ตึกตัก.. ตึกตัก.. ตึกตัก..
เสียงของหัวใจของหญิงสาวเต้นแรงไม่เป็นจังหวะจนชายหนุ่มถึงกับหลุดยิ้มออกมาในขณะที่เขากำลังคร่อมร่างของเธออยู่
“หึ หัวใจของเธอเต้นเสียงดังมากเลยนะ ชอบฉันละสิ” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างมั่นใจในตัวเอง
“มะ ไม่ใช่ ฉันไม่ได้ชอบนาย ฉันแค่ตกใจ หัวใจฉันเลยเต้นแรงต่างหากล่ะ” หญิงสาวพูดแก้ตัวออกไป
“งั้นเหรอ งั้นลองพิสูจน์หน่อยไหมล่ะ!!”
“พิ.. พิสูจน์อะไร??” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดขัด
และเมื่อหญิงสาวพูดจบชายหนุ่มก็ใช้มืออีกข้างของตนเองจับล็อคใบหน้าของเธอไว้ พร้อมประกบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับริมฝีปากของเธอ
“อื้ออออ..” หญิงสาวที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ก็เผลอตกใจและอ้าปากให้ชายหนุ่มได้ใช้ลิ้นสอดแทรกเข้าไปในปากของเธอ
หญิงสาวที่ได้รับสัมผัสอันนุ่มนวล เธอก็รับตาพริ้มและจูบตอบกลับเขาทันที
“อื้มมมมม” ชายหนุ่มครางเสียงออกมาอย่างพอใจเมื่อหญิงสาวนั้นตอบรับจูบของเขา และไม่นานเขาก็ค่อยๆ ผละริมฝีปากออกอย่างช้าๆ เพราะหญิงสาวภายใต้ร่างของเขานั้นเริ่มหายใจติดขัดแล้ว
‘ปากหวานชะมัด’ ชายหนุ่มคิดอยู่ในใจ เขาจำเป็นต้องผละริมฝีปากออกจากเธอ เพราะถ้านานมากกว่านี้กลัวว่าจะไม่ใช่แค่จูบเธอเพียงเท่านั้น
“หึ ปากแข็ง” ชายหนุ่มพูดออกมา
“ใคร?? ฉันไม่ได้ปากแข็งสักหน่อย” หญิงสาวพูดพร้อมหลบสายตาของชายหนุ่ม
“จูบตอบฉันขนาดนี้ยังบอกไม่ชอบฉันอีก”
“แค่อารมณ์มันพาไปเฉยๆ แหละ จูบกับใครก็คงจะเหมือนกันทั้งนั้นแหละ” หญิงสาวพูดแก้ตัวออกไป แต่คำที่บอกว่า ‘จูบกับใครก็เหมือนกันทั้งนั้น’ ทำให้เขาที่กำลังอารมณ์ดีอยู่ต้องหุบยิ้มลงทัน
“เธอไม่มีสิทธิ์ไปจูบใครเรื่อยเปื่อย เพราะเธอจะต้องเป็นแค่ของฉันเพียงแค่คนเดียว”
“นายมันเผด็จการที่สุด” หญิงสาวพูดก่อนจะใช้สายตามองค้อนเขา
“ไปเปลี่ยนชุดซะ ฉันจะออกไปรอข้างนอก เดี๋ยวไม่ทันเข้าเรียนคาบเช้าของเธอ” ชายหนุ่มพูดก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากห้องนอนของเธอ
ณ มหาวิทยาลัย
ชายหนุ่มหลังจากที่สั่งเธอไปเปลี่ยนชุด เขาก็ไม่พูดกับเธออีกเลย และตอนนี้เธอก็เปลี่ยนชุดนักศึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เธอเปลี่ยนเป็นเสื้อนักศึกษาพอดีตัว กระโปรงพลีทอัดกลีบยาวคลุมเข่า และรวบผมขึ้นสูงทำให้ลุคนี้เธอดูน่ารักสดใส เป็นสาวเรียบร้อยแต่ซ่อนเปรี้ยวเอาไว้
ส่วนเขานะเหรอ?? จะใส่ชุดไหนก็ดูดี ดูหล่อไปเสียหมด วันนี้เขาใส่เสื้อช็อปของคณะและกางเกงยีนส์ขาดๆ สีซีด มันช่างเข้ากับสีผมควันบุหรี่สีเทาของเขาเป็นอย่างมากเลยล่ะ
แต่ก็ช่างเถอะ เธอไม่สนใจหรอก สิ่งที่เธอสนใจตอนนี้คือต้องออกจากความสัมพันธ์บ้าๆ นี้เสียที เขายังจะทำตัวเกินคำว่าเพื่อนมากเกินไปแล้ว หลังจากเรียนเสร็จคาบเช้าเธอก็จะไปทานข้าวกับพี่ไรอัน และไปช้อปปิ้งกับพี่เขาแล้วล่ะ
“วันนี้ตอนกลับนายไม่ต้องมารับฉันนะ ฉันจะไปเที่ยว”
“ไปกับใคร??” เขาพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ และมองมาที่เธอ
“เอ่อ กับ กับยัยเกรซไงล่ะ ไม่ต้องห่วงนะ ไม่ต้องให้ลูกน้องนายมาตามหรอก ฉันดูแลตัวเองได้”
เธอพูดดักทางชายหนุ่มเอาไว้ เพราะปกติแล้วถ้าเธอไม่กลับพร้อมกันกับเขา เขามักจะส่งลูกน้องของเขามาดูแลเธอ แต่มันน่าอึดอัดมาเลยล่ะ เพราะลูกน้องของเขานิสัยเหมือนกันไม่มีผิด ยิ่งวันไหนถ้าเซย์จิมานะ เหอะ ฉันนี่แทบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดิน เพราะชายหนุ่มคนไหนก็ไม่สามารถส่งสายตาปิ๊งๆ มาหาฉันได้เลยล่ะ แต่สาวๆ ที่มองมองยังเขายืนกรี๊ดกันจนหูฉันแทบจะแตก
“อืม กลับห้องห้ามเกินหนึ่งทุ่ม” เขาอนุญาตเธอไปเที่ยวแล้ว เมื่อเธอได้ยินก็ยินก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ
“ขอบคุณนะ”
“จะยิ้มอีกนานไหม ลงไปได้แล้ว” เรียวตะพูดกับเธอ เมื่อเธอได้ยินดังนั้นก็เปิดประตูรถสปอร์ตของเขาลงไปทันที
หลังจากเรียนเสร็จ..
“แกแน่ใจนะ ยัยพลอย ว่าจะไม่ให้ฉันไปเป็นเพื่อนแก ตอนเดทกับพี่ไรอันอ่ะ” เกรซ เพื่อนสนิทของเธอถามออกมาเพื่อความแน่ใจ เพราะแค่เธอนึกถึงนายเรียวตะเพื่อนของเธอเพียงแค่นั้นก็ทำให้เธอนั้นเสียวสันหลังเลยล่ะ ไหนจะสายตาที่เย็นชาที่จ้องมองมาก็สามารถฉีกเนื้อคนเป็นชิ้นๆ ได้ตลอดเวลา นึกถึงแล้ว ‘น่ากลัวชะมัด’
“แน่ใจสิ ยัยเกรซ แกไม่ต้องห่วงหรอก หลังจากเดทกันเสร็จฉันก็ตกลงจะคบกับเขาเป็นแฟน และหลังจากนั้น ฉันก็จะได้มาอยู่คอนโด และชีวิตฉันก็จะเป็นอิสระ!!” หญิงสาวพูดพร้อมกับใช้มือของตนวาดฝันกลางอากาศ ทำให้เกรซมองหน้าเธอและทำตาปริบๆ
“ฉะ ฉันว่านะ แกตัดสินใจหมั้นกับนายเรียวตะไปเถอะ ฉันกลัวว่าชะตาของเธอจะขาดเอานะ”
“ไม่มีทาง ฉันกับนายเรียวตะ เป็นได้แค่ เพื่อนกัน เท่านั้นแหละ” หญิงสาวพูดเน้นย้ำออกมา
“ถ้าแกตัดสินใจแล้ว ฉันก็ขอให้เธอโชคดีและกันนะยัยพลอย แหะๆ” เพื่อนสาวของเธอให้กำลังใจเธอและยิ้มออกมาอย่างแห้งๆ
หลังจากที่ทั้งสองแยกจากกัน พลอยใสก็ไปเดทกับไรอันทันที
“พี่ดีใจมากเลยนะ ที่น้องพลอยใสตกลงคบกับพี่” ไรอันพูดออกมาด้วยแววตาที่มีความสุขและยิ้มแย้มแจ่มใส
“ค่ะ พลอยก็ดีใจเหมือนกันค่ะ ที่พี่ไรอันคบกับพลอย”
“หลังจากนี้เราเป็นแฟนกันแล้วนะครับ” ไรอันพูด พร้อมเอื้อมมือไปจับมือหญิงสาวอย่างเขินอาย
“ค่ะ พี่ไรอัน”
“งั้นวันนี้แฟนของพี่อยากกินอะไร อยากได้อะไร พี่เปย์ไม่อั้นเลยครับ”
“จริงเหรอคะ งั้นวันนี้พลอยใสไม่เกรงใจพี่ไรอันแล้วนะ”
“ได้เลยครับ เลี้ยงหนูทั้งชีวิต ขนหน้าแข้งพี่ก็ไม่ร่วงหรอก ฮ่าๆ” ไรอันพูดออกมา
ทั้งสองคุยกันและเดทกันอย่างมีความสุข โดยที่ทั้งสองคนนั้นไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมองมาที่เขาทั้งสองอย่างไม่วางตา
“เธอโดนดีแน่ พลอยใส”
ณ เพนท์เฮ้าส์
หญิงสาวมาถึงห้องพอดีเป้ะๆ ไม่ขาดไม่เกินหนึ่งทุ่มอย่างที่เรียวตะบอกเอาไว้
แต่ทว่าภายในห้องนั่นมืดไปหมด ไม่เปิดไฟราวกับไม่มีคนอยู่ แต่ทว่าเครื่องปรับอากาศทำงานจนเย็นเฉียบทำให้เธอนั้นรู้สึกแปลกอยู่ไม่น้อย
“หรือว่าเราจะลืมปิดแอร์ก่อนออกจากห้องนะ แต่ไม่น่านะ เพราะว่ามันระบบอัตโนมัติอยู่แล้วนี่นา”
เธอพูดพึมพำกับตัวเองก่อนจะเอื้อมมือเปิดลูกบิดเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง และเอื้อมมือไปเปิดไฟเพื่อให้ห้องนั้นสว่าง
แต่เธอก็ต้องตกใจ เพราะว่าเรียวตะ นั่งอยู่บนโซฟาของเธอและหันหน้ามองดูวิวยามค่ำคืนของแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในห้องอย่างมืดก่อนหน้าที่เธอจะเข้ามา
“ระ เรียวตะ นะ นายมาทำอะไรที่ห้องของฉันเหรอ??”
“ฉันบอกแล้วใช่ไหม ว่าห้ามไปยุ่งกับมันอีก”