ตอนที่ 12 สืบ

1542 Words
“ไอ้อีธานสาวที่ไหนมาส่งมึงวะ?” พอเห็นเพื่อนรักเดินเข้ามาที่โต๊ะม้าหินประจำกลุ่ม โจอี้เอ่ยแซวทันที โดยมีมาร์ติน กับแม็ก และรุ่นน้องนั่งกันอยู่ที่บริเวณนั้นด้วย โชคยังดีที่รถของเธอฟิล์มดำสนิท ไม่งั้นไอ้มาร์ตินคงรู้แน่ว่าคนที่มาส่งเป็นใคร เขาได้แต่ยักคิ้วทำสีหน้าเรียบเฉยไม่ตอบอะไร และหย่อนตัวนั่งอย่างไม่มีพิรุธ “มีเด็กใหม่แล้วเหรอมึง? อย่างลืมเคลียเด็กเก่าล่ะ วันนี้นินิวมาหามึงถึงคณะ” อีธานขมวดคิ้วหนา หันใบหน้าที่มีแต่คำถามไปหาทางต้นเสียงทันที “มาทำไมวะ?” “ไม่รู้ดิ มึงไปทำอะไรให้น้องเขาติดใจหรือเปล่าล่ะ” แม็กพูด อีธานทำสีหน้าครุ่นคิดทั้งที่เขาเคยตกลงกับบรรดาผู้หญิงที่เขาไปมีอะไรด้วยแล้วว่าไม่ต้องมาตามอะไรเขาทั้งนั้น ถ้าอยากเจอให้ไลน์ทิ้งไว้ ถ้าเขาอยากจะทักไปหาเอง ความคิดนั้นหยุดไปเมื่อมาร์ตินมองนาฬิกา และได้เวลาขึ้นเรียน “ไป...” Rrrrrr เธอมองเบอร์ของคนที่โทรเข้าแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ "สวัสดีค่ะพ่อ" "เรื่องที่ว่าไปถึงไหนแล้วลูก?" เสี่ยปืนนักการเมืองชื่อดังประจำจังหวัดเอ่ยถามลูกสาวด้วยเสียงที่ร้อนรน 'เฮ้อ...เรื่องที่พ่อหมายถึงคงไม่พ้นเรื่องบ้านที่กำลังจะถูกยึดของพ่อสินะ' เธอบ่นพึมพำกับชะตากรรมที่ต้องเจอ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย "หนู...." ไม่ทันที่เธอจะพูดจบ พ่อของเธอก็พูดแทรกขึ้นมา "พรุ่งนี้มันจะมายึดบ้านของเราแล้วนะลูก" "พ่อคะ...หนูคุยได้แค่ยืดเวลาชำระหนี้ออกไปได้แค่นั้น ส่วนเรื่องมาร์ตินเขามีคนของเขาอยู่แล้ว เขาก็คงไม่มาสนใจหนูหรอกค่ะพ่อ" "ใคร? ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร" เสี่ยปืนถามด้วยน้ำเสียวที่หงุดหงิด เขาไม่น่าจะเดาผิดที่มาเฟียอย่างมาร์ตินก็สนใจลูกสาวของเขาอยู่เหมือนกัน ไม่งั้นวันที่จับตัวเธอไปคงไม่ถนอมเธอได้ขนาดนี้แน่ๆ คงจะปู้ยี่ปู้ยำลูกสาวคนสวยของเขาไปตั้งแต่คืนนั้นไปแล้ว "เธอเรียนอยู่มหาลัยเดียวกับมาร์ติน....หนูยืดเวลาการใช้หนี้ให้พ่อได้แล้วนะคะ พ่อไปหาเงินมาใช้หนี้เขาเถอะค่ะ" "เงินตั้ง 10 ล้าน พ่อไม่รู้จะไปหาที่ไหน อีกอย่างดอกเบี้ยมันก็เพิ่มขึ้นทุกวัน ป่านนี้ไม่รู้ปาไปเท่าไรแล้ว" "เอาคอนโดที่หนูอยู่ไปขายก็ได้ค่ะ" "ไม่เอา มันเป็นสมบัติของหนู พ่อไม่เอา" "แล้วมันต้องยังไงล่ะคะพ่อ" "เอางี้....หนูไปสืบมาว่าแฟนของมาร์ตินคือใคร?" "พ่อจะทำอะไรเธอ?" "ทำให้เธอหายไปจากมาร์ติน" "มันเกินไปแล้วนะคะพ่อ...