bc

Hate or Love เกลียดให้ตาย...สุดท้ายก็รัก

book_age16+
345
FOLLOW
1.5K
READ
others
drama
comedy
twisted
sweet
like
intro-logo
Blurb

เรื่องราวของ นนท์ หนุ่มสัตวแพทย์ปีหนึ่ง และ ไนท์ หนุ่มวิศวกรรมศาสตร์ปีหนึ่งที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อความบังเอิญนำพาให้คนสองคนที่ไม่ชอบขี้หน้า ให้มา...รักกัน แถมยังมีความสัมพันธ์ที่พวกเขาทั้งคู่ไม่อาจแยกจากกันได้ซะด้วยซิ

chap-preview
Free preview
​ Prologue เกลียดแรกพบ
​ Prologue เกลียดแรกพบ พาร์ทของนนท์ ว่ากันว่าความบังเอิญนำพาให้เราได้เจอทั้งคนที่เรารักและคนที่เราเกลียด แต่บางครั้งความบังเอิญก็นำพาคนที่เราเกลียดให้กลายมาเป็นคนที่เรารักได้เหมือนกัน… “ขอถ่ายรูปด้วยนะนนท์เราจะเอาไปอวดเพื่อน” “ได้สิ” “ถ่ายเสร็จแล้วเราขอถ่ายด้วยคนนะนนท์” “อืม ได้ๆ” “นนท์ยิ้มแบบนี้แล้วหล่อมากเลยอ่ะ” “จริงๆเรายิ้มยังไงก็หล่ออยู่แล้วหรือเปล่า” ง้อววว! พี่นนท์จัดให้หนึ่งดอก ชีวิตของนนทการณ์กับการถูกสาวๆขอถ่ายรูปมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ตั้งแต่เรียนมัธยมจนตอนนี้เข้ามหาวิทยาลัยแล้วเสน่ห์ผมก็ยังดีอยู่นะ เผลอๆอาจจะเสน่ห์แรงกว่าเก่าก็ได้ ก็มึงเกิดมาหล่อซะขนาดนี้นี่น่าไอ้นนท์ แถมยังเรียนสัตวแพทย์ด้วยอีก เท่ห์ระเบิดไปเลย ตอนแรกผมละกังวลแทบตาย คิดว่ากูเลือกผิดเปล่าวะมาเรียนหมอ ถึงจะหมอหมาก็เถอะ เห็นไอ้หมอกมันมาเรียน ไอ้ผมเองก็คิดอะไรไม่ออกก็สอบมากับมันด้วย ผลดันออกมาติดที่นี่ก็เลยไหลตามน้ำมา ที่ไหนได้ปฐมนิเทศวันแรกสาวๆคณะนี้แม่งไม่โดนเลยสักคน ยังคิดอยู่เลยว่าชีวิตมาถึงความบรรลัยแล้วไอ้นนท์ เรียนก็ไม่รู้จะรอดไหมแถมยังเหล่สาวไม่ได้อีก แต่พอเอาเข้าจริงๆมันก็โอเคนะ อย่างน้อยๆผมก็ใช้ชุดกาวน์ไว้ทำมาหากินได้ไง เช่นการจีบสาวเป็นต้น เรื่องเรียนนนท์ไม่สน แต่เรื่องผู้หญิงนนท์สู้ตายโว้ย! “ฮอตจริงๆพ่อเดือนคณะของฉัน” “ถ้ารู้ว่าจะโหวตให้มันจนหมดตัวแล้วมาเป็นแบบนี้ ฉันจะปล่อยให้มันตกรอบไปก็ดี” ในทุกๆความสุขของคนเราจะต้องมีอะไรสักอย่างหรือใครสักคนมาคอยเป็นมารทำลายความสุขของเราอยู่เรื่อย เจ้าของเสียงนั้นคนแรกนั้นชื่อปริม หน้าตาสะสวย ตอนแรกเข้าไปทักคิดว่าจะเป็นเพื่อนกันก่อนแล้วค่อยจีบ แต่พอรู้จักจริงๆดุกว่าหมา บ่นเก่งกว่าแม่ แบบนี้นนท์ขอผ่าน เพื่อนกันดีสุด คนที่สองชื่อวิ สวยน้อยกว่าปริม แต่น่ารักกว่า ผิวขาว หน้านี้อย่างใสเลย นั้นหน้าคนหรือก้นเด็ก พูดถึงแล้วผมอดที่จะลูบหน้าตัวเองไม่ได้เลย ไอ้เรานี่ดูแลตัวเองสุดพลัง ทั้งทาครีมเป็นสิบขวดกว่าจะได้นอนแต่ละคืน ยังหน้าใสสู้วิไม่ได้เลย พอถามว่าใช้ครีมอะไร เธอบอกล้างแค่โฟมล้างหน้าอย่างเดียว ผมนี่ถึงกับยิ้มแห้งๆให้เลยทีเดียว ฟ้าไม่ยุติธรรม! “โธ่ อย่าห้ามนนท์เลยนะครับเพื่อนๆ เรื่องแบบนี้มันห้ามยาก ก็คนมันหล่ออ่ะ” “จร้า พ่อคนหล่อ ทำบุญด้วยอะไรมาล่ะถึงได้หล่อสาวหลงนาดนี้” วิพูดด้วยน้ำเสียงประชด “ไว้กลับบ้านจะถามแม่ให้แล้วกันนะ” ผมยิ้มร้ายๆตอบ ชีวิตของนนทการณ์ไม่มีคำว่าเซง ถึงจะได้เข้ามาเรียนในคณะที่ไม่รู้ตัวเองจะเรียนรอดหรือเปล่า ต้องบอกลาชีวิตคุณชายน้อยที่พ่อแม่ดูแลอย่างดีมาอยู่หอ เพราะบ้านผมมันอยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยซะเหลือเกิน ไกลชนิดที่ว่าคุณต้องมียานอวกาศเท่านั้นคุณถึงจะสามารถฝ่าฟันรถติดของเมืองกรุงมาเรียนให้ทันได้ แถมคณะที่มาเรียนยังไม่มีสาวๆที่โดนใจอีก แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ คณะนี้ไม่มีก็ไม่ได้หมายความว่าคณะอื่นไม่มี! “เย็นนี้นนท์จะมารับดาวไปกินข้าวไหม ดาวว่างถึงสองทุ่มนะ” ข้อความจากไลน์ของผมแจ้งเตือนขึ้น “ได้สิครับ สำหรับดาว นนท์ยังไงก็ได้ แต่ว่าว่างถึงสองทุ่มเองเหรอ นนท์เสียใจแย่เลย แต่ไม่เป็นไรครับ สำหรับดาวนนท์คอยได้เสมอ นนท์จะคอยวันที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นนะครับ” คนนี้ชื่อดาว เรียนคณะแพทย์ น่ารัก หุ่นดี ผิวขาว แค่คิดผมก็อยากจะโดนเรียนไปหาแล้ว หมาแมวป่วยให้หมอนนท์ช่วยรักษา แต่ถ้าเรื่องรักษาใจผมรบกวนหมอดาวด้วยนะครับ “นุ่นครับ วันนี้ว่างไปขับรถเล่นกับนนท์ไหมครับ” จบการสนทนาจากดาว ผมก็กดแชทไปหาคู่สนทนาอีกคน “แต่นุ่นเลิกซ้อมหลีดดึกนะนนท์ สองทุ่มครึ่งเลย” “ไม่เป็นไรครับ สำหรับนุ่นนนท์รอได้เสมอ แล้วเจอกันสองทุ่มครึ่งนะครับ” คนนี้ชื่อนุ่น ดาวนิเทศศาสตร์ น่ารัก ตัวเล็ก คนนี้คุยเก่งกว่าคนก่อน อยู่ด้วยแล้วมีเรื่องเล่าให้ผมฟังไม่เบื่อเลย แต่จริงๆแล้วสาวๆจะเล่าอะไรให้ผมฟังผมก็ชอบฟังทั้งนั้น ผมชอบเวลาได้มองรอยยิ้มใสๆ น่ารักๆของพวกเธอ เฮ้ย! แต่ออกตัวก่อนนะครับ ผมไม่ได้สับรางเก่งนะ ไม่ต้องตามการรถไฟมารับผมไปทำงานนะครับ แบบนนทการณ์นี่ไม่เรียกสับรางเก่งครับ มันหยาบคาย กรุณาเรียกว่าคนบริหารจัดการเวลาเป็น อีกอย่างที่บ้านให้รถผมมาใช้ทั้งที ถ้าไม่มีสาวมานั่งรถผมมันคงเสียใจแย่ จริงๆต้องมองว่าผมเป็นอ่อนโยนและมีน้ำใจด้วยซ้ำนะเนี่ย “ไอ้หมอก มึงเป็นอะไร กูเห็นทำท่ากระวนกระวายตั้งแต่เช้าแล้ว ทำหน้ายังกับคนเบื่อโลก” “หน้ากูแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอ” “โห…กูว่าต่อให้กูมองจากหน้าตึกคณะมาเห็นหน้ามึงตอนนี้ยังดูออกเลยมั้ง” “มึงก็เวอร์ไปไอ้นนท์” คนนี้ไอ้หมอก ไอ้สาย ไอ้สายหมอก จะไอ้อะไรก็หมายถึงมันคนเดียว เพื่อนรักเพื่อนตายของผมตั้งแต่สมัยเรียน คบกับมันแล้วสบายใจ แมนๆไม่แย่ง ไม่ทับทางกัน ผมเป็นแบบนึงมันก็เป็นอีกแบบนึง ไม่เคยเห็นมันจีบหญิงสักที จะมีก็แต่ผู้หญิงนั้นแหละเข้ามาหามันเอง ก็ไอ้นี่มันสายแบ๊ว แม่งน่ารักฉิบหาย ผิวขาว ตาไม่โตมาก คิ้วเข้มแถมปากโคตรน่าจูบ อ้าว! อันนี้ผมพูดจริงๆนะ ทั้งผู้หญิง ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็หวั่นไหวกับมันทั้งนั้น ขนาดผมเองยังแอบหวั่นไหวเลย ไอ้นี่มันเก็บความรู้สึกไม่เก่ง เรียกว่าเก็บความรู้สึกไม่เป็นเลยดีกว่า เวลามันคิดอะไรสีหน้า แววตามันก็แสดงออกมาแบบนั้น ความเป็นธรรมชาติของมันนี่ละมั้งถึงทำให้ใครๆก็หลงมันจังเลย แต่มีดีก็มีต้องเสีย เพราะสาวๆที่เข้าหามันไม่สามารถทำอะไรกับความรู้สึกมันได้เลย ผมยังแอบคิดว่ามันตายด้านหรือเปล่าวะ บางทีสาวที่เข้าหามันก็น่ารักโคตร มันยังไม่สนเลย แต่มันไม่สนก็ดีแล้ว ผมจะได้รับช่วงจีบเหล่าสาวๆที่เข้ามาหามันต่อให้เอง ส่วนพวกผู้ชายที่เข้ามาก็ต้องโดนผมไล่เตะหนีกระเจิงทุกราย “หน้าเอ๋อๆของมึงเก็บอารมณ์ไม่อยู่หรอกไอ้หมอก มีเรื่องอะไรไม่สบายใจบอกกูมาซะดีๆ” ผมพูดพร้อมส่งสายตาคาดคั้นเอาคำตอบ “…” “แหม! ใครจะไปทำหน้าหล่อ ยิ้มระรื่นตลอดเวลาอย่างเดือนคณะแบบแกได้ละนนท์ โน้น! สาวๆกลุ่มนั้นมองแกอยู่นานละ เห็นเขินบิดไปบิดมาจนชุดกาวน์จะขาดแล้วมั้ง” วิพูด การขัดคอคืองานของวิ และการเหน็บแนมเพื่อนก็เป็นงานของวิเช่นกัน “ธรรมดาครับเพื่อนๆ ก็คนมันหล่อ” ผมยกมุมปากยิ้มยืนยันกับสิ่งที่ผมพึ่งพูดออกไป “แบ่งให้เพื่อนด้วยนะนนท์” ลีโอเพื่อนอีกคนในกลุ่มพูดพร้อมเกาะแขนทำหน้าอ้อนวอน “ได้เลยลีโอเพื่อนรัก” ผมตอบ หลังจากนั้นทั้งปริมและวิที่ตอนนี้ผมกำลังสงสัยว่าเป็นเพื่อนหรือแม่กันแน่ก็เปิดฉากแสดงธรรม บ่นดักคอไม่ให้พวกผมคบผู้หญิงเป็นของเล่นจนผมเกือบจะลาออกไปบวชอยู่แล้ว “ไอ้หมอก! มึงยังไม่ได้บอกกูเลยว่ามึงมีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่า วันนี้ถึงได้ทำหน้าเบื่อโลกทั้งวัน” ผมถามไอ้หมอกอีกครั้งหลังจากทั้งสองสาวแสดงธรรมจนสาแก่ใจจนหยุดพูดไปเองแล้ว “เอ่อ… วันนี้ที่คณะเพื่อนกูมีงานว่ะ สัญญากับมันไว้แล้วว่าจะไป” “เพื่อนวิศวะมึงคนนั้นล่ะสิ” ผมบอกอย่างรู้ทัน “มึงรู้?” “ทำยังกับชีวิตมึงมีเพื่อนเยอะงั้นแหละ นอกจากพวกเรากันเองนี่ก็เห็นมึงมีแต่เพื่อนวิศวะของมึงเท่านั้นแหละ เรื่องนี้เองเหรอที่มึงทำหน้าเบื่อโลกมาทั้งวัน” “อือ ใช่เพื่อนที่คณะวิศวะนั้นแหละ” ไอ้หมอกตอบเสียงอ่อย “แล้วมึงจะทำหน้าเครียดทำไมล่ะ” “ก็…” “หมอกกังวลเรื่องประชุมปีหนึ่งตอนเย็นใช่ไหม” ลีโอแทรกขึ้น “อืม” ไอ้หมอกพยักหน้ารับ “ไม่ต้องเครียดหรอก หมอกไปเถอะ ถ้ารุ่นพี่ถามเดี๋ยวเราช่วยแก้ตัวให้” “เออ จะไปก็ไปสิจะเครียดทำไม เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” ผมเสริมคำพูดของลีโอ “เฮ้ย! มึงไม่ต้องไปก็ได้” ไอ้หมอกรีบปฏิเสธ “ทำไมล่ะ” “มึงอย่าลืมนะไอ้นนท์ มึงน่ะเป็นเดือนคณะนะ หมอกหายตัวไปไม่มีใครสงสัยหรอก แต่ถ้าเดือนคณะหายตัวไปละก็คนเขารู้กันทั่วแน่” ลีโอตอบแทน “เออๆ งั้นก็ให้กูไปส่งมึงแล้วกัน ส่งมึงเสร็จกูก็กลับ โอเคไหม” “อืม” ไอ้ตะวันส่อง หรือตะวันฉาย อะไรสักอย่างนี่แหละที่ไอ้หมอกเคยบอก คนบ้าอะไรชื่อโคตรยาว ชื่อเล่นแม่งยาวพอๆกับชื่อจริงผมเลย ไอ้คนนี้มันเรียนวิศวะตามที่ไอ้หมอกเล่าให้ฟัง มันเจอกับไอ้หมอกโดยบังเอิญ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไอ้นี่มันแน่ที่เข้ามาอยู่ในความสนใจของไอ้หมอกได้ นอกจากจะทำให้เด็กเรียนตัวปู่ (คือยิ่งกว่าตัวพ่อ) แบบไอ้หมอกโดดเรียนได้แล้ว ยังทำให้ไอ้หมอกกระวนกระวายถึงมันแบบนี้อีก แรกๆที่พวกมันรู้จักกันผมห้ามไอ้หมอกให้เลิกยุ่งเท่าไหร่มันก็ไม่ฟัง ไอ้หมอกยังปล่อยให้เขามาหา แถมยังมาลักพาตัวไปไหนต่อไหนอีก ยังไงวันนี้ผมก็ไม่ยอมให้มันไปคณะวิศวะคนเดียวแน่นอน คนแบบไอ้หมอกแค่เดินไปหน้าตึกคณะก็หลงแล้วมั้ง ดั้งนั้นผมต้องไปด้วยแค่ไปส่งก็ยังดี จะได้เจอหน้าไอ้ตะวันฉาย ตะวันส่องอะไรนั้นด้วย “ไอ้นนท์กูไปก่อนนะ พอดีมีเพื่อนมารับแล้ว มึง…ไม่ต้องไปส่งกูก็ได้” ตอนเย็นพออาจารย์ปล่อย ไอ้หมอกก็สวมวิญญาณองค์พ่อเดอะแฟลชจะวิ่งออกจากห้องไปด้วยความเร็วแสงทันที ยังดีที่ผมคว้าข้อมือไว้ได้ทัน “ได้ไงละมึง กูบอกแล้วว่าจะไปส่งไง” “ไม่ต้องๆ ตะวันให้ไนท์ เอ่อ…เพื่อนเขามารับแล้ว” “ถ้างั้นกูไปส่งมึงหน้าคณะก็ได้ มึงเจอเพื่อนมึงแล้วกูก็จะได้กลับ” ไม่ได้ครับเพื่อนตกลงกันไว้แล้วว่ามึงจะให้กูไปด้วย ตอนแรกมันดึงดันไม่ยอมให้ผมไปด้วยแต่ผมก็ใช้ลูกตื้อจนมันยอมให้ไปด้วยจนได้ ถึงจะแค่ลงไปส่งก็ตามที นี่ถ้าไม่ติดว่าเย็นนี้ต้องเข้าประชุมคณะบ้าบออะไรนั้นผมตามมันไปถึงคณะวิศวะแล้ว แต่คนหล่อๆและเป็นเดือนคณะแบบมึงจะทำแบบนั้นไม่ได้ไอ้นนท์ มึงต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสาวๆ เอ้ย! ต่อทุกคนเอาไว้ แต่ยังไงก็ขอไปดูหน้าไอ้วิศวะนั้นหน่อยแล้วกัน เผื่อไม่น่าใว้ใจจะได้กันท่ามันไม่ให้ยุ่งกับไอ้หมอกด้วย “ไอ้หมอก…เพื่อน….มึง…อยู่ไหน…วะ?” ผมถามปนหอบหลังจากออกแรงวิ่งสุดพลังจนมาถึงหน้าตึกคณะ รวดเร็วประดุจเปิดวาร์ปจนไอ้หมอกถามว่าตกลงใครกันแน่ที่รีบ “ไม่รู้ ยังไม่ได้ถามเลย ก็มึงอ่ะลากกูลงมาก่อน รีบยิ่งกว่ากูอีก” ไอ้หมอกว่าด้วยน้ำเสียงปนหอบเช่นกัน “ก็กูคิดว่าทั้งคณะเราจุดที่หาง่ายสุดก็คือลานจอดรถหน้าคณะเรานี่แหละ ก็เลยพามึงมาที่นี่ก่อน” จะว่าไปผมก็ลืมถามมันไปเลยว่ามันนัดเจอกันที่ไหน ไม่รู้เว้ย! ก็คนมันกลัวอาจารย์จะสอนแถมนี่หว่า อีกอย่างไอ้หมอกมันก็ทำท่าจะชิ่งหนีด้วย พอเลิกเรียกปุ๊บเท้ามันก็วิ่งไปเองเลย แต่ร้อยทั้งร้อยใครนัดเจอกันมันก็นัดกันที่หน้าคณะทั้งนั้นหรือเปล่าคงไม่ไปนัดเจอกันในห้องน้ำหรอกมั้ง อันนั้นก็ลึกลับไป “แต่ว่าไนท์จะคิดแบบนั้นหรือเปล่า นี่แหละปัญหา” ไอ้หมอกทำหน้าเหมือนจะด่า “มึงก็ไลน์ถามมันดิ โทรหาก็ได้” “เออๆ เดี๋ยวกูไลน์ถามก่อน” จะทำอะไรก็เชิญเลยเพื่อน ตอนนี้กูขอ…หอบก่อน “หมอก!” ไอ้หมอกก้มหน้ามองจอมือถือได้ไม่นาน เสียงใครบางคนก็เรียกชื่อมันดังขึ้น ผมกับไอ้หมอกหันหน้าไปมองต้นเสียงพร้อมกัน เชรดดด! ไอ้เจ้าของเสียงแต่งตัวชุดนักศึกษาธรรมดาๆแต่โคตรเนี๊ยบ ทรงผมถูกเซตอย่างเป็นระเบียบ การแต่งตัวบ่งบอกถึงสไตล์การแต่งตัวได้อย่างดีว่าเป็นคนมีรสนิยมและฐานะค่อนข้างดีแน่นอน เพราะแค่ชุดนักศึกษาธรรมดา มันก็แต่งออกมาได้ดูดีมากๆ คิดว่าพวกวิศวะต้องแบบแบดๆหน่อยเปล่าวะ แต่ไอ้นี่แม่งเนี๊ยบจนเด็กแพทย์อย่างผมนี่แอบอายเลย “หมอกจริงๆด้วย เฮ้ย! ใส่ชุดกาวน์แล้วน่ารักจนจำไม่ได้เลยนะเนี่ย” ไอ้เนี๊ยบมันทัก แหม! กูก็ใส่ชุดกาวน์เหมือนกันป่ะ ทักแต่ไอ้หมอกคนเดียว เนี๊ยบแล้วยังขี้หลีอีกว่ะ “วันนี้เรียนแล็บน่ะ อาจารย์ปล่อยช้าเลยมาช้าหน่อย ไนท์มารอนานยัง?” “ไม่นานหรอกพึ่งมาเอง ยังไม่ทันได้ไลน์หาหมอกเลย เรามองมาเห็นคุ้นๆเลยเข้ามาทักดู ใช่หมอกจริงๆด้วย” “อะแฮ่ม!” ยิ่งคุยกันนานเข้า ผมยิ่งรู้สึกค่อยๆเลือนหายไปในอากาศ พวกมึงช่วยเห็นหัวนนทการณ์คนนี้บางก็ได้นะครับ “ไนท์ นี่เพื่อนเราเองชื่อนนท์” เสียงกระแอมและสายตามคมกริบของผมได้ผล ขอบคุณเพื่อนหมอกที่ยังไม่ลืมที่จะแนะนำตัวเพื่อนคนนี้ “สวัสดีครับ เราชื่อไนท์นะ” ไอ้เนี๊ยบหันมาทักผม แต่ว่ามึงไม่ผ่านโปรว่ะขอโทษที เนี๊ยบไป ดูดีเกินไป คบกับไอ้หมอกไม่เหมาะหรอก ถึงมึงจะมารับมันแทนเพื่อนมึงก็เถอะ แต่ดูจากท่ามันแล้วเพื่อนมันก็คงไม่ต่างกัน ดังนั้นนนทการณ์ไม่ให้ผ่าน! “อืม สวัสดี” ผมตอบกลับแบบห้วนๆ “ไม่บอกก็รู้ว่าเรียนคณะเดียวกันแน่เลย” ไอ้เนี๊ยบหันไปถามไอ้หมอก “อืมใช่ๆ นนท์กับเราเรียนคณะเดียวกัน” อ้าวเฮ้ย! มันหันไปถามไอ้หมอกแต่มองผมด้วยหางตากวนๆแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง ได้…มึงจะเล่นใช่ไหมไอ้เนี๊ยบ “ก็น่าจะรู้ ใส่เสื้อกาวน์เหมือนกันแบบนี้” กวนมากวนกลับ คนอย่างนนท์ไม่มีโกง “อ๋อ… ไม่เหมือนหรอกครับ หมอกน่ารักกว่าตั้งเยอะ” ไอ้เนี๊ยบเงียบไปสักพักหนึ่ง ก่อนที่มันจะยิ้มและตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หน้าตามันก็ดีอยู่หรอก แต่พอมันทำสีหน้านิ่งๆกวนบาทาแล้วมันทำให้ผมหัวเสียชะมัด “ไอ้…” ความอดทนของผมขาดทันที ยิ่งเห็นมันไม่ได้แสดงอาการอะไรเลยทั้งๆที่ผมจะพุ่งไปหามันแท้ๆมันยิ่งทำให้ผมโมโหจนแทบจะซัดหน้ามันอยู่แล้ว ดีที่ไอ้หมอกมันห้ามไว้ทัน “ไอ้นนท์มึงจะทำอะไร อย่าเสียมารยาทดิ มึงไปกวนไนท์เขาก่อนนะเว้ย” “ชื่อไนท์เหรอมึงอ่ะ ใช่ไนท์ที่แปลว่ากลางคืนปะ? แล้วกลางวันไม่ดีตรงไหน ทำไมถึงไม่ตั้งชื่อเดย์บ้าง” ตัวขาวยังกับหยวกกล้วยเสือกชื่อไนท์ มันคิดว่าตั้งชื่อแบบนั้นแล้วเท่ห์มากไง “ไม่ใช่หรอกครับ ผมชื่อ knight ที่แปลว่าอัศวินครับ จริงๆระดับการศึกษาแบบคุณก็น่าจะรู้จักคำนี้นะครับ แล้วก็อีกอย่างถ้าสงสัยเกี่ยวกับชื่อคนอื่น ถามเขาน่ะถูกแล้วครับ แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่เดาชื่อเขามั่วๆ อย่างชื่อคุณเองผมคิดว่ามาจาก นนทบุรี แต่ผมยังไม่ถามคุณเลย คงเป็นเพราะ…ที่บ้านผมสอนมาดีกว่า” อะ…อะไรนะ นนทบุรีเหรอ ไอ้…!! ความรู้สึกชาเกิดขึ้นไปทั่วทั้งหน้า ไม่สิ! มันเกิดขึ้นทั้งตัวต่างหาก ในชีวิตของนนทการณ์มีเรื่องกับใครมานักต่อนักแต่ไม่เคยรู้สึกเจ็บและชาไปทั้งตัวแบบนี้เลย เจ็บเหมือนโดนต่อยหน้าทั้งๆที่คนพูดมันยังยืนยิ้มหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแท้ๆ “เฮ้ย! มึงนี่แม่ง…” พอเรียกสติกลับมาได้ ผมก็พุ่งเข้าหาไอ้วิศวะปากหมานั้นทันที ไหนๆมันก็แต่งตัวเนี๊ยแบบนั้นแล้ว ปากสีชมพูระเรื่อของมันถ้าเติมสีแดงเข้าไปอีกหน่อยจะเป็นอะไรไป “อย่ามีเรื่องกันๆ” พอเห็นผมจะพุ่งตัวเขาใส่ ไอ้หมอกกระโดนเข้ามาขวางกั้นกลางระหว่างผมกับไอ้เนี๊ยบปากหมานั้นจนผมเกือบจะชักหมัดกลับไม่ทัน “มึงไม่ต้องไปกับมันแม่งละไอ้หมอก กูว่ามันไม่น่าไว้ใจ” ไม่ผ่าน! ไอ้คนนี้มันไม่ผ่าน เพื่อนมันก็คงเหมือนกัน อย่างงั้นก็ต้องไม่ผ่านด้วย หน้าตามันก็ดีอยู่หรอก แต่กวนประสาทชะมัด “คนนี้…แฟนหมอกเหรอ ทำไมถึงดูขี้หวงจัง” “ไม่ใช่ๆ นี่เพื่อนเราไม่ใช่แฟน” ไอ้หมอกปฏิเสธ “ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องทำตามที่เขาสั่งสินะ งั้นเรา…ไปกันเลยไหม” ไอ้เนี๊ยบมันยังถามไอ้หมอกต่อด้วยน้ำเสียงไม่สะทกสะท้าน ผมที่หน้าแดงเพราะความโกรธอยู่ตลอดนี้กลายเป็นอากาศธาตุรอบที่สอง “เอ่อ…นนท์กูขอโทษจริงๆวะ แต่กูต้องไปจริงๆ สัญญากับตะวันไว้แล้ว” ผมเห็นสีหน้าที่ทำตัวไม่ถูกของไอ้หมอกก็ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ถ้าจะให้คนขี้เกรงใจแบบไอ้หมอกเลือกว่าจะไปกับไอ้เนี๊ยบปากหมานั้นหรือจะกลับไปกับผม คนแบบมันคงเลือกไม่ได้ ถึงผมจะไม่ถูกชะตาแล้วก็ไมชอบขี้หน้ามันแค่ไหนก็ตามเถอะ แต่จะให้บังคับเพื่อนผมก็คงไม่ทำ “ไปน่ะกูไม่ว่าอะไรหรอก แต่คนแบบนี้ไว้ใจได้จริงเหรอ” ผมพูดพร้อมมองค้อนไปทางไอ้เนี๊ยบปากหมานั้น “คนแบบนี้ คือคนแบบไหนเหรอครับ?” ไอ้ไนท์ย้อนถาม “ก็คนแบบ…” “เออๆ ไม่มีอะไรหรอก เชื่อใจเพื่อนดิ” ไอ้หมอกรีบแทรกขึ้นก่อนที่ผมจะตอบอะไรออกไป “ก็เพราะมึงคือไอ้เพื่อนหมอกไงกูถึงเป็นห่วง ถ้าเป็นคนอื่นกูไม่เป็นห่วงหรอก แถมยังไปกับคนปาก…แบบนี้อีก” ถ้าเป็นคนอื่นน่ะกูจะเชื่อใจอยู่หรอก แต่นี่มันสายหมอก ปล่อยให้คลาดสายตาได้ที่ไหน เอ๋อก็ว่าแย่แล้วยังไม่ทันคนอีกต่างหาก “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ผมจะช่วยดูแลให้เป็นอย่างดีเลย” คนพูด พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่สะทกสะท้านหรือตื่นกลัวอะไรทั้งสิ้น ทุกๆอย่างบนหน้ามันราบเรียบหมด ยกเว้นสายตากวนๆที่มันยังส่งยิ้มมาไม่หยุด แต่นั้นก็ไม่เท่ากับมันฉวยโอกาสตอนไอ้หมอกมองมาทางผมแอบยักคิ้วกวนบาทาให้ผมทีหนึ่ง มันจงใจ ทุกๆอย่างที่มันพูด ทุกๆอย่างที่มันทำ มันจงใจกวนประสาทผม! “เฮ้ย! ไอ้เชี่ยนี่แม่ง” ไม่ทงไม่ทนมันแล้วโว้ย! จรรยาบรรณแพทย์ที่ผมเรียนรู้มา รวมไปถึงการวางตัวของเดือนคณะที่รุ่นพี่กองประกวดพูดกรอกหูผมทุกวันไม่มีผลอะไรแล้วในตอนนี้ ขอซัดหน้ามันสักทีเถอะวะ “กูจะไปแล้ว มึงกลับไปประชุมก่อนเหอะ มึงหายออกมานานแล้วเดี๋ยวคนเขาจะถามหา เป็นเดือนคณะหายตัวไปแบบนี้คนจะมองไม่ดี” ไอ้หมอกรีบดันตัวผมออกห่างก่อนที่ผมจะพุ่งเข้าไปซัดหน้าไอ้เนี๊ยบนั้น มันเอาเรื่องประชุมปีหนึ่งตอนเย็นมาอ้างซึ่งผมก็รู้ว่ามันเบี่ยงเบนความสนใจผมต่างหาก “เออ กูไปก่อนแล้วกันถ้างั้น ขืนอยู่ต่อมีหวังได้ต่อยคน” ผมมองค้อนอย่างเอาเรื่องไปที่ไอ้เนี๊ยบปากหมา ที่ตอนนี้มันยังคงยืนยิ้มอยู่อย่างเดิม โดยไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน “ไปได้แล้ว เขาประชุมอะไรกันมาเล่าให้กูฟังด้วย” ไอ้หมอกรีบออกแรงดันตัวผมเป็นเชิงไล่ “เออๆ กูไปก็ได้” “เดินดีๆนะครับ คุณหมอหมา” เสียงไอ้ไนท์ตะโกนมาจากด้านหลังทำให้ผมหยุดเดินและคิดว่าคงต้องหันกลับไปซัดหน้ามันจริงๆสักทีแล้ว แต่ไอ้หมอกก็ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ทำแบบนั้น มันออกแรงดันผมมากกกว่าเดิมจนเกือบจะสะดุดล้ม ดีนะที่ยังตั้งหลักได้ทัน ถ้านนทการณ์มาล้มต่อหน้าไอ้เนี๊ยบปากหมาแบบนั้นเสียฟอร์มแย่ ผมเดินกลับเข้ามาในคณะอย่างหัวเสีย ภาพตอนไอ้เนี๊ยบปากหมานั้นยักคิ้วกวนๆให้ผมยังติดตาผมอยู่เลย คนอะไรกวนประสาทชะมัด ผมพยายามสลัดภาพหน้ามันให้ออกจากหัวเท่าไหร่ยิ่งดูเหมือนจะจำหน้ามันได้ติดตามากขึ้น “ไอ้นนท์หายไปไหนมาวะ กระเป๋ามึงก็ทิ้งไว้ที่ห้องเนี่ย” กระเป๋าสีดำใบใหญ่ของผมกระแทกเข้าที่หน้าอกเต็มแรงทำให้สติผมกลับมา คนที่ฟาดกระเป๋าใส่ผมคือไอ้ลีโอที่บังเอิญเจอมันระหว่างทาง “แล้วคนอื่นๆล่ะ” ผมถามเพราะเห็นมันมาคนเดียว “ไม่รู้กูพึ่งออกมาจากห้องน้ำ สงสัยไปรอประชุมที่โถงคณะแล้วมั้ง” “อ๋อ เออๆ งั้นเรารีบตามไปเถอะ” “ว่าแต่เป็นไงบ้างวะ คนที่ชื่อตะวันอะไรนั้นเป็นยังไงบ้าง” “มันไม่ได้มา มันให้ไอ้เนี๊ยบเพื่อนมันมาแทน แม่งโคตรไม่น่าไว้ใจ กวนตีนกวนประสาทฉิบหาย” “คนอะไรวะชื่อเนี๊ยบ” ลีโอขมวดคิ้วทำหน้าสงสัย “มันชื่อไอ้ไนท์ แต่กูเรียกไอ้เนี๊ยบ เพราะกูไม่ชอบขี้หน้ามัน” “แล้วมึงไม่ชอบขี้หน้าเขาเรื่องอะไร” “ก็… ก็…” จริงแฮะ แล้วผมไม่ชอบขี้หน้ามันเรื่องอะไร “มันเป็นคนไม่ดี พูดจาไม่ถูกหู ปากหมาด้วย” ผมบอกอย่างไม่สบตา เพราะกลัวไอ้ลีโอมันจะจับได้ว่าผมกำลังอ้างน้ำขุ่นๆอยู่ “อ้าว แล้วหมอกไปกับเขาได้ไงอ่ะ” “กับไอ้หมอกมันก็เฉยๆ สุภาพ พูดจาดี แต่กับกู แม่ง…กวนตีน” "เหอะๆ กูชักอยากจะเจอหน้าคนชื่อไนท์อะไรนั้นแล้วว่าหน้าตาจะเป็นแบบไหน ทำไมถึงทำเพื่อนกูหัวเสียแบบนี้" "หน้ามันจะเป็นแบบไหนไม่รู้ รู้แต่กูเกลียดขี้หน้าแม่ง" ยิ่งลีโอถามแบบนี้ หน้าไอ้เชี่ยไนท์นั้นยิ่งลอยอยู่เต็มหัวผมไปหมด คนอะไรด่าแล้วยังมายิ้มให้อีก "ไปเกลียดขี้หน้าเขามากๆระวังนะไอ้นนท์ โบราณเขาว่าเกลียดแบบไหนจะได้แบบนั้น มึงอาจจะได้เด็กวิศวะเป็นเมียนะเว้ย!" "ปากหมาแบบนั้นน่ะเหรอ ไม่มีทางหรอก กูไม่มีทางเอาคนแบบนั้นมาทำเมียหรอก" “เออๆ ไม่เอาก็ไม่เอา ทำไมต้องทำหน้าหัวเสียด้วย ไปประชุมกันเถอะ ทำหน้าหล่อๆไว้เพื่อน เดี๋ยวสาวๆเห็นเดือนคณะทำหน้าบึ้งจะพากันขวัญเสียเอา เก๊กหล่อไว้เพื่อน” “เออๆ” ได้เด็กวิศวะเป็นเมีย… คำพูดของลีโอที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวผม เหอะ! ต่อให้พระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันสิบดวงผมก็ไม่มีทางไปเอาไอ้คนกวนตีนแบบนั้นมาทำเมียแน่นอน บางทีโบราณที่ว่าไว้ของไอ้ลีโออาจจะต้องว่าใหม่แล้ว เพราะคำพูดนั้นไม่มีทางใช้กับผมได้แน่นอน นนทการณ์จะมีเมียเป็นใครก็ได้แต่ต้องไม่ไช่...ไอ้ไนท์ ไอ้วิศวะปากหมาคนนั้น! To be continued… #เกลียดให้ตายสุดท้ายก็รัก ___________________ พูดคุย/ติดต่อ Facebook page : 404 Not Found Novels Twitter : @404_novel ​ ​

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

Spicy Short Story Set 3 รวมเรื่องสั้นเผ็ดซี้ด ชุดที่ 3

read
1K
bc

ทาสเรือนพระยา

read
1K
bc

The Night with the Beast ราตรีอสูร

read
1K
bc

Change you!!! เปลี่ยนจากนายให้กลายเป็นสาว

read
1.8K
bc

マイBLノーベル เขียนนิยายให้กลายเป็นรัก

read
1K
bc

เริ่มแรกจากงานวิวาห์

read
2.7K
bc

My Doctor อกเคยหักเพราะรักหมอ

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook