คุณหญิงแม้นวาดและคุณพิมพ์ลักษณ์นั่งรอทั้งคู่อยู่ในห้องหอ ก่อนที่ท่านทั้งสองจะกล่าวให้โอวาท และปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ในเรือนหอด้วยกันตามลำพัง
เมื่อผู้ใหญ่ออกไปแล้ว ศรุตก็เดินเข้าหาพิมพ์พลอยด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ หญิงสาวได้แต่มองด้วยความตื่นตระหนก เพราะทั้งชีวิตของเธอแทบจะไม่เคยเข้าใกล้ผู้ชายเลย แต่ครั้งนี้เธอหนีไม่ได้ เพราะผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคือสามีที่ถูกต้องตามกฏหมายของเธอ
พิมพ์พลอยได้แต่ก้มหน้างุด ไม่แม้แต่จะหันไปสบตาชายหนุ่ม ศรุตเห็นดังนั้นจึงเดินเข้ามาเชยคางมนของหญิงสาวขึ้นมา พิมพ์พลอยจึงเลี่ยงที่จะสบสายตากับชายหนุ่มไม่ได้
"เธอจะหลบหน้าฉันไปถึงไหน ตั้งแต่ในงานแล้ว ถ้ากลัวฉันมาก เธอมาตกลงแต่งงานกับฉันทำไม" ศรุตเปิดฉากการสนทนาด้วยเสียงเรียบ
"ก็เพื่อคุณแม่ยังไงละคะ เกิดเป็นลูกก็ต้องตอบแทนบุญคุณท่าน" พิมพ์พลอยเอ่ยออกมาเสียงเบา
"เหรอ!! นึกว่าอยากจะเป็นสะใภ้บ้านนี้จนตัวสั่น" ศรุตกล่าวหาพิมพ์พลอยด้วยอคติภายในใจของเขา
"คุณนี่มันปากคอเราะร้ายใช่ย่อย มิน่าล่ะพี่ใจเขาถึงหนีงานแต่งงานไป เพราะถ้าขืนเขาแต่งกับคุณ เขาคงเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น ซึ่งไม่ต่างจากฉันตอนนี้เลย" พิมพ์พลอยเอ่ยออกไปเพราะเหลืออด เธอพยายามที่จะอยู่นิ่งๆ หวังจะตกลงกับเขาดีๆ เพราะเธอไม่อยากอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต เธอต้องการอย่าขาดจากเขา แล้วกลับไปใช้ชีวิตปกติดังเดิม แต่ดูท่าแล้วคนอย่างศรุตคงจะไม่ยอมร่วมมือกับเธอง่ายๆ
"เธอกล้าดียังไงมากล่าวหาฉัน" ศรุตเอ่ยจบก็ย่างสามขุมเข้าไปหาพิมพ์พลอย
ชายหนุ่มกระชากแขนเรียวเล็กของพิมพ์พลอยด้วยความรุนแรง
"ฉันเจ็บนะ คุณจะทำอะไร" พิมพ์พลอยร้องออกมาด้วยความไม่พอใจ
"ก็กำลังจะพาเธอตกนรกอยู่นี่ไง ปากดีนักใช่มั้ย" ศรุตใช้มือหนากระชากเข้าไปที่ชุดแต่งงานราคาแพงจนขาดวิ่น
"หยาบคายที่สุด" พิมพ์พลอยสบถออกมาพร้อมกับพยายามปิดป้องเรือนร่างของตนเอง จากชุดแต่งงานที่ขาดวิ่น
"ก็ลองมีผัวหยาบๆ แบบนี้ดูแล้วกันว่ามันจะถึงใจแค่ไหน แล้วไม่ต้องกินยาคุมนะเดี๋ยวคุณหญิงแม้นวาดจะไม่มีหลานสักที" ศรุตยิ้มร้ายก่อนจะพยายามจัดการกับชุดแต่งงานส่วนที่เหลืออยู่ ในขณะที่พิมพ์พลอยก็พยายามขัดขืนและปิดป้องร่างกายของเธอจากสายตาของชายหนุ่ม
ศรุตยังไม่หยุดคุกคามหญิงสาว เขาจัดการฉีกชุดแต่งงานราคาแพงจนแทบไม่เหลือชิ้นดี เศษซากของชุดแต่งงานราคาแพงถูกโยนทิ้งไว้ที่พื้น