1

1015 Words
โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง หลังจากสอบวันสุดท้ายน้ำใสก็เดินออกมารอรถประจำทางเพื่อตรงกลับบ้าน หญิงสาววัยย่างสิบแปดปีรูปร่างกะทัดรัด ทว่าสัดส่วนไม่ธรรมดา หน้าอกหน้าใจใหญ่เด้งจนกลายเป็นอาหารตาของหนุ่มๆ บั้นท้ายกลมกลึงน่ามอง ยามที่ร่างเล็กก้าวเท้าเดินส่งผลให้เนื้อแน่นนั้นเบียดเสียดกัน ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักตามแบบฉบับพิมพ์นิยมของชายไทย ดวงตากลมโตบ๊องแบ๊ว ปลายจมูกโด่งกำลังดี ไม่พุ่งและไม่ต่ำจนเกินไป รับกับริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ องค์ประกอบทุกส่วนบนใบหน้าและร่างกายขับให้น้ำใสดูสวยและโตเกินกว่าวัยไปไม่น้อย “ขอเบอร์หน่อยได้เปล่า ?” ขณะที่นั่งรอรถอยู่ก็มีรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยอื่นที่บังเอิญผ่านมาแถวนี้ตรงเข้ามาขอเบอร์ “ไม่ได้ค่ะ” เธอกล่าวปฏิเสธทันควัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผู้ชายเข้ามาขอเบอร์ และแน่นอนว่าที่ผ่านมาน้ำใสไม่เคยให้เบอร์ใคร “อย่าหยิ่งสิ น่ารักแบบเธอเราสเปกเราจริงๆ” “ไม่ได้หยิ่งแต่ให้ไม่ได้ค่ะ” “ทำไมให้ไม่ได้” “ไม่มีโทรศัพท์” “….” จริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าเธอไม่มีโทรศัพท์มือถือ แต่เป็นเพราะยังไม่อยากสนใจเรื่อวความรัก จึงเลือกที่จะโกหกไปแบบนั้น สุดท้ายชายหนุ่มจำใจต้องยอมจากไปทั้งที่ไม่ได้เบอร์ แต่ก็ยังไม่วายนึกบ่นน้ำใสในใจ ‘โตจนนมตั้งแล้วไม่มีโทรศัพท์ใช้ได้ไงวะ’ บ้าน เมื่อมาถึงบ้านน้ำใสก็รีบเอาของขึ้นไปเก็บแล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดที่เธอจะอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ หลังจากจัดการตัวเองเสร็จน้ำใสก็ขี่จักรยานออกไปที่ตลาดเพื่อซื้อเค้กวันเกิดให้ตัวเอง โดยเงินนั้นก็มาจากค่าขนมในแต่ละวันที่เธอเก็บเล็กผสมน้อย จอดจักรยานเสร็จน้ำใสก็รีบพุ่งตัวไปยังร้านเค้กเจ้าประจำ เรียกได้ว่ามาซื้อแทบทุกปี กริ้ง~ “มาเอาเค้กค่ะ” เธอทักทายเจ้าของร้านอย่างสนิทสนม “รอแป๊บนึงนะจ๊ะคนสวย” จูนคลี่ยิ้มด้วยความเอ็นดูแล้วเดินไปหยิบเค้กขนาดครึ่งปอนด์มายื่นให้น้ำใส “เท่าไหร่คะ” “เจ้ไม่คิดเงินหรอก” “ไม่เอาค่ะ ถึงหนูจะจนแต่ก็ไม่อยากเอาเปรียบใคร” “ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดจากเจ้แล้วกัน” น้ำใสลังเลว่าจะทำอย่างไรดี เธอเกรงใจแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าอยากประหยัดเงิน “นี่ ไม่ต้องคิดมาก เจ้บอกว่าให้ก็ให้ รีบเอากลับไปเป่าสิเดี๋ยวละลายไม่รู้นะ” เพราะคิดไว้แล้วว่าน้ำใสคงลำบากใจที่จะรับเค้กฟรีๆ จูนจึงทำเป็นเค้กไอศกรีมเพื่อให้เธอรีบนำกลับไปที่บ้านก่อนมันจะละลาย “เค้กไอติมเหรอคะ ?” “จ้ะ” “จริงเหรอเจ้! โหยเจ้อะ!” หญิงสาวเบิกตาโตด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากร้าน ขับจักรยานตรงกลับไปที่บ้าน ราคาเค้กไอศกรีมที่ร้านราคาค่อนข้างสูง จึงทำให้เธอกลัวว่ามันจะละลายและเสียของซะก่อน เมื่อมาถึงบ้านน้ำใสก็รีบเอาเค้กไอศกรีมเข้าไปแช่ในตู้เย็นทันที จากนั้นก็ทำการบ้านรอผู้เป็นแม่กลับมาจากการขายก๋วยเตี๋ยว สองชั่วโมงผ่านไป “อีน้ำใสมาช่วยเอาของเข้าไปเก็บหน่อย!” เสียงแหลมดังขึ้นจากทางหน้าบ้าน น้ำใสรีบดีดตัวลุกขึ้นวิ่งออกไปช่วยแม่ถือของเข้ามาเก็บ “ทำไมวันนี้วิ่งออกมาไว ปกติกูต้องเรียกจนปากจะฉีก” นงเหล่มองลูกสาวอย่างไม่ไว้ใจ “ก็วันนี้…” “จะวันอะไรก็ช่าง กูจะบอกว่าช่วยขยันให้มันได้แบบนี้ทุกวันด้วย” พูดจบก็เดินนำหน้าลูกสาวเข้าไปในบ้าน น้ำใสรู้สึกใจเหี่ยวเล็กน้อยเพราะดูเหมือนว่าผู้เป็นแม่จะลืมวันเกิดของเธอ หญิงสาวเดินคอตกเอาของเข้าไปเก็บไว้ในครัว แต่ระหว่างนั้นเสียงแม่ก็ตะโกนดังขึ้นมา “อีน้ำใสหยิบถุงสีขาวเล็กๆ ออกมาให้กูด้วย” “จ้าแม่!” เสียงลมหายใจถูกพ่นออกมาเบาๆ ก่อนที่น้ำใสจะหยิบถุงสีขาวใบเล็กแล้วเดินเอาไปให้ผู้เป็นแม่ “อะแม่” “เอาไปสิ” “ให้หนูเหรอ” “ให้หมามั้ง” น้ำใสประมวลผลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่รอยยิ้มกว้างจะปรากฏบนใบหน้า แม่ไม่ได้ลืมวันเกิดของเธอ เพียงแค่อยากเซอร์ไพรส์เท่านั้น เธอรีบแกะถุงนั้นออกด้วยความตื่นเต้น ปรากฏว่าเป็นลิปสติกสีที่เคยขอให้แม่ซื้อให้ ซึ่งตอนนั้นนอกจากแม่จะไม่ยอมซื้อให้แล้วเธอยังถูกต่อว่าอีกต่างหาก “แม่!” “โอ๊ย! กูก็นั่งอยู่ตรงนี้มึงจะตะโกน…” ไม่รอให้แม่พูดจนจบประโยค น้ำใสรีบพุ่งเข้าไปสวมกอดท่านทันที ทำเอานงชะงักเงียบไป “ขอบคุณนะแม่” ความเงียบเข้าครอบงำอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่นงจะเป็นฝ่ายผละตัวออก “กูซื้อให้เพราะสงสารหรอก เอาไว้ใช้ตอนที่อยู่บ้านเท่านั้น อย่าให้กูเห็นว่าทาไปเรียน” “จ้าแม่~” น้ำใสขานรับเสียงหวานแล้วเก็บลิปสติกใส่ถุงไว้อย่างเดิม แม้ว่าลิปสติกแท่งนี้จะไม่ได้หรูหราหรือแพงมากมายอะไร แต่เธอก็ดีใจเพราะได้มันมาจากผู้เป็นแม่ จากนั้นทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในครัว ร่างเล็กหยิบเค้กออกมาปักเทียนแล้วอธิษฐานก่อนเป่า โดยมีแม่คอยร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้ ก่อนที่ทั้งสองจะนั่งกินก๋วยเตี๋ยวน้ำใสด้วยกัน บรรยากาศท่ามกลางวันเกิดอายุครบสิบแปดปีของน้ำใสคละคลุ้งไปด้วยรักและความอบอุ่น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD