บทที่ 4 ความสามารถพิเศษหายไป เพราะอะไรกัน

1301 Words
บทที่ 4 ความสามารถพิเศษหายไป เพราะอะไรกัน วันรุ่งขึ้น มิชรินทร์แต่งตัวด้วยผ้าคลุมสีดำ ใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าเอาไว้เช่นเดิม ยังคงครุ่นคิดเรื่องเมื่อวานไม่วาย กระเป๋าที่อยากได้ถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตา ไปดูสาขาอื่นก็ไม่มี ถูกขายจนหมดสต๊อก ทำให้เธอมือเปล่ากลับบ้าน ไม่ได้อะไรกลับมาเลย “เฮ้อ” คนตัวเล็กถอนหายใจออกมา รู้สึกเสียดาย อุตส่าห์เจอกระเป๋าที่ชอบมาก ๆ แล้วแท้ ๆ “พร้อมหรือยังริน…” ผู้เป็นแม่ส่งเสียงถามผ่านที่กั้นบาง ๆ เนื่องจากตอนนี้มีลูกค้ามาต่อแถวรอที่ตำหนักบุพเพมากกว่าเมื่อวานเสียอีก “ค่ะ” เธอส่งเสียงตอบรับผู้เป็นแม่ จากนั้นมิชรินทร์สลัดความคิดทั้งหมดออกจากหัว เพราะการที่เธอจะมองเห็นภาพเนื้อคู่ของลูกค้าได้ต้องใช้สมาธิ สิ้นคำพูดของมิชรินทร์คุณแม่ลดาได้ส่งสัญญาณมือให้แก่ผู้เป็นพ่อเปิดไฟเพื่อส่องแสงให้สว่าง ตึก! ตึก หมอดูน้อยก้าวขาเดินออกไป หย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ประจำตัว พยักหน้าให้ผู้เป็นแม่หนึ่งครั้ง ว่าให้เชิญลูกค้าคนแรกเข้ามายังตำหนัก “คิวที่หนึ่งเชิญ…” ลูกค้าคนแรกเดินมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับหมอดูน้อยและได้ยื่นมือส่งมาให้มิชรินทร์ พร้อมกับยิ้มร่า แววตาฉายแววแห่งความหวังเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม มือเรียวเล็กยื่นออกไปสัมผัสอย่างที่เคยทำ เปลือกตาค่อย ๆ ปิดลง ตั้งสมาธิเพื่อดูเนื้อคู่ของลูกค้า ทว่า…เธอมองไม่เห็น เจ้าของใบหน้างาม จากที่ใบหน้าอมชมพู แปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดเพียงชั่วพริบตา เธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แล้วหลับตาลงอีกหนึ่งรอบ เผื่อมีอะไรผิดพลาด เป็นไปได้ยังไงกันรอบที่สอง… เธอยังคงมองไม่เห็น แม่ลดาสังเกตเห็นใบหน้าของลูกสาวซีดเผือดราวกระดาษ ด้วยความเป็นห่วงจึงกระซิบถามเบา ๆ “เป็นอะไรไปริน” รินส่ายหัวน้อย ๆ “รินมองไม่เห็นแล้วค่ะ แม่” คนตัวเล็กกระซิบตอบ แม่ลดาที่ได้ฟังแทบลมจับ เป็นไปได้อย่างไรกัน อยู่ดี ๆ ความสามารถจะหายไปได้ยังไง “งั้นเดี๋ยวลองดูคนต่อไปนะลูก เผื่อคนนี้ไม่มีเนื้อคู่” หมอดูน้อยพยักหน้า เพราะบางคนก็ไม่มีเนื้อคู่ บางคนเกิดมาเพื่ออยู่คนเดียวแล้วตายไป บางคนมีเนื้อคู่อาจจะไม่ดี ต้องทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง บางคนอาจถึงขั้นทำร้ายร่างกาย สิ่งนั้นคือคู่เวรคู่กรรม ส่วนคู่บุพเพคู่ดี จะเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ช่วยกันทำมาหากิน ครอบครัวสงบสุข ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งมิชรินทร์ได้เรียกลูกค้าเข้ามาดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนแล้วคนเล่า ทว่า เธอมองไม่เห็นอะไรเลย จนกระทั่งตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วความสามารถของเธอหายไป…. ตอนนี้ตำหนักบุพเพมีแต่ความวุ่นวาย เนื่องจากลูกค้าต่างโวยวายรอนานจนเกินไปกำหนดการที่ว่าไว้ ให้เข้าพบหมอดูน้อยไม่เกินครึ่งชั่วโมง จนผ่านไป 1 ชั่วโมงก็ไม่ได้พบ ทุกคนต่างมีธุระ เวลาย่อมมีค่า แต่มาเบี้ยวเช่นนี้ จึงทำให้หลายคนต่างไม่พอใจ ผู้เป็นแม่เห็นท่าไม่ดีจึงผลักให้มิชรินทร์หลบเข้าไปอยู่ด้านใน “เข้าไปก่อนตรงนี้แม่จัดการเอง” แม่ลดาอดีตเคยเป็นผู้จัดการร้านอาหารชื่อดัง ต่างมีวิธีการรับมือและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี คนตัวเล็กแอบมองผู้เป็นแม่อย่างเป็นกังวลใจ ชะเง้อชะแง้มองผู้เป็นแม่เป็นระยะ ๆ จนตอนนี้ก้นนั่งแทบไม่ติดพื้น