้านายดันไม่ชอบใจ
“เออ ก็ได้ยินชัดหนิ แล้วพี่ม่อนจะขัดคำสั่งผมเหรอ?” พัตเตอร์เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยสีหน้าเอาเรื่อง เขาไม่ได้ต้องการให้ใครก็ได้ขึ้นไปชั้นสาม แต่เขาต้องการให้นับดาวเท่านั้นที่ขึ้นไป
“เปล่าครับ ผมแค่คิดว่าน้องนับดาวยังไม่เคยทำหน้าที่เสิร์ฟมาก่อน ผมกลัวว่าน้องจะทำเหล้าหกแตกครับ”
“ทำไมจะต้องกลัวไปก่อน ทั้งที่ยังไม่เคยลงมือทำ...”
“เอ่อ...ขอโทษอีกครั้งครับเจ้านาย...” ม่อนก้มหัวให้พัตเตอร์อีกครั้ง ก่อนจะหันไปสั่งงานนับดาวทันที
“นับดาวรีบไปเอาแบล็กไปเสิร์ฟคุณพัตเตอร์ที่ชั้นสามเร็ว”
“รับทราบค่ะ...” นับดาวดีดตัวลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว หญิงสาวแอบเหล่มองเจ้าของคลับเล็กน้อย ก่อนจะวิ่งออกจากห้องแคชเชียร์ด้วยความเร่งรีบ
“ถ้าหกล้มหัวเข่าแตก ห้ามเบิกค่ารักษาพยาบาลจากคลับเด็ดขาด” พัตเตอร์พูดไล่หลังนับดาวเสียงดัง ทำให้นับดาวหยุดชะงัก...กึก! โดยอัตโนมัติ...หญิงสาวค่อยๆ ก้าวขาเดินไปที่บาร์เทนเดอร์อย่างช้าๆ หญิงสาวพยายามทำให้เขาถูกใจ แต่เขากลับมองว่านับดาวกำลังกวนประสาทด้วยท่าทางซื่อบื้อของเธอ
“คุณพัตเตอร์สุดหล่อของหนูอารมณ์เสียอะไรมาเนี่ย...” ฟินพนักงานแคชเชียร์หญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดปีถึงจะเอ่ยปากชื่นชมเจ้านายปลาบปลื้มในความหล่อเหลา แต่ทว่ากลับถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างโล่งอกที่พัตเตอร์เดินออกไปแล้ว
“พี่ก็ไม่รู้ว่ะฟินเอ๊ย... คืนนี้ขยันหน่อยก็แล้วกัน เจ้านายเราอารมณ์ไม่ดี เดี๋ยวจะพากันตกงานไปหมด”
“หนูห่วงก็แต่น้องนับดาวแหละพี่ม่อน มันยิ่งกลัวคุณพัตเตอร์อยู่ด้วยไม่ใช่ว่าป่านนี้มือไม้สั่นไปทำเหล้าหกใส่คุณเขาแล้วนะ แต่จะว่าไปดูเหมือนเจ้านายของเราจะเอ็นดูนับดาวอยู่นะพี่ ไม่งั้นคุณเขาจะเดินมาสั่งงานด้วยตัวเองเหรอ? แถมยังสั่งงานไม่ตรงหน้าที่งานอีก มันแปลกๆ อยู่นะเหมือนจงใจเดินมาหานับดาวเลย หนูทำงานที่นี่มาห้าปียังไม่เคยได้ขึ้นไปชั้นสามเลยอะ นับดาวพึ่งมาทำงานที่นี่แค่สามเดือนแถมยังเป็นพนักงานพาร์ตไทม์อีก แต่เจ้านายดันล็อกมงให้นับดาวขึ้นไป หนูคิดว่าเจ้านายต้องสนใจนับดาวแน่ๆ ถึงนับดาวหน้าตาใสซื่อ บ้องแบ๊ว แต่ผู้หญิงแบบนี้มองไม่เบื่อ แบบยิ่งมองยิ่งสวยอะ โอ๊ยๆ พี่ม่อน หนูเจ็บนะ” ฟินร้องโอดโอยเสียงหลงที่โดนม่อนเอามะเหงกลงหัวเรียกสติที่คิดเพ้อเจ้อเรื่องเจ้านายเป็นตุเป็นตะ
“อย่าพูดมั่วๆ แบบนี้นะฟิน คุณพัตเตอร์เขา...เออ...ช่างเถอะ แต่คุณพัตเตอร์ไม่ได้สนใจน้องนับดาวหรอก...”
“พี่ม่อนรู้อะไรมาบอกหนูบ้างสิ...” ฟินที่เห็นม่อนอ้ำอึ้งเหมือนรู้อะไรมาแต่กลับปิดบังเอาไว้ไม่ยอมพูดให้จบ มันยิ่งทำให้ฟินอยากรู้
“ถ้ายังอยากทำงานที่นี่นานๆ อย่าเสือกเรื่องเจ้านายดีกว่า...”
“โธ่...แล้วพี่ม่อนจะแรงใส่หนูเพื่อ? งั้นหนูทำงานดีกว่า เพราะหนูเป็นผู้หญิงมีค่า...”
“ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าห้องพัก...” ม่อนพูดสวนทันที
“ฮ่าๆ พี่ม่อนก็แกล้งไม่ทันมุกหนูหน่อยสิ ปล่อยให้หนูเล่นมุกให้จบหน่อยก็ไม่ได้ ชิ๊...” ฟินย่นจมูกใส่ม่อนไปตามประสา
“เอาไว้เล่นวันหลังเถอะ ถ้าฟินมัวแต่เล่น อาจจะหลุดจากตำแหน่งแคชเชียร์เงินเดือนดีแบบนี้ก็ได้นะ ฟินไม่เห็นเหรอว่าคืนนี้เจ้านายอารมณ์ไม่ดี..”
“โธ่ๆ หนูรีบทำงานที่รักดีกว่า..” พอม่อนอ้างถึงเจ้านายหน้าหล่อ ฟินก็รีบหมุนตัวไปทำงานด้วยความขยันขันแข็งทันที ซึ่งม่อนเองก็รีบเดินออกจากห้องแคชเชียร์ เพื่อไปดูความเรียบร้อยภายในคลับจะได้ไม่โดนเจ้านายติติง