อารัมภบท
ผู้ใดไร้รักผู้นั้นเคยรักจนหมดใจ..
เสียงเครื่องมือทางการแพทย์ดังขึ้น ท่ามกลางเสียงเพลงเปิดคลอ ให้บรรยากาศในห้องผ่าตัดไม่ตึงเครียดจนเกินไป
เจ้าของใบหน้าสวยภายใต้หน้ากากอนามัยดูจริงจัง ในขณะเดียวกันก็แอบมือสั่นตอนกำลังเย็บปิดแผลให้คนไข้
ภาพจำบางอย่างยังติดตาเธอไม่หาย..
“คัท” เสียงหวานเอ่ยสั้น ๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผู้ช่วยข้างกายตัดไหมเย็บแผลให้
หลังจากใช้เวลาในการผ่าตัดร่วมสามชั่วโมง หมอพิมรักหรือแพทย์ประจำบ้านปีหนึ่ง ก็เดินออกจากห้องผ่าตัดด้วยสีหน้าเลื่อนลอย พลอยหายใจได้คล่องหน่อยหลังต้องเผชิญหน้ากับอาจารย์หมอสุดโหด
ทว่าเหมือนจะหนีเสือปะจระเข้เสียมากกว่า เมื่อดันต้องมาเจอหน้ากับบุคคลที่เธอหลีกเลี่ยงมาหลายวัน
“พิมรัก” ชายร่างสูงในชุดสครับสีเขียวยืนดักรออยู่ สีหน้าดูมีความหวังทันทีที่เห็นร่างบาง
เจ้าของชื่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ แสร้งทำเหมือนไม่ได้ยินแล้วเดินผ่านหน้าเขาไป
“พิมฟังพี่ก่อนได้มั้ย”
“พิมมีฟอลโล่วเคสค่ะ”
“ขอแค่ห้านาทีก็ยังดี สามนาทีก็ได้ครับน้องพิม”
“ไม่ได้ค่ะ รบกวนช่วยหลีกทางด้วย”
ทั้งสองเล่นวิ่งไล่ตามกัน โดยที่พิมรักไม่แม้แต่จะมองหน้าอีกฝ่าย กระทั่งชายหนุ่มเดินมาขวางหน้าเธอไว้ ทำให้ต้องหยุดชะงักฝีเท้าโดยอัตโนมัติ
“ไม่มีงานทำเหรอคะ หรือช่วงนี้ไม่มีเคสก็เลยวิ่งตามพิมเหมือนเด็กน้อยแบบนี้” พิมรักเหน็บแหนมอย่างไม่ใส่ใจนัก
อันที่จริงไม่อยากเปิดปากเสวนาด้วยซ้ำ..
“ก็พิมไม่ยอมฟังพี่อธิบายเลย โทรหาก็ไม่รับ ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ พี่ถึงต้องทำแบบนี้เธอเข้าใจพี่หน่อยนะ”
“แล้วพี่อยากให้พิมฟังอะไรคะ ฟังพี่แถเหรอ พิมไม่ใช่เด็กน้อยนะคะพี่ณดล”
“พี่แค่อยากขอโอกาสจากน้องพิมอีกสักครั้ง”
“อย่าพูดอะไรให้มันน่าขำนักเลยค่ะ”
“แต่พี่ทำผิดพลาดแค่ครั้งเดียวเองนะพิม เธอจะไม่ให้โอกาสพี่หน่อยเหรอ”
รุ่นพี่แพทย์ประจำบ้านปีสี่อย่างณดล ทำท่าจะเข้ามาแตะตัวเพื่ออธิบาย แต่พิมรักเป็นฝ่ายผละออกเชิงรังเกียจ
ทั้งที่เมื่อก่อนพวกเขาเคยเป็นคนรักกัน..
“ให้โอกาสพี่ได้แก้ไขอีกครั้งนะครับ สัญญาว่าจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีก”
น้ำเสียงอ้อนวอนของณดลทำใจเธอกระตุกวูบ ก่อนจะหลุบตาหนีไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว แล้วรีบเดินเบี่ยงเลี่ยงที่จะสนทนาต่อให้ใจต้องเจ็บ
โชคดีที่เขาไม่ได้เดินตามมาให้รำคาญใจ พิมรักถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับอย่างคิดไม่ตก
“สัญญากับผีเหอะ” หญิงสาวสบถด้วยอารมณ์ขุ่นแค้น
เหยียบย่ำความรักของเธอไม่มีชิ้นดีขนาดนั้น ยังกล้าเสนอหน้าตัวเองมาขอโอกาสอีกงั้นเหรอ
หลงเชื่อก็โง่เต็มทีแล้ว..
“กำลังไป”
สุ้มเสียงทุ้มต่ำดูน่าเกรงขามดังขึ้นจากด้านหลัง ทำเอาร่างบางรีบหันขวับกลับไปมองเพราะรู้สึกคุ้นเสียงเหลือเกิน
“อย่างอแงเป็นเด็ก บอกว่ากำลังไป”
น้ำเสียงเชิงดุดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท พอหันไปมองก็พบเข้ากับแผ่นหลังร่างสูงสง่า ราวหนึ่งร้อยเก้าสิบเอ็ดเซนติเมตรเดินผ่านหลังไปไม่ทันได้เห็นหน้า
แต่น้ำเสียงของเขาเธอจำได้ดี..
‘ไอ้สวะนั่นมันกำลังนอกใจเธออยู่’
พอตั้งสติได้ชายคนนั้นก็เดินไกลออกไป ส่งผลให้พิมรักตะโกนไล่หลังตามไปในทันที
“คุณคะ”
“.....”
“เดี๋ยวก่อนสิคะคุณ”