แถมเดินวนไปวนมาราวกับหนูติดจั่น ผ่านไป 1 ชั่วโมง แม่ลดาได้เดินเข้ามาด้านในด้วยใบหน้าที่อิดโรย มิชรินทร์เดิมทีเป็นห่วงคุณแม่อยู่แล้ว เห็นใบหน้าของท่านเป็นแบบนี้อีก ในใจกลับพะวงยิ่งกว่าเดิม “เป็นอย่างไรบ้างคะ” เสียงหวานของมิชรินทร์ถามแม่ด้วยความเป็นห่วง ผู้เป็นแม่มีสีหน้าเคร่งเครียดยังไม่พูดอะไรออกมาในทันที จากนั้นจึงเดินไปนั่งโซฟา พยายามข่มอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติ การรับมือกับลูกค้าระดับสูงไม่ง่ายเลย แม้พวกเขาจะรวย แต่ยังคงยโส ทะนงตนไม่น้อย “ริน ลูกมองไม่เห็นเนื้อคู่ของคนอื่นแล้วใช่ไหม” “ค่ะ…” หมอดูน้อยตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “…..” “รินขอโทษนะคะ” ใบหน้างามก้มหน้า ดวงตากลมโตหุบต่ำลง ทั้งหมดนี้คงจะเป็นเพราะเธอ “หือ? จะขอโทษทำไมลูก รินไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” “แล้วเราจะทำยังไงต่อไปคะ” สาวน้อยหน้าใสสอบถามผู้เป็นแม่ด้วยความอยากรู้เพราะตอนนี้ร่างบางเองก็คิดอะไรไม่ออก “ทำตามสัญญาไงคะ” “สัญญา?” “คืนเงินกับลูกค้าทั้งหมดไป แล้วปิดบริษัท ตอนนี้เงินเก็บอยู่ในบัญชีเยอะพอที่จะนำไปลงทุนอย่างอื่นได้แล้วใช่ไหมคะ คุณ….” แม่ลดาชี้แจง จากนั้นหันไปถามพ่อของมิชรินทร์ที่นั่งหน้าเครียดอยู่ “เอ่อ…คือ…” “คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ” “ผม…” ผู้เป็นพ่อชะงักเพียงชั่วครู่ ก็ค้นกระเป๋า ควานหาสมุดบัญชีออกมา แล้วส่งให้ ภรรยาของตนดู แม่ลดารับสมุดบัญชีธนาคารจากผู้เป็นสามี จากนั้นเปิดสมุดบัญชีเพื่อดูยอดเงิน ทว่ายอดเงินที่เก็บสะสมมาตลอด 20 ปีนั้นกลับว่างเปล่า เหลือแค่ยอดเงินที่เหลือเพียงไม่กี่บาท “เป็นไปได้ยังไงคะ คุณอธิบายมาเดี๋ยวนี้” “ผม…เอาเงินไปเล่นการพนัน และให้เพื่อนไปลงทุน แต่โดนโกงทั้งหมด…” ผู้เป็นพ่อสารภาพความจริงออกมา ทำให้แม่ลดาแทบเป็นลม หายใจไม่ทั่วท้องจึงได้แต่สูดเอาอากาศเข้าทางปาก เอื้อมมือมาทาบอกเบา ๆ สายตาแห่งความผิดหวังฉายออกมาอย่างชัดเจน ไหนล่ะ ตอนแต่งงานจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนัน “เราสัญญากันไว้แล้วนี่ ตอนแต่งงานกันวันแรก คุณจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนัน ทำไมวันนี้ถึงได้ผิดสัญญาล่ะ ฉันเองพร่ำบอกคุณอยู่ตลอดว่าการพนันไม่เคยทำให้ใครมั่งมีได้ มีแต่จะขูดเลือดขูดเนื้อของเราต่อไปเรื่อยๆ…หลังจากนี้จะทำยังไงต่อไป เงินตอนนี้ไม่พอที่จะคืน ด้วยซ้ำ….” มิชรินทร์มองใบหน้าฉายแววถึงความผิดหวังของแม่ลดา เธอไม่อยากเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันเพราะเรื่องเงิน ถึงแม้พ่อกับแม่จะไม่ทำร้ายร่างกายกัน จะไม่มีการด่าด้วยคำหยาบ แต่หากทะเลาะกันเมื่อใด ที่บ้านเหมือนกับสงครามเย็น คนตัวเล็กไม่อยากเห็นภาพแบบนั้น เธอยังอยากใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุขอยู่ โดยที่ไม่มีเรื่องปัจจัยภายนอกมาทำให้บาดหมาง เงินไม่มีหาใหม่ได้ ส่วนความสัมพันธ์หากแตกหักไปแล้ว มันเอาคืนไม่ได้ “หากเงินไม่พอ เอากระเป๋าไปขายค่ะ จากนั้นคืนเงินให้ลูกค้าทั้งหมด พ่อกับแม่อย่าทะเลาะกันนะคะ”เสียงหวานเอ่ย ชี้แนะแนวทางของตนที่พอจะคิดออกมาได้ “นั่น มันกระเป๋าของลูก…” “เดี๋ยวหาใหม่ได้ค่ะ หลังจากนี้รินคงไปหางานอย่างอื่นทำ รินไม่อยากให้พ่อกับแม่ทะเลาะกันเพราะเรื่องเงินค่ะ” “ริน….” แม่ลดาเรียกมิชรินทร์ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา จากนั้นจูงมือสามีไปพูดเรื่องการพนันให้เด็ดขาด หวังว่าผู้เป็นสามีจะเลิกเล่นการพนัน และให้เพื่อนยืมเงินไปลงทุนจนหมดเนื้อหมดตัวอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD