-8-
Truth or Dare
พยัคฆ์จูงมือเรียวออกมาจากฝูงชนข้างล่างขึ้นมาที่ชั้นสองของผับ ก่อนจะหยุดฝีเท้าหันกลับไปหาปั้นหยาที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามแรงลากมาด้วยความสับสนที่ยังคงค้างคาอยู่
"ผู้หญิงพวกนั้นทำอะไรเรารึเปล่า" พยัคฆ์ถามพลางก้มหน้าสำรวจเรือนร่างอรชร ก่อนจะเบือนหน้าหนีเมื่อเผลอไปมองที่เนินอกอวบอิ่มที่โผล่พ้นเดรสขึ้นมา
"ยังไม่ทันได้ทำอะไรค่ะ เฮียเสือมาช่วยไว้ก่อน"
"ดีแล้วละ เฮียขอโทษนะที่ทำให้วุ่นวาย"
"ขอโทษทำไมคะ เฮียเสือไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ว่าแต่เฮียเสือลงไปทำอะไรข้างล่างเหรอคะ"
"เห็นเราลงมานานเกินเลยว่าจะลงมาดูหน่อย เลยเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี"
"อ๋อ ขอบคุณนะคะ มาทันเวลาอย่างกับเจ้าชายขี่ม้าขาวแน่ะ" ปั้นหยาทำท่าทางทะเล้นล้อเลียน
"ไม่ต้องมาล้อเลียนเลยนะ วันหลังเลี้ยงข้าวเฮียเป็นการตอบแทนเลย"
"ถ้าแฟนคลับเฮียเห็นหนูไปกินข้าวกับเฮีย หนูไม่โดนดักตบอีกเหรอคะ"
"งั้นเฮียก็จะคอยปกป้องเราเอง"
"..." ใบหน้าหวานเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ จู่ ๆ หัวใจดวงน้อยก็เต้นแรงอย่างไม่มีสาเหตุอีกครั้ง
"เป็นอะไร ทำไมเงียบไป"
"เฮียเสือชอบทำหนูเสียอาการอยู่เรื่อยเลยนะคะ" ปั้นหยาก้มหน้าพึมพำเบา ๆ ทำให้พยัคฆ์ได้ยินไม่ถนัดนัก
"ว่าอะไรนะ เฮียไม่ได้ยิน"
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ถ้าเฮียเสืออยากให้หนูเลี้ยงข้าววันไหนก็บอกได้เลยนะคะ" ปั้นหยาส่งยิ้มหวานไปให้จนตาหยี ก่อนจะชวนพยัคฆ์กลับเข้าไปรอทุกคนในห้องอีกครั้ง
พยัคฆ์กับปั้นหยากลับเข้าไปรอในห้องทำงานขุนพลไม่นานคนอื่น ๆ ก็ตามมาสมทบ โดยมีภูผามาถึงเป็นคนสุดท้าย
"เรามาเล่นเกมกันดีกว่าว่ะ" ภูผาเอ่ยขึ้นหลังจากพากันย้ายมาที่ห้องวีไอพีของผับ เพื่อความสะดวกสบายในการสังสรรค์
"เกมอะไรของมึง" ติณณภพเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ไว้ใจ เพราะถึงแม้ภูผาจะเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดัง แต่เขาก็เป็นคนที่เพื่อนในกลุ่มยกให้ว่าเป็นบุคคลที่เจ้าเล่ห์ และจอมวางแผนมากที่สุด
"Truth or Dare"
"กติกาคืออะไร" พยัคฆ์เอ่ยถามโดยมีทุกคนในห้องรอฟังคำตอบไม่ต่างกัน
"ไม่ยากก็แค่หมุนขวดแล้วเลือกว่าจะพูดความจริง หรือจะรับคำท้า แต่ถ้าเลือกแล้วทำไม่ได้ก็แค่วันช็อต"
"เอ่อ หนูไม่เล่นได้ไหมคะ" ปั้นหยาออกตัวปฏิเสธเป็นคนแรก
"ไม่มีอะไรหรอก มาเล่นสนุก ๆ กันอย่าไปซีเรียส"
"น่าสนุกดีนะ ฉันก็เล่นไม่มีอะไรหรอก" ปอไหมเสริมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
"ก็ได้" เมื่อถูกสายตาทุกสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่คำตอบของเธอ ทำให้ปั้นหยาไม่กล้าที่จะปฏิเสธอีกครั้ง
"งั้นเริ่มที่กูก่อนแล้วกัน" ภูผาเอ่ยขึ้นก่อนจะหมุนขวดเปล่าที่วางอยู่ตรงกลางโต๊ะ
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ปากขวดที่กำลังหมุนว่ามันจะไปหยุดลงที่ใคร ก่อนที่เสียงถอนหายใจจะดังขึ้นด้วยความโล่งอกเมื่อปากขวดไปหยุดอยู่ที่พยัคฆ์
"ความจริง หรือ ความกล้า" ขุนพลถาม
"ความจริง" พยัคฆ์ตอบ
"งั้นกูขอถามว่า...มึงเคยเอาสดมาแล้วกี่ครั้ง" ภูผามองหน้าพยัคฆ์ด้วยสีหน้าสะใจ
"ไม่เคย พอดีกูรู้จักถุงยาง" พยัคฆ์ตอบด้วยความผ่อนคลาย ราวกับไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับเขา "ตากู" พยัคฆ์เอ่ยเสียเรียบ ก่อนจะยื่นมือไปหมุนขวดแก้ว โดยปากขวดไปหยุดอยู่ที่ขุนพล
"ความจริง หรือ ความกล้า" พยัคฆ์ถาม
"ความกล้า" ขุนพลตอบ
"เต้นเมาคลีล่าสัตว์ให้กูดูหน่อย"
เพียงแค่ได้ยินคำขอจากปากของพยัคฆ์สองสาวก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ทว่าคนโดนท้าอย่างขุนพลกลับมองหน้าพยัคฆ์ด้วยความอาฆาตแค้น
"ฝากไว้ก่อนนะมึง" ขุนพลบอกกับพยัคฆ์อย่างคาดโทษหลังจากกระดกวอดก้าเข้าปาก ซึ่งพยัคฆ์เองก็ไหวไหล่เป็นการท้าทาย
ขุนพลเอื้อมมือไปดึงขวดแก้วมาหมุน เพื่อให้เกมดำเนินต่อ ก่อนที่ปากขวดจะไปหยุดอยู่หน้าปั้นหยา
"ความจริง หรือ ความกล้า" ขุนพลถาม
"เอ่อ...ความจริงก็ได้ค่ะ" ปั้นหยาตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก
"วันนี้ใส่ชุดชั้นในสีอะไรมา"
"มึงนี่มันเลวจริง ๆ " ภูผาต่อว่าเพื่อนรักกับคำถามที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิงของขุนพล
"สี..." ปั้นหยาที่กำลังจะตอบคำถามออกไปเหลือบมองไปที่พยัคฆ์เพียงนิด ก่อนความกล้าที่จะตอบเมื่อครู่นี้หายไปในทันที เมื่อถูกสายตาคมของพยัคฆ์จ้องมองมา "ถ้าหนูไม่ตอบหนูต้องดื่มแก้วนี้ใช่ไหมคะ" ปั้นหยายกแก้ววอดก้าตรงหน้ามากระดกดื่มแทนการตอบออกไป ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยรสชาติที่ขมบาดคอของวอดก้าราคาแพง
มือเรียวเอื้อมมือไปหมุนขวดแก้ว ก่อนจะไปหยุดอยู่ตรงหน้าพยัคฆ์
"ความจริง หรือ ความกล้าคะ" ปั้นหยาถาม
"ความจริง" พยัคฆ์ตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ทว่าสายตาคมที่มองมาเหมือนกำลังคาดหวังอะไรบางอย่างจากตัวเธอ
"เอ่อ...เฮียเสือมีแฟนมาแล้วกี่คนคะ"
"ไม่เคยมี"
"อ๋อ ค่ะ" ปั้นหยาส่งยิ้มแห้ง ๆ ไปให้พยัคฆ์แก้เก้อ
เกมดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ มีทั้งคนที่รับคำท้า และเลือกที่จะดื่ม แต่ดูเหมือนว่าผู้หญิงจะมีความกล้าน้อยกว่าผู้ชายทำให้ทั้งปั้นหยา และปอไหมตอนนี้ดูเหมือนจะเหลือสติน้อยที่สุด
"หนูอีกแล้วหย่อออ~" ปั้นหยาพูดด้วยน้ำเสียงยานคาง เมื่อปากขวดถูกชี้มาที่เธออีกครั้ง
"ความจริง หรือ ความกล้า" ขุนพลถาม
"ความกล้าก็ด้ายย~"
"จูบคนที่นั่งถัดจากซ้ายมือไปสามคน"
"หนึ่ง~ สอง~ สาม~" ปั้นหยายกนิ้วมือเรียวขึ้นมาไล่นับถัดไปทีละคนจนไปหยุดอยู่ที่หน้าพยัคฆ์ ปั้นหยาลุกขึ้นยืนเดินโอนเอนไปตรงหน้าพยัคฆ์ด้วยสติสัมปชัญญะที่เลือนรางเต็มที
"เดี๋ยวกูดื่มแทนน้องเอง" พยัคฆ์เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ เมื่อปั้นหยาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
สะโพกมนนั่งลงบนหน้าตักแกร่งโดยไม่ได้สนใจแก้วเครื่องดื่มในมือหนาที่ถืออยู่เลย
"เกมนี้หนูเป็นคนตัดสินใจเอง" ปั้นหยาพูดประชิดใบหน้าคมคาย มือเรียวแย่งแก้วเหล้าในมือพยัคฆ์มาถือ
โดยทุกการกระทำของเธอกำลังทำให้คนอื่น ๆ ภายในห้องสนใจที่เธอเป็นตาเดียว ก่อนทุกคนจะถอนหายใจอย่างเสียดาย เมื่อมือเรียวกระดกแก้วเครื่องดื่มเข้าปาก ทว่าทุกสายตาก็ต้องเบิกโพลงอีกครั้ง เมื่อใบหน้าหวานเลื่อนเข้าไปประกบจูบลงบนริมฝีปากหนาอย่างกะทันหัน