สองชั่วโมงผ่านไป
รมตีกวาดสายตามองรอบๆ ห้องนอนขนาดเล็กที่มีเตียงนอนสำหรับหนึ่งคน นอกจากนั้นก็มีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำจากไม้ตั้งอยู่ติดกับขอบเตียงนอน
หญิงสาวทิ้งตัวนั่งลงบนฟูก พลันคิดหาวิธีที่จะเอาโทรศัพท์และของสำคัญอื่นๆ ของตนคืนมา เธอจะไม่มีทางยอมถูกพ่อเลี้ยงใจร้ายกักขังไว้ที่นี่เด็ดขาด
"ของจะต้องอยู่ในห้องนอนของพ่อเลี้ยงแสนแน่ๆ" หญิงสาวพึมพำ ทว่าทันใดนั้นเสียงเคาะประตูห้องนอนก็ดังขึ้น รมตีจึงลุกขึ้นและเดินไปเปิดประตู
"พ่อเลี้ยง" เธอตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเจ้าของใบหน้าบึ้งตึงยืนอยู่ เขาวางกระเป๋าเดินทางของเธอลงตรงหน้าประตู
"ฉันเอารถที่เธอเช่ามาไปคืนให้แล้ว ส่วนของที่โรงแรมก็เอามาให้หมดแล้ว ฉันให้เธอพักหนึ่งวัน พรุ่งนี้เธอจะต้องเริ่มงาน" แสนจัดแจงทุกอย่างเสร็จสรรพ
"ฮะ? แต่วันนี้มันจะหมดวันแล้วนะ"
"ฉันไม่สน แต่ถ้าเธอไม่อยากทำงานบ้าน เธอก็แค่พูดความจริงออกมาว่าเธอซื้อที่ดินนี้มาจากใคร" พ่อเลี้ยงแสนยังคงพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน ทว่ารมตีกลับไม่สนใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด
"ฉันขอโทรศัพท์คืนด้วย"
"อยู่ที่นี่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหน ฟังดีๆ นะ ฉันไม่ขังเธอไว้ในกระท่อมกลางป่าก็ดีเท่าไหร่แล้ว นี่เพราะคุณแม่ขอเฉยๆ หรอกฉันถึงยอมให้เธอมาอยู่ที่นี่"
พ่อเลี้ยงแสนพูดเท่านั้นแล้วจึงปิดประตูห้องนอนเสียงดังและเดินไป รมตีได้แต่ข่มอารมณ์ความโกรธไว้ เธอยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาจึงเห็นว่าเป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว
หญิงสาวตัดสินใจเดินออกจากห้องพักของตนและย่องเดินตามหลังพ่อเลี้ยงแสนไป เธอต้องรู้ให้ได้ว่าห้องนอนของชายหนุ่มอยู่ตรงไหน
เรียวเท้าเล็กย่องเดินตามหลังพ่อเลี้ยงแสนมาจนถึงทางขึ้นบันได ขณะที่เขาเดินขึ้นชั้นสองไปหยุดหน้าห้องนอนห้องหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับทางลงบันไดพอดี จากนั้นชายหนุ่มจึงเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนอน
รมตีชะเง้อมองซ้ายมองขวา โชคดีที่ตอนนี้ทุกคนต่างกำลังวุ่นวายอยู่ในครัว จึงไม่มีใครเห็นว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้
ทว่าครู่หนึ่งกลับได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอนของพ่อเลี้ยงแสนอีกครั้ง ร่างเล็กจึงรีบวิ่งไปหลบอยู่ใต้ราวบันได ขณะที่เขากำลังเดินลงมาชั้นล่าง และเดินตรงไปยังหน้าบ้านด้วยความเร่งรีบ
รมตีเห็นชายหนุ่มสวมเสื้อแจ็คเก็ต เธอคลี่ยิ้มเพราะคิดว่าเขากำลังจะออกไปข้างนอก จึงรีบย่องเดินขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อที่จะหาทางเข้าไปในห้องนอนของชายหนุ่ม
มือเรียวลองหมุนลูกบิดประตูเบามือจึงรู้ว่าเขาไม่ได้ล็อกมัน รมตีไม่แน่ใจว่าพ่อเลี้ยงแสนลืมหรือตั้งใจไม่ล็อกประตู แต่มันก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เข้าไปเอาของของตนคืน
รมตีกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องนอนขนาดใหญ่ ดูจากความเป็นระเบียบแล้วแม่บ้านน่าจะเพิ่งทำความสะอาดเสร็จ
เธอเริ่มค้นหากระเป๋าสะพายและโทรศัพท์มือถือของตน โดยเริ่มจากเปิดดูในลิ้นชักต่างๆ ตั้งใจว่าหากเจอของสำคัญทั้งหมดแล้วจึงจะหาทางหนีออกไปจากที่นี่
"อยู่ไหนกันนะ ห้องนอนอะไรจะใหญ่ขนาดนี้" หญิงสาวพึมพำ และกำลังจะเดินไปเปิดลิ้นชักตรงโต๊ะหัวเตียงนอน แต่แล้วกลับต้องสะดุ้งตกใจเมื่อประตูห้องนอนถูกเปิดออก เธอหันขวับไปยังต้นเสียง หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบตกลงไปอยู่ตาตุ่ม
"พ่อเลี้ยง!"
"เธอเข้ามาทำอะไรในห้องนอนของฉัน?" พ่อเลี้ยงแสนถามเสียงดุดัน
ความจริงชายหนุ่มตั้งใจจะออกไปข้างนอก แต่นึกได้ว่าตัวไม่ได้ล็อกประตูห้องนอนจึงเดินกลับขึ้นมา แต่คิดไม่ถึงว่าเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีจะมีคนแอบเข้ามาในห้องนอนของตนเสียแล้ว
"เอ่อ...ฉันมาหาของ"
"โทรศัพท์กับโฉนดน่ะเหรอ?" เขาเลิกคิ้วถาม
"ก็ใช่ ฉันขอคืนดีๆ แล้วคุณไม่ยอมคืนให้ฉันเอง" เธอตอบออกไปตามตรง เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด คนที่ผิดในเรื่องนี้ก็คือพ่อเลี้ยงแสนเพียงคนเดียว
"หายังไงเธอก็หาไม่เจอหรอก ฉันไม่ได้เก็บไว้ในห้องนี้" เขาว่า และยังเหยียดยิ้มมุมปากเย้ยหยัน
"แล้วคุณเก็บไว้ไหน คุณก็รู้ดีแก่ใจว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้กับฉัน ไม่มีสิทธิ์ที่จะยึดข้าวของของฉันไปซ่อนไว้แบบนี้"
"คิดว่าฉันจะสนใจหรือยังไง ในเมื่อเธอไม่ยอมพูดความจริงฉันก็จะใช้วิธีนี้แหละ" ชายหนุ่มปิดประตูห้องนอนเสียงดังและใส่กลอน จากนั้นเขาจึงเดินมาหารมตี หญิงสาวก้าวถอยหลังออกห่างจากชายหนุ่มจนร่างเล็กชนเข้ากับโต๊ะหัวเตียงนอน
"ถอยออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันจะออกไปแล้ว" ร่างเล็กกำลังจะเดินเบี่ยงหลบคนตัวโต ทว่าพ่อเลี้ยงแสนกลับรั้งข้อมือเล็กไว้เสียก่อน
"คิดว่าแอบเข้ามาในห้องนอนของฉันแล้วจะกลับออกไปได้ง่ายๆ งั้นเหรอ?" เขาถามด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน และยังผลักร่างเล็กเบามือจนเธอเสียหลักนั่งลงบนเตียงนอนอีกด้วย
"นี่! คุณจะทำอะไร อย่าทำอะไรฉันเชียวนะ" รมตีขยับกายถอยหลังไปจนแผ่นหลังชนเข้ากับหัวเตียงนอน
"คิดว่าฉันจะทำอะไรเธองั้นเหรอ หึ!"
"ถ้าไม่คิดก็แล้วไป แล้วก็กรุณาหลีกทางด้วย ฉันจะออกไปแล้ว อย่ามายุ่งกับฉัน"
"ฉันว่าเรามาลองคุยกันดีๆ อีกครั้งดีกว่า ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าใครที่ขายที่ดินให้เธอ เธอไม่อยากช่วยฉันสืบหาคนที่ฆ่าพ่อฉันเหรอ?"
พ่อเลี้ยงแสนคุยเรื่องนี้อีกครั้ง เขาทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนอนและจ้องมองใบหน้าสวยด้วยแววตาคาดหวังว่าจะได้รับคำตอบ
ทว่าชายหนุ่มกลับได้รับความรู้สึกอื่นแทน เขาเผลอจ้องมองใบหน้าสวยละมุนด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย และยังคงจ้องมองใบหน้าสวยของหญิงสาวอยู่เช่นนั้นไม่ยอมละสายตา
คนถูกมองรู้สึกประหม่าจนต้องหลบสายตาอีกฝ่าย รมตีมีใบหน้าอ่อนเยาว์กว่าอายุของเธอเสียด้วยซ้ำ จมูกโด่งเล็กรับกับใบหน้าเรียวสวยโดดเด่น กลิ่นกายหอมหวานยิ่งเพิ่มเสน่ห์ในตัวของหญิงสาว
"บ้าจริง" แสนพึมพำเสียงเบา เขาไม่แน่ใจว่าทำไมตนถึงรู้สึกเช่นนี้กับผู้หญิงที่เพิ่งพบเจอกันวันแรก หรือคงเพราะตนไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงมานานเกือบสองปีแล้ว หัวใจแกร่งเต้นแรงขึ้น อารมณ์ความรู้สึกบางอย่างในร่างกายกำลังก่อตัวขึ้นโดยไร้เหตุผล
รมตีก้มหน้าครุ่นคิดในใจ เธอไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้ตนคิดว่าบิดาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มันรู้สึกหวาดหวั่นใจประหลาด
เพราะตั้งแต่เติบโตมารมตีก็รู้ดีว่าแวดวงธุรกิจของคนเป็นพ่อนั้นมีทั้งคนดีและคนเลว ส่วนบิดาของตนก็ไม่ใช่คนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เขาจะกล้าสั่งฆ่าชีวิตคนคนหนึ่งได้เช่นนั้นเลยหรือ
หญิงสาวหนักใจ จึงตัดสินใจที่จะยังไม่บอกพ่อเลี้ยงแสนว่าบิดาเป็นคนซื้อที่ดินผืนนี้ให้ตน เธอต้องแน่ใจเสียก่อนว่าท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับคดีฆาตกรรมบิดาของชายหนุ่ม...
พระเอกเรื่องนี้หื่นนะบอกเลย 5555 ส่งคอมเมนต์มาคุยกันด้วยนะคะ♥♥