และเมื่อการพรีเซนต์ดีลระดับประเทศ ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านก็เริ่มต้นขึ้น...
สองตระกูลยักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ ก็พร้อมแล้วสำหรับการปะทะ
สิรณัฐ ก้าวขึ้นเวทีด้วยท่วงท่ามั่นคงสง่างาม ชุดสูทสีเทาเข้มขับให้บุคลิกเขาดูสงบเยือกเย็นแต่ก็น่าเกรงขาม
เบื้องหลังของเขา คือ สไลด์ที่ให้เห็นเผยภาพโครงการดีไซน์หรูหรา ตึกแนวตั้งที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจี
ทุกภาพ แสดงถึงความทันสมัยที่ถูกวางแผนมาอย่างพิถีพิถัน
“โครงการนี้ คือการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับธรรมชาติ”
น้ำเสียงของเขาดังขึ้น และชัดเจนทุกถ้อยทุกคำ
“ความหรูหราไม่จำเป็นต้องคุกคามโลก... แต่ควรเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมันอย่างกลมกลืน...”
เขาพูดหยุดเล็กน้อย ก่อนจะปรายตามองไปยังอีกฝั่งของเวที ซึ่งวราลีนั่งตัวตรงอยู่
“และเราไม่คิดว่า... แค่สีพาสเทลกับดอกไม้ปลอมบนหลังคา จะสามารถเปลี่ยนคอนกรีตให้กลายเป็นป่าได้ครับ”
เสียงกระซิบกระซาบเบาๆ ดังขึ้นทั่วทั้งห้องประชุมทันที และสายตาของนักลงทุนหลายคู่ก็มองไปที่วราลีเป็นจุดเดียวกัน
แต่ปัญหาแค่นี้ไม่ได้ทำให้วราลีหวั่นไหว หรือเกรงกลัว หล่อนลุกขึ้น ระบายยิ้มหวาน ก่อนจะก้าวขึ้นเวทีด้วยท่าทีสง่างามและมั่นใจ
หล่อนกดรีโมตเปลี่ยนสไลด์ วินาทีเดียวภาพชุมชนแนวคิดใหม่ก็ปรากฏขึ้นบนจอ ซึ่งเน้นพื้นที่ที่มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กันมากกว่าสิ่งอื่นใด
“เรามองต่างออกไปค่ะ”
วราลีระบายยิ้มหวานอย่างภาคภูมิใจงานผลงานของตัวเอง
“ธรรมชาติในเมือง ไม่ได้เริ่มจากต้นไม้... แต่มาจาก ‘คน’ ที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันค่ะ”
ภาพโครงการต้นแบบปรากฏขึ้น พื้นที่สีเขียวล้อมรอบศูนย์ดูแลผู้สูงวัย สนามเด็กเล่น และทางลาดสำหรับผู้พิการ
“เราไม่เชื่อว่า บ้านที่คนอยู่แล้ว ‘เหงา’ จะเรียกว่าที่อยู่อาศัยได้”
วราลีหันไปมองสิรณัฐ แล้วอมยิ้ม
รอยยิ้มนั้นไม่หวาน แต่เต็มไปด้วยจังหวะของการสวนกลับเอาคืน
“เพราะเทคโนโลยีจะช่วยอะไรได้... ถ้าคนที่ออกแบบมัน ยังเย็นชากว่าหุ่นยนต์เสียอีก จริงไหมคะ”
เสียง โอ้โห... เบาๆ ดังขึ้นจากฝั่งนักข่าว
คณะกรรมการบางคนหัวเราะขำ บ้างก็ยกปากกาขึ้นจดอย่างกระตือรือร้น
หลังจากวราลีพรีเซนต์เสร็จแล้ว ผู้ดำเนินรายการก็ก้าวขึ้นมาบนเวที พยักหน้าให้กับคณะกรรมการที่นั่งอยู่แถวหน้า
“ขอบคุณสำหรับการนำเสนอที่ยอดเยี่ยมจากทั้งสองบริษัทครับ แต่ก่อนที่เราจะเข้าสู่ช่วงให้คะแนน... ยังมีอีกหนึ่งผู้ร่วมพรีเซนต์ครับ ซึ่งเป็นแขกรับเชิญพิเศษของวันนี้”
เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วห้องทันที และในวินาทีนั้นประตูก็ถูกดันให้เปิดออกจากด้านนอก
ทีมงานจำนวนสามคนเดินเข้ามา นำโดยชายหนุ่มวัยยี่สิบปลายๆ รูปร่างผอมโปร่ง ท่าทางเคร่งขรึมก้าวขึ้นไปบนเวที
“สวัสดีครับ ผมนฤนาถ มาจากบริษัท Horizon Future ครับ...”
เขาไม่ได้มาพร้อมภาพหรูหรา แต่คำพูดของเขาชัดเจนทุกถ้อยคำ และสามารถนึกภาพตามได้อย่างง่ายดาย
โมเดลโครงการของพวกเขาถูกแสดงผ่านระบบ AR กลางเวที
มันเป็นตึกแนวตั้งที่สร้างด้วยวัสดุรีไซเคิล ใช้พลังงานสะอาด และออกแบบเพื่อทุกกลุ่มคน โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส
“เราไม่ได้สร้างเพื่อคนรวย”
เขาหยุดพูดเล็กน้อย ราวกับต้องการให้ทุกคนคิดตาม
“เราออกแบบเพื่อให้เมืองนี้ เป็นของ ‘ทุกคน’ อย่างแท้จริงครับ”
เมื่อการนำเสนอสิ้นสุดลง ห้องทั้งห้อง เงียบงัน คณะกรรมการหันมองหน้ากัน ก่อนจะเริ่มต้นลงคะแนน
เวลาผ่านไปไม่นานนัก เสียงของผู้ดำเนินรายการดังขึ้นอีกครั้ง อย่างชัดถ้อยชัดคำ
“หลังจากพิจารณาร่วมกันแล้ว... เราขอประกาศว่า...”
ผู้ดำเนินรายการหยุดไปเล็กน้อย ราวกับต้องการให้ลุ้นตามไปด้วยกัน
“ดีลใหญ่มูลค่าสี่พันห้าร้อยหกสิบล้าน ตกเป็นของ Horizon Future ครับ”
วราลี หันขวับไปมอง สิรณัฐ
สิรณัฐ หันกลับมาในจังหวะเดียวกัน
ดวงตาทั้งคู่สบกันกลางอากาศ ไม่มีคำพูด ไม่มีการประชด ไม่มีรอยยิ้ม
มีเพียงความตกใจ...ที่ตีขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“เป็นไปได้ยังไง...”
วราลีพึมพำ ราวกับยังไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ซึ่งสิรณัฐเองก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน
“แพ้... ให้บริษัทหน้าใหม่อย่างนั้นเหรอ บ้าไปแล้ว!”