หนูไม่อยากทำ" ปิ่นมุกเริ่มกลัวในสิ่งที่พ่อเธอกำลังคิด "พ่อไม่ได้จะฆ่าเธอ...แค่ขู่ให้เธอกลัว" "คนเขารักกันพ่อจะห้ามเขาได้ยังไง" "พ่อคิดว่าถ้าไม่มีเด็กนั่น ยังไงมาร์ตินก็ต้องมาสนใจลูกสาวของพ่อแน่นอน" "แต่...." "ทำตามที่พ่อบอก...ส่งรูปเธอมาให้พ่อ และไปสืบมาว่าบ้านเธออยู่ไหน" สายถูกตัดไป พร้อมกับเสียงถอนหายใจออกมายาวของเธอ “ทำไมพ่อต้องทำแบบนี้ด้วยนะ ฉันไม่ไหวจริงๆ” รถจอดสนิท เธอเดินเข้ามาที่ใต้ตึกคณะนิเทศอย่างคนหมดแรง เพราะเหมือนปัญหาทุกอย่างมันจะมาสุมไว้ที่เธอคนเดียว “ยัยปิ่น...แกมาแล้วเหรอ” ขนมผิงรีบเอ่ยทัก “วันนี้เรามีเรียนวิชาเดียว...หลังเลิกเรียนเราไปดูหนังกันไหม?” คัพเค้กเอ่ยชวน เพราะจะไล่ใบหน้าสวยที่เอาแต่ทำหน้าบึ้งให้หายเป็นปกติ “วันนี้ฉันต้องไปทำธุระของพ่อวะแก คงไปกับพวกแกไม่ได้” “เหรอวะ?” “แล้วทำไมหน้าแกบูดเป็นตูดลิงอย่างนั้นล่ะ” “เหนื่อย” “เหนื่อยเรื่องอะไรไหนบอกหมอซิ” ขนมผิงเข้าไปกอดปลอบใจ จนคนโดนกอดออกอาการน้ำตาคลอ เพราะเรื่องที่อยู่ในใจมันบอกใครไม่ได้ สิ่งที่พ่อเธอจะทำมันเกินกว่าคนใสๆ อย่างเพื่อนเธอจะรับได้ รวมทั้งตัวเธอด้วย แต่ปัญหานี้มันคิดไม่ตกเลยจริงๆ เธอหันไปมองหน้าเพื่อนรักที่โอบกอดเธอเอาไว้พร้อมกับรีบกระพริบตาให้น้ำตามันกลับไปที่เดิมให้ได้มากที่สุด “ไม่เล่าก็ไม่เป็นไร พวกฉันเข้าใจ เอาไว้วันไหนแกพร้อมค่อยมาเล่าให้ฟังแล้วกัน” ขนมผิงพูด “แต่ไม่ใช่เรื่องคนเลวอย่างไอ้พี่บรู๊คใช่ไหม?” “ยัยเค้ก” ขนมผิงรีบจิปากห้ามคัพเค้กไม่ให้พูดถึงคนรักเก่าที่ทำกับเพื่อนรักไว้เจ็บแสบ “ไม่ใช่คนมักมากคนนั้นหรอก” ปิ่นมุกรีบบอก พร้อมทั้งคิดถึงตอนที่เขาเข้ามาพูดใส่มาร์ติน “ไปเรียนกันเถอะ” พวกเธอเดินขึ้นไปที่ตึกเรียนพร้อมกัน ทั้งที่ปิ่นมุกยังไล่ใบหน้าอมทุกข์ออกไปไม่ได้ทั้งหมด ติ้ง.... “รีบส่งรูปเด็กคนนั้นมาให้พ่อ” ปิ่นมุกมองดูข้อความที่ส่งเข้ามา และก็ถอนหายใจออกมายาว วันนี้เธอลอบถอนหายใจมานับไม่ถ้วน “ต้องรีบอะไรขนาดนั้นด้วย” เธอบ่นพึมพำในใจคนเดียว 11:30 น. เป็นเวลาที่เธอเลิกเรียนพอดี และตอนนี้ต้องไปจัดการธุระของพ่อให้เสร็จ “ฉันไปก่อนนะพวกแก...” ปิ่นมุกฉุดคิดขึ้นมาได้ว่าถ้าขับรถคันเดิมไป คนบ้าอย่างอีธานต้องจำได้แน่ และวันนี้เธอก็พึ่งไปส่งเขาถึงหน้าคณะ “ยัยผิง...เราขอยืมรถหน่อยสิ” “แล้วรถแกล่ะ?” “แลกกันแกเอากุญแจรถฉันไป น้ำมันเต็มถังขับไปถึงระยองยังได้” เธอพูดเย้าก่อนที่ขจะแลกกุญแจรถกับเพื่อนรักที่ทำหน้างงได้สำเร็จ พอได้กุญแจรถปิ่นมุก รีบเดินออกจากห้องเรียน ตรงไปที่รถของตัวเอง และขับไปที่มหาลัยของมาร์ติน หวังว่าจะเจอเขาและเธออยู่ด้วยกัน เธอจอดรถของขนมผิงไว้ที่หน้าคณะวิศวะ และแอบมองไปที่ใต้ตึก ปิ่นมุกมองเห็นเป้าหมายของเธอทันที มาร์ตินนั่งอยู่กับเธอจริงๆ และกำลังจะเดินออกไปจากบริเวณนั้นด้วยกัน “พี่ตินวันนี้อาริสขอไปปีนหน้าผาจำลองนะคะ” “พี่อยากไปด้วย แต่พี่ต้องส่งงานอาจารย์” น้ำเสียงออดอ้อนของคนสองคนที่พูดคุยกันอย่างสนิทสนม ฟังดูก็รู้ว่ามาร์ตินรักเด็กคนนี้มากขนาดไหน แล้วเธอจะไปแทรกกลางระหว่างเขาและเธอได้ยังไงกัน พ่อเธอคงคิดผิดแน่ๆ ปิ่นมุกเดินตาม และแอบถ่ายรูปคนทั้งคู่เอาไว้ พร้อมทั้งซูมใบหน้าสวยของแฟนเด็กของมาร์ตินเอาไว้อย่างคมชัด “โอ๊ยยยยย” “ขอโทษค่ะ” เธอหมุดตัวกลับมาก็ชนเข้ากับผู้ชายร่างหนาเข้าอย่างจัง “ยังไม่เลิกพยายามอีกหรือไง?” ร่างหนาประคองคนที่จะล้มเอาไว้ พร้อมยิงคำถาม “นาย” ปิ่นมุกรีบเอามือถือยัดลงไปในกระเป๋า พร้อมทั้งหันไปพูดกับร่างหนาด้วยใบหน้าที่เย่อหยิ่ง “มันเรื่องของฉัน” เธอสะบัดตัวออก และรีบวิ่งกลับไปที่รถทันที เธอมุดตัวแทรกเข้าไปนั่งในรถ และล็อคประตูเอาไว้ กลัวคนบ้าอย่างอีธานจะตามมา ติ้ง.... “อยู่ไหน?” เธอมองข้อความของอีธาน แต่ก็ไม่ยอมตอบ เพราะกลัวคนบ้าอย่างเขาจะซักถามเธอไปมากกว่านี้ “ชิ! ทำไมฉันต้องเจอนายด้วย” เธอบ่นพึมพำ และฉุดคิดได้ว่า อาริสกำลังจะไปปีนหน้าผาจำลอง เธอขับรถมาที่หน้าคณะของอาริสอีกครั้งเห็นอาริสกับเพื่อนกำลังขึ้นไปที่รถ เธอเลยขับรถตามอาริสไปติดๆ วันนี้เธอได้รูปของอาริสมาแล้ว และรู้ว่าอาริสเรียนอยู่คณะนิเทศเหมือนกันกับเธอ ปิ่นมุกนั่งอยู่ในรถนานนับชั่วโมง ก่อนที่อาริสจะปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง เธอขับรถตามอาริสไป และก็ไปจอดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งที่ดูใหญ่โตมาก รถสปอร์ตสีดำขลับ ทะเบียนตอง 9 ที่จอดอยู่ในบ้านก่อนหน้านี้ มันเป็นรถของคนเลวคนนั้นที่เธอเคยนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถอยู่พักใหญ่ “ไอ้พี่บรู๊ค....” เธออุทานออกมาเบาๆ “อย่าบอกนะว่าเธอคือน้องสาวของพี่บรู๊ค!!!” มันไม่ยากที่จะเดาไปทางนั้น เพราะแฟนของเธอคือมาร์ติน บ้านหลังนี้คงเป็นของพี่บรู๊คสินะ ถ้าพ่อของเธอจับอาริสไป ก็เท่ากับเธอได้แก้แค้นคนเลวอย่างไอ้พี่บรู๊คด้วยสินะ ความคิดระหว่างความดีกับความเลวในตัวเธอเริ่มขัดแย้งกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD