หวงก้าง 1

1501 Words
ไม่รู้ว่าวันนี้ฝนจะตกหนัก ฟ้าจะร้อง น้ำจะท่วม หรือไม่ก็แห้งแล้งจนขาดแคลนน้ำก็ไม่ทราบ เพราะคนที่ไม่เคยสนใจไยดีกันเลย ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาปีกว่า วันนี้กลับอาสาพาศยามลมาเก็บค่าเช่าแผงที่ตลาด และยังทำหน้าเป็นยักษ์ใส่พ่อค้าหนุ่มๆ ที่เอ่ยทักทายศยามลด้วยซ้ำ “นี่ครับคุณพริก” พ่อค้าหนุ่มร้านขายผลไม้ ส่งเงินค่าเช่าแผงให้ศยามล แค่นั้นยังไม่พอ ยังยื่นถุงองุ่นส่งให้หญิงสาวอีกด้วย “พริกไม่ได้ซื้อนะคะ” “ผมให้ครับ เจ้าของสวนเขาเพิ่งเก็บเอามาส่งที่แผงเมื่อเช้านี้เอง สดๆ เลย ผมเลยอยากให้คุณพริกเอาไปทาน” คนที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ ชักสีหน้าไม่พอใจอย่างไม่รู้ตัว ตวัดสายตาจ้องหน้าพ่อค้าหนุ่มที่ส่งยิ้มให้ศยามลเขม็ง เสน่ห์แรงไม่เบานะยัยพริก “ขอบคุณนะคะ แต่ครั้งต่อไปไม่ต้องแล้วนะคะ ของซื้อของขายเอามาให้แบบนี้ขาดทุนแย่” ดูเอาเถอะ! นี่ขนาดเห็นเขายืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ ยังพูดคุยกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตา หรือว่าเขาควรทำให้ยัยพริกนรกนี่ท้องขึ้นมาจริงๆ ผู้ชายคนอื่นจะได้รู้สักที ว่าผู้หญิงคนนี้มีผัวแล้ว และผัวก็ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ด้วย “ไม่เป็นไรครับ เรื่องเล็กน้อยเอง อยากให้เสี่ยอำนาจชิมด้วยน่ะครับ” “ได้ค่ะ งั้นพริกไปนะคะ” “ควรจะไปได้ตั้งนานแล้ว เหลืออีกตั้งครึ่งตลาดกว่าจะเสร็จ มัวแต่ยืนคุยอยู่ได้” ศยามลยิ้มให้พ่อค้าหนุ่มที่หน้าเจือนไป แต่ก็ยังหันมายิ้มให้พยัคฆ์ตามมารยาท ด้วยรู้ว่าพยัคฆ์คือลูกชายเสี่ยอำนาจ แต่ที่ไม่รู้คือผู้หญิงที่มาเก็บค่าเช่า คือผู้หญิงของลูกชายเสี่ยอำนาจ ส่วนศยามลหันมองหน้าคนปากไม่ดีอย่างตำหนิ ถ้ามาแล้วจะมาทำตัวไม่น่ารักแบบนี้ เธอมาคนเดียวยังจะดีเสียกว่า “สวัสดีค่ะคุณเสือ วันนี้มาคุมงานเองเลยเหรอคะ” แม่ค้าร้านถัดมาเอ่ยถาม เพราะแทบจะไม่เห็นพยัคฆ์มาที่ตลาดเลยด้วยซ้ำ หากไม่มีเรื่องราวสำคัญอะไร “ครับ” “เดี๋ยวป้าเอาผักสลัดไปให้ทานนะคะ ปลูกเองค่ะ ทานกับเมี่ยงปลาเผาอร่อยมาก” “ไม่ต้องหรอกครับ ของซื้อของขาย เก็บไว้ขายเถอะ ถ้าอยากกินเดี๋ยวผมมาซื้อดีกว่า” “ไม่เป็นไรค่ะ เอาไปฝากเสี่ยด้วยนะคะ” เมื่อปฏิเสธไม่ได้ พยัคฆ์จึงจำต้องรับถุงผักสลัดที่ป้าเจ้าของร้านผักยื่นมาให้ “เอาถุงองุ่นมานี่ซิ” และยังเอ่ยสั่ง ให้ศยามลเอาถุงองุ่นในมือส่งมาให้ตัวเอง ไม่ใช่จะช่วยถือ แต่ชายหนุ่มกลับยื่นส่งให้ป้าเจ้าของร้านผัก “แลกกันครับ ป้าให้ผักผม ผมให้องุ่นป้า” “คุณเสือ” ศยามลเอ่ยเรียกชายหนุ่มเป็นการเตือน เพราะตอนนี้เจ้าของร้านผลไม้ มองถุงองุ่นที่ให้มาตาละห้อยแล้ว คงไม่ต้องบอกว่าได้ยินสิ่งที่พยัคฆ์พูดหรือไม่ “รับไปสิครับ ถือว่าเป็นน้ำใจจากผม” “ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ป้าเจ้าของร้านผักก็ยื่นมารับด้วยรอยยิ้มแห้งๆ ก็เห็นอยู่เต็มตา ว่าพ่อค้าร้านผลไม้ เอาองุ่นถุงนี้ให้ศยามลไปทาน “ไปสิ ยืนบื้ออยู่ทำไม” ศยามลอยากจะด่า คนที่ทำอะไรไม่คิดถึงความรู้สึกคนอื่นจริงๆ ทำแบบนี้ต่อหน้าพ่อค้าผลไม้ได้ยังไง คิดบ้างไหมว่าเขาจะเสียความรู้สึกขนาดไหน เขาอุตส่าห์แบ่งมาให้ชิม ถึงจะไม่อยากกิน ก็ไม่สมควรจะยกให้คนอื่นต่อหน้าต่อตาเขาแบบนั้น ศยามลกระแทกลมหายใจออกมาอย่างเอือมระอาให้คนเจ้าอารมณ์ รีบเดินหนีไปเก็บแผงต่อไป โดยไม่สนใจคนที่เดินตามหลังมาเลยสักนิด พูดคุยทักทายกับแม่ค้าพ่อค้าในตลาดอย่างคุ้นเคย จนกระทั่งมาถึงแผงสุดท้าย “น้ำมะพร้าวปั่นไม่ใส่นม ของโปรดคนสวยพร้อมด้วยค่าเช่าที่หนึ่งร้อยบาทครับ” หัวใจผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังมันกำลังเดือดปุดๆ เหมือนน้ำที่อยู่บนเตากำลังเดือด เสน่ห์แรงขนาดนี้เลยหรือไง “ขอบคุณค่ะ” กำลังจะยื่นมือไปคว้าแก้วน้ำ และเงินที่เจ้าของร้านขายกาแฟยื่นมาให้ แต่กลับถูกมือของอีกคนยื่นมาตัดหน้า คว้าไปต่อหน้าต่อตาเสียก่อน “ขอบใจนะ กำลังหิวพอดีเลย” ศยามลหันมองคนที่กำลังดูดน้ำของเธอหน้าตาเฉย นี่เขาเป็นบ้าอะไรของเขากัน ผีเข้าหรือไงนะ ถึงได้ผิดเพี้ยนแปลกประหลาดได้ถึงขนาดนี้ “เอ่อ...ถ้า ถ้าคุณเสือกินแก้วนั้นแล้ว พริกจะเอาแก้วใหม่ไหม เดี๋ยวพี่ปั่นให้ใหม่” “ไม่ต้องหรอก กินแก้วเดียวกันนี่แหละ เธอไม่ถือหรอกเนาะ หรือว่าเธอรังเกียจที่หลอดมันอาจจะติดน้ำลายฉัน แต่ทำมากกว่ากินน้ำแก้วเดียวกันยังทำมาแล้วเลย จะรังเกียจทำไม จริงไหม” “คุณเสือไปรอที่รถก่อนเถอะค่ะ อาการในตลาดมันร้อน เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไป” ใจจริงศยามลอยากบอกว่า เดี๋ยวจะเป็นบ้าซะก่อนมากกว่า คนอะไรกวนประสาทได้ทุกที่ทุกเวลา “ยืนรอตรงนี้เดี๋ยววนรถมารับ” พูดจบก็เดินหนีไป ศยามลก็ได้แต่ส่ายหน้าให้คนที่ผิดเพี้ยนไปจากทุกวัน “ดูคุณเสือเขาแปลกๆ เนาะ หึงพริกหรือเปล่า” เจ้าของร้านน้ำ ที่ศยามลสนิทด้วยที่สุดในตลาดเอ่ยขึ้นยิ้มๆ ทว่าคนถูกแซวกลับรีบส่ายหน้า “ไม่มีทางหรอกพี่ชิน เขาเกลียดพริกยิ่งกว่าอะไรอีก” “แล้วทำไมวันนี้ถึงมาด้วย” “นี่แหละที่พริกก็ยังสงสัย ว่าทำไมเขาถึงมาด้วย ไม่รู้จะมาแกล้งอะไรพริกอีกหรือเปล่า ร้อยวันพันปีไม่คิดจะสนใจ” “หรือว่าเขาแอบสนใจพริกขึ้นมาแล้ว” “ยาก...” ปี๊ดๆๆๆ ศยามลสะดุ้ง หันกลับไปมองรถที่ไร้มารยาท บีบแตรเสียงดังลั่นตลาด และเมื่อเห็นรถก็ได้แต่ส่ายหน้า หันกลับมาบอกลาชิน “พริกไปก่อนนะพี่” “เออๆ ไปเถอะ” ศยามลโบกมือลา รีบเดินไปหารถยนต์ของพยัคฆ์ที่จอดรอ ยังไม่ทันจะปิดประตูรถดีด้วยซ้ำ ชายหนุ่มก็กระชากรถออก จนศยามลหน้าเกือบคะมำชนคอนโซลรถ “นี่คุณเสือ ขับให้มันดีๆ หน่อยไม่ได้หรือไง หัวพริกเกือบกระแทกหน้ารถ” หันมาแว้ดใส่คนขับที่นั่งหน้าไม่สบอารมณ์ “เสน่ห์แรงจริงนะ ผู้ชายรุมตอมกันทั่วตลาด นี่ใช่ไหมที่ทำให้เธอพูดว่าอยากมีคนอื่นวันนั้น เพราะว่ามีพ่อค้าในตลาดมาขายขนมจีบแบบนี้นี่เองใช่ไหม อย่าให้รู้นะ ว่าเธอแอบมีผู้ชายคนอื่นลับหลังฉันพริก ถ้าฉันรู้ฉันเอาเธอตายแน่” “พริกไม่เคยคิดจะทำอะไรแบบนั้น” ย้ำชัดเสียงหนักแน่น “ก็ดี จำไว้นะ ว่าถ้าฉันยังไม่เขี่ยเธอทิ้ง ยังไม่ครบกำหนดสองปี ที่เธอต้องอยู่เป็นของเล่นฉัน เธอไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับผู้ชายคนไหนทั้งนั้น” ศยามลเจ็บแปลบไปทั้งใจ นัยน์ตาสั่นระริกแดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเสียใจ มือทั้งสองข้างกำเข้าหากัน เพื่อกลั้นความเสียใจไม่ไหลหลั่งไหลออกมากับคำพูดของพยัคฆ์ ที่ย้ำชัดถึงชีวิตที่ไร้ค่าของเธอในอุ้งมือเขา ความคิดหลงตัวเองก่อนหน้า ว่าเขาอาจจะหึงเธอ หวงเธอหรือรู้สึกอะไรกับเธอบ้าง ตอนนี้ไม่มีเหลือ ที่เขาเช็กโทรศัพท์ ที่เขาพาเธอมาตลาด เขาก็แค่อยากเห็นกับตา ว่าเธอแรดหรือมีผู้ชายคนไหนซ่อนไว้หรือไม่แค่นั้น “ค่ะ พริกจะจำไว้ ว่าพริกคือของเล่นของคุณเสือ ถ้าคุณเสือยังไม่เขี่ยทิ้งพริกก็ไม่มีสิทธิ์ไปไหน” หันมองออกไปด้านข้าง ไม่อยากเห็นหน้าคนใจร้าย ที่ขยันพูดให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจอยู่ร่ำไป เมื่อไหร่เรื่องบ้าๆ พวกนี้มันจะจบลงเสียที เมื่อไหร่เวลาจะเดินไปถึงสองปีสักที เธออยากมีอิสระเต็มทน จะได้ไม่ต้องมานั่งทนคนอื่นดูถูกเหยียดหยามขนาดนี้ คนถูกหันหน้าหนีก็ได้แต่กระแทกลมหายใจออกมาหนักๆ รู้อยู่เต็มอกว่าศยามลเสียใจกับคำพูดของตัวเอง เพราะสายตาที่เธอมองมายังเขา แสดงออกชัดเจนไม่ปิดบัง และมันยังทำให้หัวใจเขาหน่วงด้วยซ้ำ แต่แล้วยังไง เขาต้องแคร์เธอไหม ในเมื่อเธอก็แค่ของเล่น อย่างที่เขาพูดออกมาจริงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD