เมื่ออธิบายทุกอย่างให้ชายหนุ่มฟังแล้วเขาก็เดินออกไปจากห้องฉุกเฉิน
ปราญติญารู้สึกใจเต้นแรงมากๆ ที่อยู่ใกล้กับผู้ชายคนนี้น้ำเสียงและใบหน้าของเขามันค่อนข้างคุ้นตา เธอคิดว่าเขาน่าจะใช่ผู้ชายที่ตนเองนอนด้วยเมื่อคืนก่อนแต่ก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่
เมื่อหญิงสาวมาเปิดดูประวัติของเขาในคอมพิวเตอร์แล้วมันไม่ใช่ชื่อหรือนามสกุลของเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอเลย ที่หญิงสาวรู้ก็เพราะตอนนี้เพื่อนในกลุ่มส่งใบรายชื่อที่เคยถ่ายเก็บไว้ตั้งแต่สมัยมัธยมศึกษาปีที่หกเข้ามาในไลน์กลุ่มซึ่งในนั้นมันไม่มีชื่อของผู้ชายคนเมื่อกี้อยู่ด้วย บางทีเขาก็แค่คนหน้าคล้ายก็ได้
“ป่านเป็นอะไรหรือเปล่า” หัวหน้าพยาบาลถามเมื่อเห็นหญิงยืนมองไปนอกห้องฉุกเฉินอยู่นาน
“เปล่าค่ะพี่บี”
“ดูท่าทางเหมือนป่านไม่สบายนะมานั่งพักก่อนไหม”
“ป่านก็แค่มึนนิดหน่อยค่ะพี่บี พอดีผู้ชายคนเมื่อกี้ใส่น้ำหอมกลิ่นแรงไปหน่อย” หญิงสาวแก้ตัวก่อนจะกลับมานั่งที่หน้าเคาน์เตอร์และทำงานของตัวเองต่อ
เวรบ่ายวันนี้ผู้ป่วยมาใช้บริการไม่มากเท่าไหร่ทำให้เธอมีเวลาเข้าไปอ่านไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยชั้นมัธยมปลายซึ่งตอนนี้เพื่อนๆ คุยกันถึงงานเลี้ยงที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ข้างหน้า ทุกคนตื่นเต้นที่จะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งหลังจากแยกย้ายกันไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยและจบมาทำงานเกือบสองปีแล้ว
โรงเรียนที่เธอเรียนอยู่เป็นโรงเรียนเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐมซึ่งพอเรียนจบทุกคนก็แยกย้ายหญิงสาวเข้ามาเรียนพยาบาลในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพหลังจากเรียนจบก็เข้าทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้กับเพื่อนสนิทที่ชื่อพรชนก
ปราญติญามีครอบครัวอยู่ที่นครปฐมซึ่งเธอเป็นลูกสาวคนกลางพี่คนโตของเธอรับราชการครูและสอนอยู่ที่โรงเรียนใกล้บ้าน ส่วนน้องสาวของเธอตอนนี้ก็กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
มารดาของเธอเป็นครูสอนอยู่โรงเรียนเดียวกับพี่ชายและอีกไม่กี่ปีท่านก็จะเกษียณส่วนบิดามีอาชีพทำสวนผลไม้ซึ่งพี่ชายของเธอก็ช่วยท่านดูแลสวนผลไม้ด้วย
หญิงสาวออกมาอยู่หอพักตั้งแต่เรียนชั้นปีที่หนึ่งจากนั้นก็ไม่คิดจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเพราะกลัวว่าบิดาจะจับให้เธอแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนสนิทซึ่งเธอไม่ได้คิดอะไรกับผู้ชายคนนั้นเลยสักนิด
เมื่อนึกย้อนไปถึงตอนที่เรียนชั้นมัธยมปราญติญาก็รู้สึกสงสารตัวเองมากๆ ตอนนั้นเธอเป็นเด็กสาวที่ค่อนข้างอ้วนใบหน้ามีแต่สิวฟันก็เหยิน จนเพื่อนบางคนก็เรียกว่ายัยเหยินบางคนก็เรียกว่ายัยอ้วนตอนนั้นหญิงสาวรู้สึกเจ็บใจมากและคิดว่าสักวันหนึ่งสายตาที่เพื่อนผู้ชายใช้มองเธอมันจะเปลี่ยนไป
เมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งปราญติญาเริ่มดูแลตัวเองมากขึ้น เริ่มควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กันจนถึงตอนนี้หญิงสาวก็เป็นผู้หญิงที่หุ่นดีคนหนึ่ง ฟันที่เหยินก็ถูกจัดเข้าที่ใบหน้าที่มีแต่สิวตอนนี้ก็เรียบเนียนดูต่างจากอดีตจนเห็นได้ชัด
เธอคิดว่าการไปงานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้อาจจะเป็นการปลดล็อกปมในใจของเธอ
หญิงสาวอยากให้เพื่อนทุกคนเห็นว่าตัวจริงของเธอเป็นยังไงเพราะปราญติญาเคยเอารูปของตัวเองลงในโซเชียลแต่เพื่อนบางคนก็คิดว่าเธอใช้แอปพลิเคชันเพื่อการตกแต่งรูปการไปกับเพื่อนในครั้งนี้ปราญติญาจะได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอไม่ได้ใช้แอปพลิเคชันอะไรทั้งนั้นรูปทุกรูปที่ลงในโซเชียลเป็นรูปจริง
ปราญติญาออกจากความคิดของตัวเองเมื่อมีผู้ป่วยเข้ามารับบริการที่แผนกฉุกเฉินหญิงสาววุ่นวายกับการดูแลผู้ป่วยจนกระทั่งถึงเวลาลงเวรก็เดินมายังรถของตัวเองเธอต้องชะงักฝีเท้าไม่เห็นว่าตอนนี้มีใครบางคนยืนอยู่ที่รถของเธอ
หญิงสาวกำลังจะเดินหนีแต่ชายคนนั้นก็หันกลับมาเสียก่อน
“เดี๋ยวสิป่านเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”
“แต่ฉันไม่มีเรื่องจะคุยกับคุณค่ะคุณกอล์ฟ”
“ก็เรื่องคืนนั้น”
“คืนที่คุณแอบเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่ในเครื่องดื่มของฉันใช่ไหมล่ะ”
“ป่านครับผมว่าคุณเข้าใจผิดแล้วนะ ผมไม่ใช่คนทำแบบนั้นเลย คนที่ทำคือเพื่อนของผม”
“แล้วทำไมคุณไม่ห้ามเขาล่ะคะหรือเพราะคุณก็เห็นดีเห็นงามกับเขาด้วย”
หญิงสาวมองหน้าผู้ชายที่เธอเคยเรียกว่าเป็นแฟนด้วยความผิดหวังเขาและเธอรู้จักกันในแอปหาคู่แอปหนึ่งจากนั้นก็คบหากันได้ประมาณสามเดือน
ทั้งสองคบกันเหมือนคู่รักปกติทั่วไปวันหยุดก็ออกไปเดินเที่ยวไปทานข้าวไปดูหนังด้วยกัน เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอคบหลังจากอกหักจากคนรักเก่ามาหนึ่งปีก่อน
ในคืนที่เกิดเรื่องเขาชวนเธอไปฉลองวันเกิดของเขาที่ผับแห่งหนึ่งหญิงสาวตอบตกลงเพราะคิดว่าเป็นวันเกิดกับเขาทั้งที่ตัวเองไม่ชอบไปเที่ยวสถานบันเทิงแบบนั้นเลย
แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะแอบเอายาปลุกเซ็กซ์ในเครื่องดื่มและพยายามจะพาเธอออกไปทางหน้าร้านหญิงสาวจึงขอเขาไปเข้าห้องน้ำจากนั้นก็แอบออกมาทางประตูหลังจนได้เจอกับผู้ชายคนนั้นจนเผลอไปมีอะไรกันหลังจากนั้นเขาก็ไม่ติดต่อเธอมาอีก
“ผมห้ามแล้วแต่พวกมันก็ยังทำ”
“ฉันไม่เชื่อคุณหรอกค่ะ เราสองคนไม่เหมาะสมกันเลยเลิกกันน่าจะดีกว่า”
“เราจะเลิกกันไปเพราะเรื่องแบบนั้นเหรอป่าน”
“คุณคิดว่าเรื่องแค่นั้นเหรอคะ สิ่งที่คุณทำมันเลวมากนะ”
“ผมรู้ว่าผมผิดผมก็มาขอโทษป่านแล้วไง แล้วคุณล่ะไม่คิดจะขอโทษผมบ้างเหรอ”
“ทำไมฉันจะต้องขอโทษคุณด้วยล่ะ”
“ก็คุณออกไปกับผู้ชายคนอื่น”
“ถึงเขาจะเป็นคนอื่นแต่ก็ยังดีกว่าออกไปกับคุณ” ปราญติญายอมนอนกับคนที่ไม่รู้จักคนนั้นยังจะดีกว่าผู้ชายที่กำลังยืนคุยกับเธอตรงหน้า
“แล้วเป็นยังไงล่ะมันช่วยให้คุณหายจากฤทธิ์ยาไหมมันถึงใจคุณหรือเปล่าล่ะหรือติดใจมันจนลืมไปแล้วว่าคุณน่ะมีแฟนแล้ว”
“อย่ามาพูดจาดูถูกกันแบบนี้นะ”
“ก็มันจริงไหมล่ะผู้หญิงที่โดนยาแล้วหายไปกับผู้ชายคนอื่น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะพาคุณไปส่งที่หอโดยไม่เกิดอะไรขึ้นในเมื่อคุณก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แล้วทำไมไม่ลองให้โอกาสผมบ้างล่ะ”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความว่านอนกับผมไงแค่นี้ไม่เห็นจะยาก”
“ไม่มีทาง ฉันขอสั่งนะว่าจากนี้ไม่ต้องมาหาฉันที่นี่และไม่ต้องติดต่อฉันมาอีกเราสองคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว” ปราญติญาไม่คิดว่าจะคบหากับผู้ชายคนนี้ต่อเพราะหลังจากคืนนั้นเธอก็บล็อกเบอร์โทรศัพท์ของเขาไปแล้ว
“แน่เหรอป่านผมว่าผู้หญิงที่มีอะไรกับผู้ชายไปแล้วยังมีความรู้สึกแบบนั้นอยู่และผมจะเติมเต็มให้ตกลงไหมล่ะ”
พูดจบเขาก็คว้าเธอมาจูบหญิงสาวพยายามผลักไสเธอรู้สึกรังเกียจขยะแขยงกับริมฝีปากหนาที่จูบลงมาเมื่อเขาใช้ปลายลิ้นสอดมาในโพรงปากเล็กหญิงสาวก็กัดลิ้นของเขาไปอย่างแรง
“โอ๊ย...บ้าอะไรเนี่ย กัดมาได้ยังไง”
“ก็กัดให้คุณมีสติไงล่ะอย่ายุ่งกับฉันอีก” หญิงสาวรีบเข้าไปในรถก่อนจะขับออกมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อมาถึงหอก็ร้องไห้อยู่หลังพวงมาลัยอีกพักใหญ่ก่อนจะขึ้นไปยังห้องพักของตนเอง