เรียวตะรู้สึกหงุดหงิดอยู่ภายในใจเป็นอย่างมาก ว่าที่คู่หมั้นของเขาในอนาคต เป็นคนนำโชคให้กับพาร์ทเนอร์เขาอย่างนั้นเหรอ?
ทำให้ว่าที่คู่หมั้นของตัวเองเสียผลประโยชน์ไปมหาศาล เหอะ!! ตลกชะมัด!!
ตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ภายในห้องทำงานของเรียวตะ และกำลังนั่งเซ็นสัญญาตามที่ตกลงกันไว้
“ไม่ยักรู้เลยนะครับ ว่าคุณพลอยใสกับคุณเรียวตะเป็นเพื่อนกัน” มาร์คอฟพูดออกมาหลังจากเซ็นข้อตกลงกันเสร็จ
“ค่ะ ครอบครัวของเราทั้งสองสนิทกันค่ะ” พลอยใสพูดออกมา
“ถ้าไม่เป็นการรบกวน วันนี้ผมอยากจะตอบแทน นำความโชคดีมาให้ผมวันนี้ เป็นการเลี้ยงข้าวสักมื้อได้ไหมครับ”
มาร์คอฟพูดออกมา และหญิงสาวได้ยินดังนั้นก็ยิ้มโชว์ฟันสวยเรียวกันอย่างดีใจ แต่ทว่ามีเสียงของคนที่นั่งเงียบมาสักพักนั้นพูดขึ้นมา
“ขอโทษนะครับ เกรงว่าพลอยใส ไม่สะดวก เพราะวันนี้ครอบครัวของเราทั้งสองมีนัดทานข้าวเย็นเป็นการส่วนตัวครับ” เรียวตะพูดออกมา
แต่เมื่อหญิงสาวได้ยินก็ถึงกับขมวดคิ้วออกมา ทำไมเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย ‘วันนี้มีนัดทานอาหารเย็นกันอย่างนั้นเหรอ?’
“ขอโทษที่เสียมรรยาทนะครับ วันนี้ผมกับพลอยใสมีธุระต่อ งั้นผมขอเสียมรรยาทเชิญคุณมาร์คอฟกลับไปก่อนครับ”
เมื่อมาร์คอฟได้ยินเรียวตะพูดดังนั้นก็รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก เขารู้สึกชอบผู้หญิงข้างหน้าเป็นอย่างมาก แต่ไม่เป็นอะไร ถ้าอย่างนั้นขอช่องทางติดต่อกันไว้ก่อนก็ได้
“เออ คุณพลอยใสจะเป็นอะไรไม่ครับ ถ้าผมอยากรู้จักคุณมากกว่านี้” มาร์คอฟพูดออกไปอย่างเขินๆ
“ดะ ได้”
“ไม่สะดวกครับ เธอมีว่าที่คู่หมั้นแล้ว คุณคงไม่อยากเป็นมือที่สามหรอกใช่ไหมครับ” เรียวตะพยายามพูดออกไปอย่างใจเย็น
เมื่อมาร์คอฟได้ยินดังนั้นก็รู้สักเสียใจ นี่เขาอกหักตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเลยเหรอ เส้นทางที่จะสานความสัมพันธ์ของเขาและเธอจะจบเพียงเท่านี้จริงๆ เหรอ
ณ เพนท์เฮ้าส์
เมื่อหลังจากที่มาร์คอฟแยกตัวกลับไป เรียวตะก็พาหญิงสาวกลับมายังห้องทันที
“โอ้ย เรียวตะ ปล่อยนะ ฉันเจ็บ” พลอยใสพูดออกไป เพราะตั้งแต่ลงจากรถ เรียวตะก็เอาแต่บีบข้อมือเธอและกระชากแขนเธอจนมาถึงห้อง และที่เขาบอกกับมาร์อฟไปว่าครอบครัวมีนัดทานข้าวด้วยกันก็เป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น นิสัยแย่ชะมัด
“ฉันบอกทำไมไม่ยอมฟังเลยนะ พลอยใส ทำไมเธอถึงดื้อแบบนี้”
เรียวตะหงุดหงิดเป็นอย่างมากที่เธอขัดคำสั่งเขา และไม่ยอมรอเขาที่ในห้องทำงาน แถมยังไปเดินเพ่นพ่านอีก เขาคิดไว้ว่าหลังจากเสร็จจากการต่อรองกับมาร์คอฟเสร็จเขาจะพาเธอไปช้อปปิ้ง แต่ทว่าจิตใจของเขาตอนนี้มันร้อนรุ่มและหงุดหงิดไปหมด
“ก็นั่งอยู่ในห้องทำงานนายฉันเหงา แค่ออกไปดื่มเอง” เธอพยายามพูดแก้ตัวออกไป เพราะเธอก็รู้สีกว่าตัวเองมีส่วนผิดอยู่เหมือนกันที่ทำให้เรียวตะต้องเสียผลประโยชน์ไปถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งมองแล้วมันอาจจะไม่เยอะสำหรับเรียวตะเท่าไหร่ แต่มันก็มหาศาลกับเธอมากเช่นกัน
“คราวหน้า ถ้าทำตัวแบบนี้อีกฉันจะไม่ใจดีกับเธอแล้วนะพลอยใส”
“คำก็ขู่สองคำก็ขู่ ถ้านายไม่พาฉันไปที่นั่นตั้งแต่แรก เรื่องมันก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก” หญิงสาวพยายามเถียงออกไป
“พลอยใส ฉันคงจะใจดีกับเธอมากไปสินะ”
“จะว่าไป คุณมาร์คอฟนั่นก็ดีนะ รู้สึกว่าเขาหล่อและนิสัยดีอย่างไงไม่รู้ ถ้าได้เป็นแฟนกันก็คงจะดี” เธอที่กำลังหงุดหงิดอยู่เช่นกันก็พยายามพูดหยียวนเขาเพื่อที่จะเอาคืน
“พลอยใส อย่าแม้แต่จะคิดจะไปคบกับใคร เพราะเธอจะต้องเป็นของฉันแค่คนเดียว”
“หึ นายคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าฉันอย่างนั้นเหรอ?? นายไม่รู้อะไรเลยเหรอหลังจากที่นายจากฉันไปในวันนั้น ฉันก็ไม่ได้รักนายแค่คนเดียว รู้ไหมว่าหลังจากนั้น ฉันนะ คบผู้ชายหลายคนเลยล่ะ ถ้านายอยากจะหมั้นกับฉันและอยากให้ฉันเป็นแฟนนายจริงๆ นายก็ต้องทำใจหน่อยก็แล้วกันนะ เพราะของของฉันมันผ่านการใช้งานมาหลายคนแล้ว” พลอยใสพูดออกมาเพื่อที่อยากจะเอาชนะชายหนุ่ม แต่เรื่องที่เธอพูดนะเหรอมันจะเป็นความจริง แค่นายเรียวตะจากเธอไป เธอก็ร้องไห้ฟูมฟายจะเป็นจะตายเลยล่ะ จะเอาเวลาไหนไปคบกับชายอื่น
“พลอยใส ทำไมเธอถึงทำตัวเหลวไหลแบบนี้!!”
“หึ ผิดหวังในตัวฉันละสิ ถ้าผิดหวังมาก ฉันแนะนำให้นายยกเลิกงานหมั้นนั้นซะ แล้วฉันก็จะย้ายของออกไปจากที่นี่”
พลอยใสพูดจบก็หันตัวหมุนกลับไปยังห้องตัวเอง แต่ทว่าชายหนุ่มกลับรั้งเธอเอาไว้และผลักเธอลงไปยังโซฟาห้องนั่งเล่น และคร่อมร่างเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“ว๊ายยยยยย นี่นายจะทำอะไรฉัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ เรียวตะ”
“ไหนๆ เธอก็ผ่านประสบการณ์นั้นมาแล้ว งั้นฉันของลองหน่อยก็แล้วกัน ว่าตรงนั้นของเธอมันยังฟิตอยู่หรือหลวมไปแล้ว”
“ระ เรียวตะ ปล่อยฉันนะ นายมันบ้าไปแล้ว นายไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันแบบนี้นะ” หญิงสาวพยายามตะเกียกตะกายออกจากพันธะที่ชายหนุ่มรั้งเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล เขาพยายามใช้มือสำรวจตัวเธอ และประกบริมฝีปากของเธอ ใช้ฟันของเขากันเธอจนรู้สึกแสบที่ปาก ไม่นานเธอก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่คุ้งทั่วปากของเธอ
“อือ ระ เรียวตะ อืออออ เจ็บนะ” เธอพยายามผลักเขาออกไปจากตัวแต่ก็ไม่เป็นผล แรงของเขานั้นมันทำให้เธอนั้นไม่สามารถขยับหนีเขาไปไหนได้เลย เธอจึงได้แต่ต้องปล่อยให้เขาทำตามใจตัวเอง
ไม่นาน เขาก็ใช้มือของเขาลูบไล้ตามร่างกายของเธอ และดึงเกาะอกของเธอลงมากองที่เอว ทำให้หน้าอกของเธอที่เกาะพร้อมบราติดอยู่นั้นหายไปจากของสงวนของเธอทำให้ยอดหน้าอกสีชมพูโชว์ตะหง่านอยู่ต่อหน้าชายหนุ่ม
“เรียวตะ หยุดนะ อ๊า” หญิงสาวที่พยายามปฏิเสธชายหนุ่มก็ห้ามไว้ไม่ทัน เพราะเขานั้นใช้ปากของตัวเองก้มงับไปที่ยอดหน้าอกของเธออย่างแรง
“อ๊ะ นายมากัดหน้าอกฉันทำไม อ๊ะ”
“หมั่นไส้ คนปากดี” เรียวตะพูดออกมา ก่อนจะก้มงับต่อ ทำให้หญิงสาวนั้นร้องครางออกมา ด้วยความรู้สึกเจ็บ ปนความเสียว และครางออกมาจนชายหนุ่มนั้นเริ่มพอใจ
“อื้อ เรียวตะ หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
หญิงสาวพยายามจะห้ามใจตัวเองแต่ก็ฝีนต่อร่างกายของตัวเองไม่ไหว พอมารู้ตัวอีกทีก็ปรากฎว่า กางเกงยีนส์ที่เธอสวมใส่ก่อนหน้านี้มันหายไปจากตัวเธอเสียแล้ว แถมแพนตี้ที่เธอใส่ก็หลุดลอยหายไปอีกเสียด้วย
“ระ เรียวตะ หยุดนะ เราเป็นเพื่อนกันนะ”