ครอบครัวของเพชรพิรุณ มีอาชีพขายน้ำเต้าหู้ ซึ่งทำในบ้านและเข็นรถออกไปตั้งขายในตลาดยามเช้าและช่วงเย็นของทุกวัน
เนื่องด้วยเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงและคนซื้อมีกำลังจับจ่ายใช้สอยน้อยลง ทำให้สองสามีภรรยาต้องกู้หนี้ยืมสินเงินนอกระบบ มาใช้จ่ายหมุนเวียนซื้อของมาขาย ขณะที่พ่อกับแม่ของเพชรพิรุณ เข็นรถเข็นกำลังจะนำเข้าไปจอดในบ้าน
ทันใดนั้นเอง คนเก็บเงินกู้ขับรถมาจอดหน้าบ้าน
“เมื่อไหร่จะจ่ายเงินพวกฉัน นี่ก็ผ่อนผันมาหลายวันแล้วนะโว้ย”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ตัวโตสองคน ขี่รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่พร้อมหมวกกันน็อกเต็มใบ จอดรถหน้าบ้านและเดินลงไปหาสองสามีภรรยา
“คุณคะช่วงนี้ขายของไม่ค่อยดี พวกฉันขอผัดไปก่อนได้ไหมคะ” เสียงแม่สายทิพย์บอกคนเก็บเงินกู้
“ไม่รู้หรอกมีไม่มี วันนี้พวกฉันต้องมีเงินไปส่งนาย” หนึ่งในคนเก็บเงินกู้บอก
“ก็มันไม่มี จะเอายังไงวะ” พ่ออรุณที่ทนฟังมานานถึงกับตะโกนบอกอย่างเหลืออด
“ได้ ไม่จ่ายใช่ไหม”
เพล้ง… ข้าวของอุปกรณ์ทำมาหากิน ถูกกลุ่มคนเก็บเงินกู้ ทำลายเสียหายแตกกระจายเกลื่อนพื้น
พ่ออรุณรีบเข้าห้าม จึงถูกคนเก็บเงินกู้ทำร้ายจนสะบักสะบอม หัวร้างข้างแตก คิ้วแตกปากแตก จากนั้นพวกเงินกู้ได้ชี้หน้า
“ฉันให้เวลาหนึ่งอาทิตย์หาเงินมาคืน ไม่งั้นจะเจ็บหนักกว่านี้ อย่าหาว่าพวกฉันไม่เตือนไม่บอก” ก่อนพากันขึ้นรถและขับออกไป
เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงต่างพากันมามุงดู จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงพวกเงินกู้ ก่อนจะเข้ามาช่วยเหลือและเก็บข้าวของที่แตกกระจายเกลื่อนถนน
แม่สายทิพย์รีบพาพ่ออรุณไปโรงพยาบาล และได้โทรศัพท์บอกลูกสาว แต่เธอไม่รับสาย
มหาวิทยาลัย เวลาสี่โมงเย็น รุ่นพี่ปีสี่ได้มีการบอกให้นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์มารวมตัวกันในห้องประชุม ที่พื้นที่กว้างและโล่ง วันนี้มีงานให้รุ่นน้องออกแบบในความเข้าใจของคนที่เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์โยธา โดยให้จับคู่
“ดีจังมีคู่” นุ่นมองเพชรตาปริบ ๆ
“อื้อ” หญิงสาวพยักหน้า
เพชรพิรุณนั่งอยู่สุดท้ายของแถวต่อจากนุ่น เธอไม่อยากเห็นหน้ารุ่นพี่ที่หลอกเธอ หญิงสาวพยายามหลบหน้ารุ่นพี่ว้ากตัวต้นเหตุ แต่ทว่ายิ่งหลบยิ่งอยากเจอ ยิ่งหนียิ่งอยากได้
“น้องคนสุดท้ายแถวห้า ยืนขึ้น” เสียงเข้มกัมปนาทน่าเกรงขามดังก้อง ทุกคนต่างนั่งเงียบไม่มีว่อกแว่กหันมองหรือส่งเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น
เพชรพิรุณรีบลุกขึ้นยืนทันที เมื่อเธอหันมองเพื่อน ๆ และนับแถว
“ผมเรียกไม่ได้ยินหรือไม่มีหูครับ” ก่อนฝีเท้าหนัก ๆ จะมาหยุดที่หน้าหญิงสาว
“ได้ยินค่ะ”
“นั่งทับอะไรอยู่ ถึงได้ชักช้าเป็นเต่า อย่างนี้จะทำงานทันเขาไหม”
“ไม่ได้นั่งทับอะไรค่ะ”
“แนะนำตัวให้เพื่อน ๆ รู้จักเดี๋ยวนี้”
“ค่ะ ดิฉันชื่อนางสาวเพชรพิรุณ เลิศโกสุม ค่ะ”
ระหว่างที่ตอบแนะนำตัวเสร็จ เธอหันไปจ้องหน้าชายหนุ่ม ซึ่งเขาเองก็จ้องมองเธอเช่นกัน เพราะบุคลิกน่ากลัวน่าเกรงขาม ทำให้เธอต้องหลบและก้มหน้าทันที
เขาให้เธอยืนราว ๆ สิบนาที เหมือนจงใจกลั่นแกล้ง ทั้งที่เห็นว่าเธอมีแผลตามแขนขาและฝ่ามือ
หญิงสาวปวดแผลแต่ก็อดทน เธอไม่อยากมีปัญหากับเขา อีกอย่างเขาคงไม่ชอบขี้หน้าเธอ ตั้งแต่เรื่องเมื่อคืน
เมื่อครบกำหนดเขาจึงสั่งให้เธอนั่งลงได้ ส่วนรุ่นพี่คนอื่น ๆ ไม่ได้โหดขนาดศรทิน ยังมีคอยให้กำลังใจรุ่นน้องอยู่บ้าง แต่ก็ไม่หลุดฟอร์มมาดขรึม พวกรุ่นพี่ให้แต่ละคู่ส่งตัวแทนไปเอาของในห้อง และกลับมาลงมือทำตรงนี้ เขาให้เวลาสิบนาที
นุ่นอาสาไปเอาของนั้นเอง หากปล่อยให้เพชรพิรุณไปคงกลับมาไม่ทัน ขณะที่นั่งรอเพื่อน เพชรพิรุณนั่งก้มหน้า ไม่มองใครทั้งนั้น
แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างที่คอยจับจ้องเธอตลอดเวลา จึงเผลอทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง แต่แล้วต้องก้มหน้าลงอย่างไว ศรทินเอาแต่จ้องมองหญิงสาวไม่ละสายตา
“มองอะไรวะเทน” ตุลเดินมาสมทบ
“ไม่มีอะไร” เขาตอบพร้อมหันหน้าไปทางห้องเก็บของ
“อย่าดุให้มันมาก น้องเขากลัว” ตุลเห็นรุ่นน้องไม่มีใครกล้าส่งเสียง
“มึงก็อย่าให้ท้ายให้มากละ” ศรทินเตือนตุล
“อื้อ กูไม่เหมือนมึง ว่าแต่น้องคนนั้นคงกลัวมึงมาก ถึงไม่ยอมเงยหน้า” ตุลอมยิ้ม
เมื่อเพื่อน ๆ ได้อุปกรณ์มาครบ รุ่นพี่จึงปล่อยให้น้องได้ลงมือทำงานที่สั่ง และให้ส่งก่อนหกโมงครึ่งวันนี้ ทุกคนจึงเร่งมืออย่างไว เพชรพิรุณวางร่างรูปแบบบ้าน ที่เป็นความฝันคร่าว ๆ ก่อนจะให้นุ่นวาดทับเส้นให้เข้มขึ้น การทำงานตามสั่งและต้องแข่งกับเวลาเพียงน้อยนิด ทุกคนต้องช่วยกันทุกอย่าง
ศรทินเดินดูรุ่นน้องแต่ละคู่ จนมาถึงคู่ของเพชรพิรุณ เขามองการออกแบบของหญิงสาว มันชั่งสวยงามและกลมกลืนกับโครงเส้นและแสงเงาที่ลง
เขายืนมองนานจนหญิงสาวยกมือขึ้นยืดเส้นยืดสาย แต่มีอันต้องหดแขนกลับ เมื่อสายตาปะทะกับสายตาคมเข้ม เธอจึงก้มหน้าทำงานเช่นเดิม
“จะมายืนจับผิดอะไรหนักหนา” เสียงน้อย ๆ งึมงำต่อว่าชายหนุ่ม
“ใครเหรอเพชร” นุ่นเห็นเพียงกางเกงขายาวเท่านั้น ทั้งสองกระซิบกระซาบเบา ๆ
“รุ่นพี่หน้าดุปากเสียน่ะสิ” ก่อนจะหยุดพูด กลัวโดนเรียกชื่ออีก
ใช่ว่า... ศรทินจะไม่รู้ ว่าตัวเขาถูกสองสาวพูดถึง แต่เพราะเขาไม่อยากใส่ใจอะไรมาก จนกระทั่งบางคู่ทำงานเสร็จก็เอาไปวางที่โต๊ะต่อหน้ารุ่นพี่ และกลับไปนั่งเป็นแถวเหมือนเดิม
ทุกคู่ส่งงานกันจนครบ รุ่นพี่ถึงให้แยกย้ายกันกลับบ้านได้
ด้านแม่สายทิพย์กดมือถือหาลูกสาวอีกครั้ง
ครืด ครืด…
“เพชร ลูกพ่อถูกพวกเงินกู้นอกระบบทำร้ายร่างกาย”
(“อะไรนะแม่”) เพชรพิรุณที่พึ่งซ้อมรับน้องใหม่พอดี
“พ่อถูกทำร้าย ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล” แม่สายทิพย์พูดอย่างเหนื่อยหน่าย
(“อยู่โรงพยาบาล พ่อเจ็บหนักเหรอแม่”)
“ก็มากอยู่ลูก”
(“หนูกำลังเลิก แม่รอหนูที่โรงพยาบาลนะคะ”) เพชรพิรุณถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนหลับตาลงช้า ๆ และค่อยลืมตา รีบเดินออกไปที่ป้ายรถเมล์ โดยไม่ได้ร่ำลานุ่น