แอ๊ดดดดด…
แกร๊กกกกกก…
พรึ่บ!!!
ว๊ายยยยยย!!!
พลอยใสที่เพิ่งกลับจากทานอาหารกับไรอัน ก็เดินเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ของชายหนุ่ม และเปิดประตูเข้ามาในห้องอย่างเบามือ และใช้มือเอื้อมไปเปิดไฟด้านข้าง เพราะตอนนี้ก็เกือบสองทุ่มแล้ว และคิดว่าเรียวตะนั้นยังไม่กลับมา แต่เธอก็ต้องตกใจ เมื่อไฟในห้องสว่างก็พบกับเรียวตะนั่งอยู่ในความมืดอยู่ตรงโซฟาห้องรับแขก ด้วยท่าทางที่ไม่พอใจอะไรสักอย่าง
“นี่ เรียวตะ มานั่งอะไรมืดๆ อยู่ตรงนี้คนเดียว ทำไมไม่เปิดไฟดีดี”
“ไปไหนมา!!!” เรียวตะพูดด้วยน้ำเสียงที่โมโหออกมา
“ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน ฉันโตแล้ว” เธอพูดไปอย่างเหนื่อยหน่ายกับเรียวตะ ที่หนึ่งวันพันอารมณ์
“ฉันถามว่าไปไหนมา!!!” เรียวตะพูดพร้อมเดินเข้าไปประชิดตัวหญิงสาวอย่างรวดเร็ว จนเธอนั่นตกใจและเดินถอยหลังชนกับประตูห้อง และเธอพยายามจะเดินหนี แต่ทว่ามือทั้งสองของเรียวตะนั่นดันประตูเอาไว้ข้างศีรษะของเธอไม่ให้ขยับไปไหน
“ฉันไปกินข้าวกับพี่ไรอันมา” เธอตอบพร้อมกับพยายามหนีออกจากความอึดอัดตรงหน้านี้
“ร่าน”
“นายพูดว่าอะไรนะ” หญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้าด้วยความโมโห นี่เขามีสิทธิ์อะไรมาว่าเธอแบบนี้
“ไปกินข้าวกับไอ้หน้าตี๋มา หรือไปถ่างขาให้มันที่ห้องล่ะ”
“เรียวตะ นายดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะ และฉันจะไปกินข้าวหรือจะไปถ่างขาให้พี่ไรอัน มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายเลยแม้แต่น้อย เพราะเราเป็นเพื่อนกัน ทีนายกินผู้หญิงไม่เลือกหน้าฉันยังไม่ว่าอะไรนายเลย”
หญิงสาวตะโกนด่าต่อหน้าชายหนุ่ม และตอนนี้ลมหายใจของชายหนุ่มนั่นเริ่มหายใจแรงขึ้นด้วยความโมโห
“มันไม่เหมือนกัน ฉันเป็นผู้ชาย ส่วนเธอเป็นผู้หญิง และอีกอย่างถ้าเธอโดนไอ้หน้าตี๋นั่นหลอกจะทำยังไง ถ้าเรื่องถึงพ่อกับแม่ของเธอฉันก็ต้องถูกโดนตำหนิว่าดูแลเธอไม่ดี”
เขาตะโกนด่าใส่หน้าเธอเช่นเดียวกัน
“อ๋อ ที่ด่าฉันแบบนี้เพราะกลัวว่าจะโดนพ่อกับแม่ของฉันด่าอย่างนั้นเหรอ นายไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรอกนะ เพราะฉันจะขอพ่อกับแม่ย้ายออกไปจากที่นี่เร็วๆ นี้แหละ และอีกอย่างต่อให้โดนพี่ไรอันหลอก ฉันก็เต็มใจ นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ เพราะฉันโตแล้ว ฉันดูแลตัวเองได้ ต่อไปนี้ต่างคนก็ต่างอยู่ก็แล้วกัน”
พลั่ก!!!
หญิงสาวใช้มือเรียวบางทั้งสองข้าง ผลักหน้าอกแกร่งของเรียวตะให้ออกจากตัวเธอ และรีบวิ่งเข้าไปในห้องของตัวเองทันที โดยไม่สนใจชายหนุ่มที่กำลังโมโหอยู่ด้านนอก
เธอนั่งร้องไห้อยู่ภายในห้องนานหลายนาทีจนสบายใจ และหลังจากนั้นเธอก็ต่อสายหาเพื่อนรักของเธอทันที
[ฮัลโหล เกรซ]
[ว่าไง ยัยพลอย]
[แก ช่วยงานที่บ้านเสร็จแล้วยัง]
[ใกล้แล้วล่ะ ทำไมเหรอ?]
[ฉันอยากไปเที่ยวอ่ะ พาไปหน่อยสิ]
[ห๊ะ นายเรียวตะ อนุญาตให้เธอไปเที่ยวได้เหรอ??]
เกรซ ถามออกมาด้วยความสงสัยที่ปลายสาย เพราะปกติแล้ว เรียวตะ จะห้ามเพื่อนของเธอไปไหนมาไหนคนเดียวตอนกลางคืน โดนเฉพาะสถานที่แบบนี้
[ฉันโตแล้ว จะไปไหนก็ได้]
[แกทะเลาะกับเรียวตะอีกแล้วเหรอ??] เกรซถามออกมาอีกครั้ง
[อืม มีเรื่องนิดหน่อย เดี๋ยวค่อยเล่าได้ไหม สรุปจะไปไม่ไป ถ้าไม่ไปฉันไปคนเดียวก็ได้]
[เห้อ ไปก็ไป แต่ฉันขอเร่งเคลียร์งานให้ป๊าอีกนิดหน่อย แล้วเดี๋ยวเราไปเจอกันที่ร้านเลยก็ได้ แกโอเคไหม??] เกรซถามออกมา
[โอเคสิ งั้นสี่ทุ่มเจอกัน]
หลังจากหญิงสาวคุยกับเพื่อนสนิทของเธอเสร็จ ก็ลุกขึ้นปาดน้ำตาของตัวเองและเดินไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแต่งตัวทันที วันนี้เป็นวันศุกร์ด้วยทำให้เธอนั่นอยากไปปลดปล่อยความเครียดของตัวเองให้เต็มที่ เพราะพรุ่งนี้เธอไม่มีเรียน
หญิงสาวแต่งหน้าเบาๆ และเคลือบด้วยริมสีแดงสดบนริมฝีปากอันอวบอิ่มของเธอ ปล่อยผมลอนยาวสีน้ำตาลสยายเต็มแผ่นหลัง และใส่เดรสสายเดี่ยวสีดำรัดรูป ความยาวสั้นเหนือเข่าโชว์เรียวขาสุดสวยและใส่รองเท้าส้นสูงสีดำ เดินออกจากห้องทันที
เธอมองซ้ายมองขวาก็พบว่าชายหนุ่มนั้นไม่อยู่ในห้องแล้ว น่าจะไปออกไปทำงานแล้วล่ะ เพราะเรียวตะ บ้างานเอามากๆ นายนั่นมีธุรกิจเต็มไปหมด ทำให้ต้องทำงานตัวเป็นเกลียวเลยแหละ
“ดีแล้วล่ะ ที่นายนั่นไม่อยู่ ถ้ายังอยู่มีหวังได้ทะเลาะกันอีกแน่ๆ”
เธอรีบเดินออกจากห้องและเรียกแท็กซี่ไปยังผับที่เธอนัดกับเพื่อนสนิทของเธอทันที โดยเธอเช็คแล้วว่าผับนี้ไม่ใช่ผับของเรียวตะเป็นเจ้าของ ซึ่งก็คือคนที่เธอกำลังพยายามหนีหน้าเขาในตอนนี้อีกด้วย