ตอนที่3

1874 Words
ร่างสูงยืนพิงระเบียงกระจก มองออกไปยังทิวทัศน์ด้านล่างที่เต็มไปด้วยรถราที่ติดขัดในยามเช้า เมืองหลวงช่างวุ่นวายจากการดิ้นรนเอาตัวรอดของผู้คนที่ไม่มีแม้แต่เวลาจะหยุดหายใจ ควันบุหรี่สีเทาจางลอยออกจากริมฝีปากเขาอย่างช้า ๆ ปลายแท่งบุหรี่แดงวาบขึ้นเมื่อเขาสูดนิโคตินเข้าปอดอึกใหญ่ แล้วปล่อยออกมาให้สายลมพัดพาไปพร้อมความวุ่นวายในหัว มือหนาเลื่อนลูบไปบนแผงอกเปลือยเปล่า ร่องรอยเล็บข่วนจาง ๆ ยังฝังอยู่บนผิวกายราวกับหลักฐานของค่ำคืนร้อนแรง เขาหันกลับไปมองเตียง ร่างเล็กนอนหลับสนิทใต้ผ้าห่ม ผิวขาวเนียนโผล่พ้นผ้าให้เห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่ประดับด้วยรอยดูดสีแดงจัด ร่องรอยความร้อนแรงที่ยังไม่จางไปไหน ‘คุณ... อ๊า หนูเสียวมาก...’ ‘ลึก... อื้อ... หนูไม่ไหวแล้ว’ เสียงหวานยังดังก้องในหัว ราวกับยังวนเวียนอยู่ข้างหู ความทรงจำในคืนที่เขาหลุดควบคุมกลับมาอีกครั้ง เขาเพิ่งปล่อยให้เธอได้พักไม่กี่ชั่วโมงก่อน… แต่รอยเลือดสีแดงจางบนผ้าปูที่นอนสีขาว กลับกระแทกสติของเขาอย่างจัง ถ้าเมื่อคืนเขาไม่ได้เมา... เขาคงหยุดมันไว้ตั้งแต่แรก ผู้หญิงที่ยังบริสุทธิ์ คือ "ข้อห้าม" ที่เขาตั้งกฎกับตัวเองไว้เสมอ แต่มันกลับพังทลายลงด้วยอารมณ์ชั่ววูบ! เขายอมรับอย่างไม่อ้อมค้อมว่าเธอสวย…สวยจนเขาไม่อาจละสายตา เรือนร่างอ่อนนุ่มนั่น… ริมฝีปากที่สะท้านทุกแรงจูบ แววตาใสที่ไหวระริกในยามถูกรุกราน เธอเย้ายวนในแบบที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เธอกลับกระตุ้นบางอย่างในตัวเขาที่เขาไม่อยากเผชิญหน้าอีก เขาไม่เคยตั้งใจจะพรากสิ่งที่ผู้หญิงหวงแหนที่สุดไป ไม่เคยคิดอยากเป็น ผู้ชายคนแรก ของใครอีก เขาเคยเป็นมาแล้ว... ครั้งหนึ่ง ในวันที่เขายังเด็ก อ่อนหัด และเชื่อว่าความรักคือคำตอบของทุกสิ่ง ผู้หญิงคนนั้นมอบทุกอย่างให้เขา ทั้งตัว ทั้งใจ เขาคือคนแรกของเธอ และในตอนนั้นเขาก็เชื่อว่า...เธอจะเป็นคนสุดท้ายของเขา แต่มันไม่เป็นแบบนั้น เธอจากไป ทิ้งเขากับความรู้สึกผิด และคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบ เขาต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะทำใจได้ แต่ในความรู้สึกลึกๆของหัวใจ เขารู้...เขาไม่เคยลืม และเพราะแบบนั้น…เขาถึงเกลียดผู้หญิงที่ยังบริสุทธิ์ เสียงขยี้บุหรี่ดังกรอบแกรบ มวนเดิมถูกดับลงในถาดเขม่า ก่อนที่เขาจะหยิบมวนใหม่ขึ้นมาจุดไฟอีกครั้ง ควันขาวลอยเอื่อยในห้องพักสุดหรู กลบกลิ่นสาบเหงื่อและรสสวาทที่ยังหลงเหลืออยู่ในอากาศ โทรศัพท์มือถือรุ่นหรูถูกหยิบขึ้น มือหนาเลื่อนนิ้วไปยังรายชื่อคุ้นเคย ค้างนิ้วอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกดโทรออก “ไงเพื่อน ของขวัญวันเกิดที่ส่งไปถูกใจละสิ ถึงได้โทรมาขอบคุณกูแต่เช้า” เสียงปลายสายสดใสราวกับไม่มีอะไรผิดปกติ เสียงหัวเราะของอีกฝ่ายเหมือนกรวดที่ขูดกลางอก “ขอบคุณกะผีสิวะ! มึงรู้ไหมว่า ‘เมียของขวัญ’ ที่มึงส่งมาเป็นสาวซิง… Shit!” เขาสบถเสียงต่ำ แต่เสียงหัวเราะจากปลายสายกลับดังขึ้นกว่าเดิม “ฮ่าๆๆ คุณเฟยนี่เก่งจริง ๆ สมราคาที่จ่ายไป สาวซิงแล้วไง ไม่ดีเหรอ?” น้ำเสียงยียวนของคนปลายสาย เขารู้ทันทีเลยว่ามันไม่ใช่ความผิดพลาด ไม่ใช่ความเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่มันคือความ ตั้งใจ ของไอ้เพื่อนเวร! “ไม่ตลก! มึงก็รู้ดีว่ากูมีข้อห้าม...เรื่องนี้!” เสียงเขาแข็งกร้าว เพื่อนทุกคนในกลุ่มต่างรู้ดีถึงกฎเหล็กของเขา กฎที่ไม่เคยถูกละเมิดมาตลอดหลายปี ตั้งแต่เลิกรากับแฟนเก่า เขาไม่คิดจะมีอะไรกับผู้หญิงที่ยังบริสุทธิ์อีก “นั่นเพราะมึงยังยึดติดกับพราวฟ้าน่ะสิ” ปลายสายว่าเสียงเรียบ ก่อนจะพูดต่อแบบไม่สนใจ “เอาน่า สาวซิงก็ไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย แค่นี้นะ กูต้องไปทำงานแล้ว!” ยังไม่ทันที่เขาจะอ้าปากด่าอีกฝ่าย เสียง "ติ๊ด" ก็ดังขึ้นเสียก่อน “เชี่ย…ตัดสายกูเฉย” เขาถือโทรศัพท์แน่น กัดกรามแน่นอย่างคนหัวเสีย ไม่ใช่แค่เรื่องที่เพื่อนแม่งกล้าตัดสายใส่ แต่ที่มันพูดมาก็เล่นแทงใจเขาเข้าเต็ม ๆ กวนตีนจริงๆ ไอ้ห่า ! แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านม่านหน้าต่างมากระทบเปลือกตา อลิสาค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ร่างกายหนักอึ้งราวกับมีหินก้อนโตทับอยู่ ลำคอแห้งผากจนรู้สึกเหมือนกลืนฝุ่นผงเข้าไป ขยับตัวเพียงนิดเดียว ความเจ็บระบมก็แล่นผ่านไปทั่วร่าง “อืม…อูย…” เธอครางเบาๆ พลางหลับตาแน่นกับความระบมปนซ่านที่ยังหลงเหลือจากเมื่อคืน บทรักที่เขามอบให้ช่างหนักหน่วงจนแทบลืมหายใจ เธอกรีดร้องอย่างสุขสมซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางคราเขาก็อ่อนโยนจนเธอล่องลอยขึ้นสวรรค์ บางครั้งกลับโหดร้ายราวกับต้องการลงทัณฑ์ให้เธอจำฝังใจ แค่คิด ภาพเมื่อคืนก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวจนใบหน้าร้อนวาบ “ตื่นแล้วเหรอ ดื่มน้ำก่อนสิ” เสียงทุ้มอบอุ่นดังขึ้นจากข้างเตียง ร่างสูงในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวก้าวเข้ามา ยื่นแก้วน้ำใสมาให้ อลิสารับแก้วมาแนบปาก ก่อนจะดื่มรวดเดียวจนหมด ร่างกายที่แห้งผากเหมือนได้รับชีวิตใหม่ “ขอบคุณค่ะ” เธอพูดเสียงแผ่ว ก่อนยื่นแก้วกลับไปให้เขา “ลุกไหวไหม? อยากเข้าห้องน้ำรึเปล่า” เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ต่างจากเมื่อคืนที่ดุดันและรุนแรง อลิสาหันไปมองเขาแวบหนึ่งด้วยความประหลาดใจ ปกติแล้วคนคนซื้อ ใส่ใจ ของขวัญที่แกะแล้วแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า ดวงตาคมคู่นั้นจ้องมองเธอแน่วแน่ ก่อนที่เธอจะจับได้ว่าสายตาเขาไม่ได้หยุดอยู่ที่ใบหน้า...แต่ต่ำลงไปยังทรวงอกที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ “อุ้ย!” เธอร้องเบาๆ แล้วรีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวอย่างลนลาน ถึงแม้ว่าเขาจะเห็น หรือมากกว่านั้นมาแล้วทุกส่วน แต่เธอก็ยังรู้สึกเขินอยู่ดี “เอ่อ...ไม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ” อลิสากลั้นเสียงเกรงใจ ร่างสูงไม่ได้เร่งรัดอะไร เขาเดินไปหยิบเงินจากลิ้นชักออกมาสองปึก ก่อนจะยื่นมาให้เธอ “นี่ ฉันให้” อลิสามองเงินแบงก์พันเรียงเป็นปึกหนาอยู่ตรงหน้าอย่างสงสัย เธอเพิ่งได้รับค่าขายของขวัญไปแล้วห้าหมื่น ซึ่งก็เพียงพอสำหรับค่าเทอมที่ค้างชำระ ไม่คิดว่าเขาจะจ่ายให้เพิ่มอีก “หนูได้รับค่าจ้างแล้วนะคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ฉันให้พิเศษ เพราะเมื่อคืน...หนูทำให้ฉันประทับใจมาก” อลิสาหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย มือเล็กๆ ยื่นไปรับเงินจากเขาด้วยความเกรงใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดี ยังมีรายจ่ายอีกหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ หากรวมเงินก้อนนี้กับรายได้จากงานเสิร์ฟที่คลับ ก็น่าจะพอให้เธอใช้ชีวิตได้อย่างสบายขึ้นอีกสองสามเดือน “ขอบคุณค่ะ” อลิสาไม่ลืมยกมือไหว้ “หนูอายุเท่าไหร่แล้ว? เกินยี่สิบหรือยัง?” เขาลุกเดินไปนั่งที่เก้าอี้อีกฝั่ง ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดอย่างใจเย็น “หนูยี่สิบสองค่ะ” เธอตอบเสียงเรียบ “เรียนจบหรือยัง?” เขาถามต่อ “อีกสามเดือนค่ะ” อลิสาพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “แล้วทำไม...มาขายของแบบนี้ล่ะ? เอ่อ ฉันหมายถึง...มาทำงานแบบนี้” เขาถามด้วยน้ำเสียงแฝงความกังวลและสงสัย เพราะเธอใกล้จะมีอนาคตที่ดี แต่กลับเลือกทำงานในวงการนี้ ซึ่งเขาไม่ได้ดูถูก เพียงแต่รู้สึกว่าเธอพิเศษกว่าคนอื่น ยังซิง และยังเรียนอยู่ด้วย แบบนี้ดูไม่สิ้นไร้ไม้ต่อที่จะมาเป็นของขวัญ “หนูค้างค่าเทอมค่ะ เขาไม่ยอมออกใบประกาศให้ถ้าไม่จ่ายเงิน” อลิสาตอบตามความจริง แม้มันจะเป็นเพียงเสี้ยวเล็กๆ ของเหตุผลทั้งหมดก็ตาม “อ๋อ...แล้วหนูไม่มีแฟนเหรอ?” คำถามนั้นเหมือนแทงใจดำเข้าเต็มแรง อลิสารู้สึกเหมือนหัวใจสะดุดวูบ หน้าถอดสีไปชั่วขณะ ก่อนจะปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ “เลิกไปแล้วค่ะ” เธอตอบเสียงเรียบ พยายามไม่แสดงความรู้สึก “แล้วนอกจากงานนี้ หนูทำงานอย่างอื่นอยู่หรือเปล่า? ฉันหมายถึง...งานที่ไม่ใช่แบบนี้น่ะ” เขาถามพลางจี้บุหรี่ที่หมดแล้วลงในที่เขี่ย อลิสาเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง...แววตานิ่งสงบแต่จริงจังของเขาทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ ทำไมเขาถึงอยากรู้เรื่องของเธอนักนะ? ปกติแล้ว คนที่ซื้อก็แค่จ่ายแล้วจากไปไม่ใช่หรือ? “ทำค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านั้น เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมา “คือ...จะว่าไงดี ฉันถูกใจหนูมาก” อลิสาตกใจจนเบิกตากว้าง "ถูกใจ" ของเขาหมายถึงอะไรกันแน่? เธอเองยังไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้นักเสียด้วยซ้ำ เมื่อคืน…เป็นเขาเสียอีกที่เป็นฝ่ายเอาใจเธอ “ฉันไม่อยากให้หนูขายให้ใครอีก” เขาหยุดมองตาเธอครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ “อีกแค่สามเดือนก่อนที่หนูจะเรียนจบ...ฉันจะดูแลหนูเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย แต่หนักแน่น “คุณจะ...ผูกปิ่นโตหนูไว้สามเดือนเหรอคะ?” “จะพูดแบบนั้นก็ได้” เขาพยักหน้าเบาๆ “ตลอดสามเดือนนี้ มาอยู่ในความดูแลของฉัน” อลิสามองสบตาเขาอีกครั้ง ดวงตาคมนิ่งและแน่วแน่ไม่มีแววล้อเล่นหรือหยอกเย้าเลย “เอ่อ...คือหนู...ขอคิดดูก่อนได้ไหมคะ” เธอไม่ได้คาดคิดว่าจะต้องรับข้อเสนอแบบนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะขาย หรือจะเป็นเมียของขวัญให้ใครอีก ที่เธอจำใจทำงานนี้ก็เพียงเพราะต้องการเงินไปจ่ายค่าเทอมเท่านั้น เมื่อเรียนจบ เธอจะหางานดีๆ ทำ เลี้ยงตัวเอง และดูแลน้องชาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อเสนอของเขานั้น...น่าสนใจ อย่างน้อย...ในช่วงสามเดือนนี้ เธอจะไม่ต้องเร่งรีบดิ้นรนหาเงิน ไม่ต้องกลับบ้านดึกดื่นจนปล่อยน้องให้อยู่คนเดียว มีที่ให้ซุกหัวนอน มีข้าวให้กิน ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ ไม่ต้องแลกร่างกายกับใครอื่นอีก อย่างน้อย...ถ้าต้อง “ขาย” จริงๆ ก็ขอขายให้เขา คนแรกของเธอ…เพียงคนเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD