หมับ!
“อ๊ะ!?”
หญิงสาวหลุดร้องเสียงหลงออกมาอย่างตกใจ เมื่อทันทีที่ชายหนุ่มเดินมาถึง เขาได้เอื้อมฝ่ามือหนาเข้ามาคว้าท่อนแขนเรียวเล็กและกระชากร่างเธอให้ลุกออกจากหน้าตักชายมีอายุคนดังกล่าวโดยไม่ทันตั้งตัว ก่อนดันตัวเธอให้มาหลบด้านหลังร่างเขาราวกับเป็นเกราะกำบังความปลอดภัย
“เฮ้ยย! ไอ้หน้าอ่อน มึงเป็นใครวะ ยัยเด็กนั่นคนของกูนะ…”
ผลั๊ว!!
“โอ๊ย!!”
ยังไม่ทันให้ชายมีอายุวางอำนาจบาตรใหญ่พูดจาโวยวายไม่พอใจจบประโยค หมัดหนักๆ ของชายหนุ่มก็ได้พุ่งใส่เข้าไปที่ใบหน้าอีกฝ่ายเต็มแรงทันที จนร่างท้วมเสียหลักเซล้มลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นอย่างหมดสภาพในเวลาต่อมา ท่ามกลางสายตาของคนหมู่มากภายในบาร์ที่ยืนมองดูเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
แต่เพียงแค่หมัดเดียวสำหรับชายหนุ่มอย่างองศามันจะไปสาแก่ใจได้ยังไง
เขายกหมัดหนักขึ้นและกระแทกเข้าไปที่เบ้าหน้าอีกฝ่ายอีกครั้งโดยไม่ยั้งแรง ราวกับว่าคลื่นอารมณ์โกรธภายในใจกำลังปะทุดุเดือดและต้องการหาที่รองรับระบายมันออกมาให้หมด จนเลือดสีแดงสดไหลออกมาสาดกระเซ็นไปทั่วใบหน้าปูดบวมของอีกฝ่าย
ผลั๊ว! ตุบตับ! ตุบตับ!
“อ๊ากก!!”
“กรี๊ดด!”
ท่ามกลางสายตาของผู้คนภายในบาร์ซึ่งต่างพากันเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก บ้างก็ส่งเสียงกรีดร้องอย่างหวาดเสียวกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า
ผลั๊ว!
“อ๊ากก!! กลัวแล้ว ผมยอมแล้วอย่าทำผมเลย!”
ร่างที่อาบท่วมไปด้วยเลือดยกมือพนมไหว้ขอร้องอ้อนวอนจนตัวสั่น หวาดกลัวชายหนุ่มตรงหน้าที่แทบจะเอาชีวิตเขาแล้วตอนนี้
แต่คงจะมีเพียงหญิงสาวซึ่งยังคงยืนตรึงอยู่กับที่ กลับรู้สึกดีและสบายใจขึ้นมาไม่น้อยเมื่อเห็นว่ามีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเธอเอาไว้ ถึงแม้อาจจะทำเรื่องให้ดูวุ่นวายมากกว่าเดิม
ทว่าในขณะเดียวกันนั้น หลังจากดวงตาคู่งามได้สบมองแผ่นหลังกว้างของชายร่างสูงที่เข้ามาช่วยเธอไว้เห็นเพียงแค่ด้านหลังแล้ว ยิ่งมองเท่าไหร่ทำไมเธอถึงได้รู้สึกเกิดความคุ้นเคยอยู่ภายในใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าเขาคนนั้นเป็นคนที่คุ้นเคยกันมาเนิ่นนานแล้วแม้จะยังไม่ทันได้เห็นใบหน้าเขาแบบชัดเจนก็ตาม
หรือเธออาจจะคิดมากไปเอง…
เพียงชั่วครู่ ยังไม่ทันให้ชายหนุ่มได้ระเบิดอารมณ์ด้วยหมัดหนักๆ อย่างหนำใจชายมีอายุกลับชิงเป็นลมหมดสติคาที่ไปเสียก่อน
ร่างสูงยืนหายใจเหนื่อยหอบเล็กน้อยเมื่อเผลอควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ไปชั่วครู่ ก่อนจะสูดหายใจเข้าออกให้ช้าลง พยายามระงับคลื่นโทสะจนใบหน้าหล่อเหลากลับมาดูเย็นชาดังเดิม จากนั้นเขาก็หมุนตัวหันหลังเตรียมจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเองโดยไม่พูดอะไรสักคำและไม่แม้แต่จะแยแสหรือสนใจสายตาของคนรอบข้างทั้งนั้น
ตึก ตึก…
ทว่าระหว่างที่เขากำลังเดินผ่านหน้าร่างคนตัวเล็กที่ได้เข้ามาช่วยไว้ จู่ๆ ฝ่าเท้าใหญ่ก็พลันชะงักหยุดเดินกะทันหัน เมื่อเขาบังเอิญได้กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย
ถึงจะนานมากแล้วแต่กลิ่นน้ำหอมนี้เขากลับไม่เคยลืมเลือนไปจากใจเลย ยิ่งได้กลิ่นก็ยิ่งคุ้นเคย ดึงความสนใจให้ชายหนุ่มอดไม่ได้เลยจะไม่ปรายสายตาไปมองใบหน้าคนตัวเล็กข้างกาย
ทันทีที่ดวงตาของทั้งสองสบมองกันตรงๆ เป็นครั้งแรกถึงแม้ว่าจะอยู่ภายใต้แสงนีออนหลากสี แต่เพียงแค่ได้เห็นเค้าโครงใบหน้าของกันและกันแล้ว หัวใจสองดวงถึงกับสะดุดราวกับว่าจะหยุดเต้นไปในวินาทีนั้น
“อึก!”
“อึก!”
โลกทั้งใบของชายหนุ่มในเวลานี้เหมือนจะหยุดหมุนไปพร้อมกับผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นชั่วขณะ เมื่อพบว่าผู้หญิงคนที่เขาได้บังเอิญมาช่วยไว้และยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้นั้นจะเป็นเธอ…หญิงสาวคนรักในอดีตที่เขาพยายามตามหาและคิดถึงแทบจะขาดใจมาตลอดหลายปีกลับปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าอย่างไม่คาดฝัน
นี่มันเรื่องจริงใช่ไหมหรือว่าเขาคิดถึงเธอมากไป จนเห็นภาพหลอนไปเองกันแน่...
แม้แต่คนตัวเล็กเองก็เช่นกัน เพียงแวบแรกที่เห็นดวงตาดำสนิทลึกล้ำที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีคู่นั้น ใจเธอก็กระตุกวูบอย่างแรง จิตใจซึ่งสงบมาตั้งแต่ไหนแต่ไรบังเกิดความกระวนกระวายขึ้นมาโดยพลัน เธอตัวแข็งทื่อ เบิกตาโพลงมองร่างสูงด้วยความไม่เชื่อว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าในตอนนี้คืออดีตคนรักเก่า
และเขาก็เป็นรักแรกที่เธอเคยรักมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต...
มันบังเอิญเกินไปหรือเปล่า ขะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง…
ท่ามกลางแสงไฟนีออนหลากสีในบาร์ ดวงตาของทั้งคู่จับจ้องมองกันและกันโดยไม่แม้กะพริบตา ชายหนุ่มยังคงอยู่กับความสับสนคิดว่าเขาคงจะดื่มหนักเกินไปแน่ๆ จนสายตาเลอะเลือนบวกกับความคิดถึงซึ่งเปี่ยมล้นอยู่ในใจเห็นผู้หญิงคนไหนก็คิดว่าเป็นเธอไปหมด
“กอหญ้า…” ริมฝีปากหยักได้รูปเผลอเรียกชื่อหญิงสาวออกมาอย่างคนล่องลอย กลัวว่าเธอจะเป็นแค่ภาพในฝันไม่ใช่ความจริงในสิ่งที่เขาคิด
“…” หญิงสาวไม่ตอบ เธอยืนมองหน้าเขานิ่งแต่นัยน์แววตากลับเต็มไปด้วยความขมขื่นและชอกช้ำ หยาดน้ำอุ่นๆ ก็ค่อยๆ เริ่มเอ่อขึ้นมาบดบังทัศนวิสัยตรงหน้าจนพร่ามั่วอย่างอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่
ทั้งที่หัวใจซึ่งเดิมทีคิดว่าตายด้านไปนานแล้วพลันเกิดความรู้สึกเจ็บปวดราวกับโดนเข็มปลายแหลมคมทิ่มแทงขึ้นมาอีกครั้งจนเธอไม่อาจละเลยได้ เมื่อภาพเหตุการณ์ในอดีตที่ไม่น่าจดจำ ในตอนที่เขานั้นได้ทำร้ายเหยียบย้ำหัวใจเธอให้แหลกละเอียดราวกับของไร้ค่าผุดขึ้นมาในหัวซ้ำไปมา
ถึงแม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตามแต่เธอยังคงจำความเจ็บปวดนั้นได้เป็นอย่างดี…
จากแววตาอ่อนไหวในทีแรกได้แปลเปลี่ยนเป็นแววตาที่เปี่ยมไปด้วยเจ็บช้ำและโกรธเคืองขึ้นมาแทนในทันที จนน้ำตาแห่งความปวดใจที่เอ่อระเรื่อคลอขอบตาไหลทะลักลงมาอาบบนแก้มนวลอย่างกลั้นเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป
ถึงเขาจะเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เคยรักมาก มากเสียจนหัวใจเธอเต็มไปด้วยบาดแผล และตอนนี้เธอก็เกลียดเขามากเช่นกัน…