สุดท้ายเธอก็หนีนัดของแม่ไม่พ้น เพราะเมื่อกลับมาถึงคอนโดก็เจอกับแม่นั่งรออยู่ที่ห้อง แถมยังบังคับให้เธอไปตามนัดตอนเย็น นอกจากนั้นยังต่อว่าเรื่องที่เธอเมาแล้วไม่กลับห้อง ทำให้ตอนนี้เธอต้องมานั่งหน้าเมื่อยอยู่กับผู้ชายชื่อธันย์ที่แม่นัดให้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
"น้องลินสวยมากเลยนะครับ สวยกว่าในรูปที่คุณน้าส่งให้พี่อีก"ธันย์เอ่ยอย่างยินดี เขารู้สึกถูกตาต้องใจลินดาตั้งแต่แม่เธอส่งรูปไปให้ดู เลยตกลงนัดเธอออกมาทานข้าวเพื่อทำความรู้จักทันที
"ค่ะ"ถามคำตอบคำไม่เกินจริง แค่ต้องมานั่งตรงนี้ก็ถือว่าดีแค่ไหน ยังต้องมาฟังผู้ชายคนนี้พูดจาหวานหูจนขนลุกขนพองไปหมด แต่ละคนที่แม่หาให้ ไม่เคยมีคนไหนปกติสักคน
เมื่ออาหารที่สั่งไว้มาเสิร์ฟ ธันย์ก็บริการตักใส่จานให้เธออย่างเอาใจ ถึงเธอจะถามไม่ค่อยพูดเขาก็ยังจะรุก คิดว่ายังไงต้องได้สานต่อกับเธอแน่นอน เพราะแม่ของเธอเองก็เชียร์เขาเต็มที่
"ทานเยอะ ๆ นะครับ พี่อยากให้น้องลินอ้วนขึ้นกว่านี้อีกหน่อย"
"ค่ะ"อยากจะหายไปจากตรงนี้เหลือเกิน อาหารตรงหน้าไม่ได้ทำให้เธออยากแตะมันสักนิด ถึงวันนี้จะไม่ได้กินข้าวเลยสักมื้อ แต่ก็รู้สึกพะอืดพะอม จนไม่อยากกินอะไร
ด้านพายุเองก็จำใจมากินข้าวกับอันนา คนที่พ่อเขาบอกว่าคือคู่หมั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปหมั้นกับเธอตอนไหน เจอกันกี่ครั้งก็เหมือนเดิม ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นได้เลย ถึงผู้หญิงตรงหน้าจะสวยแค่ไหน แต่ไม่ใช่สเป็กของเขาอยู่ดี
"พี่พายุค่ะ วันนี้อันไม่รีบกลับ อยากไปนั่งดื่มที่ผับพี่ได้หรือเปล่าคะ"
เสียงหวานของอันนาที่พยายามปรุงแต่งให้ดูเป็นผู้หญิงไร้เดียงสา แต่ทว่าเขาเห็นผู้หญิงแบบนี้มานักต่อนัก มันดูปลอมไปเสียหมด แต่ในเมื่อเธอแสดงออกมาแล้ว เขาจะแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วกัน อยากรู้เหมือนกันผู้หญิงแบบนี้จะไปสุดที่ตรงไหน
"ได้สิครับ กินข้าวเสร็จแล้วพี่พาไป"
เมื่อกินเสร็จพายุมองหาบริกรมาเช็คบิล แต่ทว่าเมื่อเขาหันไปด้านหลัง กลับเห็นลินดามานั่งกินข้าวอยู่ร้านเดียวกับเขาอย่างบังเอิญ
หึ...เมื่อเช้ายังเสนอตัวตอบแทนให้เขาอยู่เลย ตอนนี้มานั่งกินข้าวกับผู้ชายอีกคน
"ใครคะ? พี่พายุรู้จักเหรอคะ"อันนาที่เห็นพายุหันไปมองโต๊ะด้านหลังห่างจากโต๊ะเธอไปประมาณสามโต๊ะ เป็นชายหญิงคู่หนึ่งนั่งกินข้าวกันอยู่ มองจากตรงนี้อันนายังเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นสวยมาก ขนาดนั่งหน้าบึ้ง ยังดูสวยจนเธออิจฉา
"ครับ แต่ไม่ได้สนิท เราไปกันดีกว่านะ พี่มีงานต้องเคลียร์ด้วย"
ระหว่างกำลังเดินออกจากร้าน ซึ่งต้องผ่านโต๊ะที่ลินดานั่งอยู่ พายุก็หันไปสบตากับเธออย่างจงใจก่อนจะมองเลยไปยังผู้ชายที่เธอมาด้วย
ลินดาแสดงสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเขาอยู่ในร้านเดียวกับเธอ ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ หันไปบอกธันย์ว่าเธออยากกลับแล้ว ซึ่งธันย์เองก็ไม่ขัดข้องเรียกบริกรมาเช็คบิลทันที
ขนาดว่าอยู่ในรถธันย์ก็ยังพูดไม่หยุด ลินดาเกลียดผู้ชายประเภทนี้ที่สุด เมื่อไหร่จะถึงสักทีก็ไม่รู้ เธออยากกลับไปพักผ่อนเต็มทนแล้ว
"ไว้พี่จะโทรหานะครับ"
ลินดากรอกตามองบน ไม่ตอบอะไร รีบเปิดประตูลงจากรถทันที และสัญญากับตัวเองว่าครั้งนี้คือครั้งสุดท้ายที่เธอจะมาตามนัดที่แม่นัดให้ หลังจากนี้หากแม่จะตัดขาดจากเธอก็คงต้องยอม เธอเองก็เหนื่อยที่ต้องยอมทำตามแม่ทุกอย่าง
"กูเบื่อ...ยิ่งปิดเทอมแบบนี้กูยิ่งเบื่อ"ลินดาโทรปรึกษาขวัญตาทันทีที่ถึงห้อง
(ถ้ามึงไม่อยากให้แม่มึงทำแบบนี้ ก็หาแฟนสักคนสิ ถ้ามึงมีกูว่าแม่มึงคงไม่บังคับแล้วนะ)
"หาง่ายมากเลยมั้ง ผู้ชายดี ๆ หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร มึงโชคดี อีปิ่นโชคดี ก็อย่าคิดว่ากูจะโชคดีอย่างพวกมึง"
(แล้วให้ทำไง หรือจะหาแฟนหลอก ๆ ดีไหม จ้างใครสักคนเป็นแฟนมึงสิ)
"แนะนำเป็นละครเลยมึงอีขวัญ ใครเขาจะรับจ้างเป็นแฟนเด็กมหาลัยว่ะ ใช่เรื่องไหม"
(มีนะ...กูเคยเห็นแวบ ๆ ในเฟซนี่แหละ เป็นการรับจ้างเป็นแฟนแบบประมาณชวนไปนู่นไปนี่อ่ะ แต่กรณีของมึงไม่รู้เขารับไหมนะ ให้กูหาแล้วส่งลิ้งค์ไปให้เอาไหม)
"ล้อกูเล่นหรือเปล่า"ลินดาเอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อว่าจะมีอาชีพแบบนี้จริงๆ
(จริง)
"งั้นมึงหาแล้วส่งมาที"
หลังวางสายไม่นาน ขวัญตาก็ส่งลิ้งค์เฟซบุ๊คของคนที่รับจ้างเป็นแฟนมาให้เธอจริง ๆ ตอนแรกไม่เชื่อคิดว่าเพื่อนพูดเล่น แต่พอได้เข้าไปส่องมากลับพบว่ามันมีอาชีพนี้อยู่จริง ๆ และเป็นเด็กมหาลัยด้วยที่ทำ
นิ้วเรียวกดส่งข้อความไปหาเฟซต้นเรื่อง ซึ่งเจ้าของเฟซก็ตอบกลับมาแทบจะทันที ไม่ถึงหนึ่งนาทีเลยด้วยซ้ำ
ลินดา: ไม่ทราบว่ารับจ้างเป็นแฟนแบบไหนคะ ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยค่ะ
คราม: ครับรับจ้างจริง แต่ไม่ใช่จ้างประจำนะครับ เป็นการจ้างวันต่อวัน เช่นถ้าคุณอยากหาเพื่อนเที่ยว เพื่อนไปช็อปปิ้ง เพื่อนไปดูหนัง ประมาณนี้นะครับ มีเรทราคาอยู่ เดี๋ยวผมส่งให้นะครับ
ลินดา: แล้วถ้าฉันต้องการจ้างให้หลอกแม่ว่ามีแฟนแล้วแบบนี้รับหรือเปล่า น่าจะไปเจอแค่ไม่กี่ครั้งหรอก แค่พอให้ท่านเชื่อว่าฉันมีแฟนแล้ว
คราม: อ่า...แบบนั้นมันเกินขอบเขตไปสักหน่อยนะครับ มันเริ่มมีบุคคลที่สามแบบนี้ผมไม่เคยรับมาก่อน อีกอย่างจะเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้นะครับ
ลินดา: ฉันให้สามเท่าจากที่คุณทำอยู่เอาหรือเปล่า แค่ไปเจอแม่ฉันครั้งสองครั้งเองนะคะ
ใจป้ำเสนอเงินไปให้ก้อนใหญ่ โดยยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรทราคาของเขาเป็นเท่าไหร่กัน แต่ปากไวไปก่อน เพราะเริ่มมองเห็นทางสว่างที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากแม่สักที
คราม: ขอนัดเจอได้ไหมครับ จากโปรไฟล์ยังไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ ยิ่งคุณจะให้สามเท่า ผมยิ่งไม่ค่อยเชื่อ เจอหน้าแล้วตกลงกันดีกว่าไหมครับ
ลินดา: เอาสิ...ไม่มีอะไรต้องกลัวอยู่แล้วเพราะฉันพูดจริงแน่นอน อยากนัดที่ไหนว่ามาได้เลย
คนในแชทที่ชื่อครามแชร์โลเคชั่นมาให้เธอเป็นผับแห่งหนึ่ง แต่ทว่าเมื่อมองดีมๆ มันคือผับของพายุ นี่เธอหนีอีตานั่นไม่พ้นจริง ๆ ใช่ไหม ไปทานข้าวร้านอาหารก็เจอ ร้านในกรุงเทพฯมีเป็นร้อย ๆ ยังมาเจอกันได้อีก
เมื่อตกลงกันเสร็จสรรพ ลินดาก็อาบน้ำแต่งตัวไปตามนัด โดยไม่ได้สนใจอะไรอีก ถึงเวลาเธอก็มารอที่หน้าผับตามที่นัดกับอีกฝ่ายไว้ เพราะหากไปรอในผับเลย คนไม่เคยเจอกันมาก่อนจะหากันยากยิ่งกว่าเดิม
รอไม่นานก็มีเสียงโทรศัพท์เข้าเป็นการโทรจากแชทเฟซของคนที่ชื่อคราม ลินดาก็รับสายทันที
"คุณอยู่ตรงไหนคะ"
(คุณใช่คนที่ยืนคุยโทรศัพท์ใส่เสื้อสีดำหรือเปล่า ถ้าใช่หันหลังมาหน่อยครับ)
ลินดาหันหลังไปตามที่บอก ก่อนจะเจอกับชายหนุ่มร่างสูง ผิวไม่ขาวมาก หน้าตาคมเข้ม ยืนอยู่ไม่ห่างจากเธอมากนัก
"นั่นคุณใช่ไหมคะ"ถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเดินเข้ามาหาเธอ
"สวัสดีครับ ผมชื่อคราม"
"ค่ะ ชื่อลินดานะคะ"
ดูจากท่าทางการแต่งตัวแล้ว สำหรับเธอจัดว่าเกินความคาดหมายไปมาก
"งั้นเราเข้าไปข้างในเลยดีกว่าค่ะ"
ครามพยักหน้า ก่อนจะเป็นคนเดินนำคนตัวเล็กเข้าไปข้างใน เขาได้จองโต๊ะไว้แล้ว เมื่อเข้ามานั่งก็ได้สั่งเครื่องดื่มเบา ๆ ให้หญิงสาวตรงหน้า
ไม่บ่อยนักที่ครามจะได้เจอผู้หญิงสวยแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วลูกค้ามักเป็นประเภทมีอายุมากกว่าเยอะ หาแฟนไม่ได้ เลยต้องมาจ้างเขา แต่ทว่าตั้งแต่เขาเห็นรูปเธอจากเฟซบุ๊ค ยอมรับตามตรงเขาคิดว่าเป็นรูปหลอก อีกทั้งเหตุผลที่เธอมาจ้างยังดูไม่สมเหตุสมผล เพราะคนหน้าตาแบบเธอหาแฟนได้สบาย ยังคิดว่าเธอโกหกเขาด้วยซ้ำ
"ลินดาเรียนปีไหนครับ"
"ปีหน้าขึ้นปีสี่ค่ะ แล้วคุณล่ะคะ"
"เหมือนกันครับ งั้นเรียกชื่อเฉย ๆ ก็พอนะ จะได้ดูสนิทกันด้วย"
"ก็ได้ค่ะ เรามาตกลงเรื่องการจ้างงานกันดีกว่า"เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่มองเธอ ลินดาเลยต้องรีบเข้าเรื่องทันที เธอเองก็ไม่อยากนั่งที่นี่นาน ๆ ด้วย กลัวจะอดใจดื่มไม่ไหว วันนี้ตั้งใจแล้วว่าจะไม่เมากลัวจะเกิดเรื่องเหมือนเมื่อคืน
"ที่จริงเราไม่รับงานแบบนี้นะ เรารับแค่แบบไปกินข้าว ดูหนัง มีไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้างประปราย แล้วส่วนใหญ่ลูกค้าก็เป็นคนทำงานแล้วทั้งนั้น ลินคนแรกเลยนะที่เป็นเด็กมหาลัยเหมือนกับเรา"
"เราก็ไม่เคยจ้างงานประเภทนี้หรอก แต่มีปัญหากับแม่เรื่องนี้จริง ๆ เลยต้องหาเหตุผลไปอ้างนะ ไม่งั้นท่านก็ไม่เลิกจับคู่ให้เราสักที"