ทาสรับใช้เจ้านายมาเฟีย
ตอน ดูแลให้หมดทุกอย่าง เสื้อผ้าหน้าผม
เช้าวันถัดมา
สาวรับใช้ในชุดเดรสขาวกำลังเข็นรถเข็นของเจ้านายน้อยออกจากบ้าน
"สวัสดีครับคุณแซก คุณนริศรา" ชายแก่ผมขาวโค้งคำนับให้กับน้องชายมาเฟีย และยังให้เกียรตินริศราด้วย ถึงแม้เธอจะเป็นแค่สาวรับใช้
"สวัสดีค่ะลุงอาจ" เด็กสาววัยแรกแย้มยกมือไหว้ชายแก่ เค้าเป็นสมาชิกตั้งแต่รุ่นพ่อของคุณเอส นับว่าเป็นคนเก่าแก่ที่สุดในหมู่แก๊งมาเฟีย
"ป่ะไปกันเถอะลุง รีบไปตรวจให้มันเสร็จไวๆ จะได้มีเวลาเหลือไปเที่ยวห้างนานๆ หึ! ๆ"
คุณแซกเงยหน้าเอ่ยกับลุงแล้วหันมาส่งยิ้มให้กับสาวใช้ที่ยืนข้างหลัง
ฮิ! ๆ นริศราส่งยิ้มตอบเจ้านายน้อย เธอรู้สึกว่าแซกช่างใจดีและอ่อนโยน ผิดกับพี่ชายต่างมารดาของเค้ามาก
คุณลุงช่วยประคองเจ้านายน้อยขึ้นนั่งในรถตู้สีขาว มันเป็นรถธรรมดาที่ไม่ได้กันกระสุน และไม่มีบอดี้การ์ดคอยติดตามอารักขาด้วยซ้ำไป
สาวใช้ร่างบางตามขึ้นมานั่งข้างหนุ่มตัวผอมผิวขาวซีด เธอล้วงเอาสมุดโน๊ตออกมาทบทวนรายการของใช้และวัตถุดิบทำอาหารที่ต้องซื้อเข้าบ้าน
บรืน! ๆ ๆ ลุงอาจขับรถตู้แล่นผ่านหน้าประตูเหล็กหนา ชายฉกรรจ์ที่ยืนเฝ้าทางออกต่างก็โค้งคำนับให้กับลุงแก่ๆ นับว่าให้เกียรติกันอยู่ไม่น้อย
"นี่ ดูอะไรนักหนาฮะ" นายน้อยสะกิดเอวของสาวรับใช้จนเธอสะดุ้ง
"ก็ทบทวนของที่ต้องซื้อไง ถ้าขาดตกอะไรไปมีหวังถูกคุณเอสเอาตายแน่" นริศราตอบโดยที่ยังก้มมองสมุดโน๊ต
"พี่ไม่เอาเธอตายหรอก แย่สุดก็แค่สั่งให้แก้ผ้า ฮ่า! ๆ ๆ ๆ" นายน้อยหัวเราะร่วน วันนี้ดูท่าจะอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย เค้าเป็นแบบนี้เสมอเมื่อได้ออกจากบ้าน เพราะปกติแทบจะไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย
"ตอนที่ไปซื้อของในห้างเราแวะกินไอศกรีมกันด้วยดีไหม ฉันจะกินให้เยอะๆเลย จะได้อ้วนขึ้นอีกนิด" หนุ่มหน้าขาวเอ่ยถาม
"ฮิ! ๆ ได้สิ เราจะรีบซื้อของให้ครบไวไว จะได้มีเวลานั่งนานๆ ฮิ! ๆ" สาวรับใช้เอ่ยกับนายน้อยแบบเพื่อนสนิท ทั้งสองมองไปข้างหน้ากระจกรถอย่างตื่นเต้น
หลังจากถึงโรงพยาบาลคุณลุงอาจก็เข็นรถพาคุณแซกขึ้นไปตรวจ นริศราก็ตามขึ้นมาฟังอาการและจดทุกอย่างที่หมอสั่งลงในสมุดเล่มเดิม
ราวๆสิบเอ็ดโมงเช้าทั้งสามคนก็มาที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆกับโรงพยาบาล สาวใช้กึ่งวิ่งกึ่งเดินเลือกซื้อของกินของใช้อย่างรีบเร่ง คุณลุงก็เข็นรถตามหลังเธอต้อยๆ คุณเเซกก็นั่งรถเข็นไฟฟ้าตามหลังทั้งสองและช่วยหยิบของบนชั้นวางที่อยู่ต่ำๆโยนใส่รถเข็น
พอถึงเที่ยงวันทั้งสามคนก็มานั่งทานไอศกรีมในห้างและพูดคุยกันสนุกสนาน คุณลุงเล่าเรื่องลูกสาวที่เค้าส่งไปเรียนต่างประเทศอย่างภาคภูมิใจ คุณแซกเล่าเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่เค้าอยากไปอย่างตื่นเต้น ส่วนสาวใช้ตัวน้อยพูดแต่เรื่องของกินที่เธออยากกิน
ราวๆบ่ายโมงครึ่งทั้งสามคนก็ออกมารับประทานอาหารที่ร้านริมแม่น้ำ จากนั้นก็ไปนั่งร้านกาแฟจนถึงสี่โมงเย็นจึงกลับบ้านหรูกลางทะเลสาบ
นริศรารีบพาคุณแซกขึ้นไปนอนเพราะทั้งวันเค้ารู้สึกอิดโรยมาก เธอให้ยาเค้ากินก่อนนอนแล้วจึงขึ้นไปห้องทำงานของเจ้านายใหญ่เพื่อนับเงินและทำบัญชีต่อ
"เงินมันปนกันไปหมดเลย จะทำยังไงดีนะ"
สาวน้อยเอ่ยขณะนั่งมองถุงเงินที่กองเต็มโต๊ะทำงานลายมังกร เธอค่อยๆหยิบแบงค์และเหรียญเเบ่งออกเป็นสี่กองโดยการกะจากสายตา
ในทุกๆสัปดาห์เงินจากบ่อนจะกองใหญ่ที่สุด รองลงมาคือซ่อง สนามม้า และสนามมวยตามลำดับ
"ฮิ! แบบนี้ก็พอใช้ได้นี่นา ฮิ! ๆ ๆ" เด็กสาวหัวเราะชอบใจเมื่อเธอแยกเงินออกจากกันเสร็จ
มือน้อยหยิบนับเงินจนเสร็จ ลงยอดในสมุดเล่มใหญ่ทั้งสี่เล่มแล้วค่อยๆหอบเงินยัดถุงผ้าก่อนจะเอาไปรวมกันในตู้เซฟที่ห้องนอนของคุณเอส
นอกจากเจ้านายมาเฟียแล้วนริศราเป็นคนเดียวที่รู้รหัสตู้เก็บเงิน เธอค่อยๆจัดเรียงเงินกองโตอย่างชำนิชำนาญ แยกแบงค์แต่ละชนิดและเหรียญแต่ละอย่างใส่ในถาด
แอ๊ด! ปั่ง! ประตูตู้เซฟอันสูงใหญ่เท่าหัวปิดลง ร่างบางค่อยๆเดินลงจากชั้นบนสุดของคฤหาสน์หรู
อุ๊ย! เด็กสาวตกใจเมื่อลงมาเห็นเจ้านายใหญ่กำลังนั่งซดเหล้าอยู่ที่โต๊ะอาหารกลางห้องโถงใหญ่ โคมไฟระย้าสาดแสงทองลงมาบนใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม กับสุดสูทสีดำที่ทำให้ดูน่าเกรงขาม
"ทำงานเสร็จแล้วหรือ" น้ำเสียงดุๆที่คุ้นหูดังขึ้นตรงหน้าเด็กสาวที่ค่อยๆเยื้องย่างมายืนมือประสานหน้าท้องอย่างสำรวม
"ค่ะ" สาวใช้ตัวน้อยพยักหน้าและโค้งตัวตอบ
"แก้ผ้าสิ ลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อวานฉันสั่งอะไร" มาเฟียหนุ่มรุ่นเกือบพ่อออกคำสั่ง
"ขะ คือ" นริศราอ้ำอึ้ง แต่สุดท้ายก็ยอมพ่ายแพ้แววตาดุที่จ้องมองเธอราวกับจะกลืนกิน ร่างน้อยค่อยๆถอยห่างออกจากโต๊ะอาหาร จากนั้นสองมือก็ค่อยๆปลดเปลื้องชุดเดรสขาวและผ้ากันเปื้อนลงมากองอยู่บนพื้นบ้าน
"ถอดให้หมด ชั้นในด้วย" มาเฟียหนุ่มสั่งห้วนๆ เด็กสาวรีบก้มหน้ายกขาดึงร่นกางเกงในสีครีมหลุดออกทางปลายเท้าเล็กๆ จากนั้นยืนตรงและใช้สองมือปลดตะขอเสื้อชั้นในออก
"โยนมานี่" คุณเอสสั่งเสียงดัง นริศราถอนหายใจและโยนเสื้อชั้นในไปกองบนโต๊ะอาหาร ตรงหน้าขวดเหล้าพอดิบพอดี
หึ! ๆ ๆ เจ้านายหัวเราะชอบใจขณะที่หยิบเสื้อในขึ้นมากำขยำและดอมดม
"เธอใส่น้ำหอมไหม"
"ไม่นะคะ" สาวน้อยส่ายหน้าขณะยืนตัวตรงเอาสองมือปิดเนินหน่าวที่โหนกนูนขาวสะอาด
"ดี ห้ามใช้น้ำหอมนะ" เสียงดุๆออกคำสั่ง
"ทำไมล่ะคะ" สาวใช้เอ่ยถาม
กร๊อก! ๆ ๆ มาเฟียหนุ่มรินเหล้าใส่แก้วแล้วยกซดแบบเพียวๆจนหน้าหล่อแดงก่ำ จากนั้นถึงเอ่ยตอบอย่างเย็นชา
"เพราะฉันชอบกลิ่นตัวของเธอ"
"เอาหละ เธอมานั่งบนนี้ซิ" หนุ่มใหญ่สั่งและเอามือตบตีขอบโต๊ะอาหารที่กว้างยาวหรูหรา แปะ! ๆ เด็กสาวเดินอ้อมโต๊ะมาเขย่งเท้าสูงแล้วขึ้นนั่งบนโต๊ะอาหารเยื้องขวามือหนุ่มใหญ่ที่นั่งตรงหน้า
มือใหญ่วางแก้วเหล้าแล้วมาดึงผ้าปิดแผลตรงหัวเข่าของสาวใช้ออก
โอ๊ย! เธอร้องเจ็บเมื่อผ้าเปิดออกจากแผลถลอก
"ไม่ได้ไปหาหมอเหรอ" มาเฟียหนุ่มเงยหน้าสบตาถาม
"ไม่ค่ะ หนูทำแผลเองได้" เด็กสาวก้มหลบสายตาดุดันก่อนจะตอบ
"ทำไมไม่ยอมทำตามคำสั่งห๊ะ ฉันไม่ชอบที่เธอต้องเจ็บตัว รู้ไหม" จู่ๆคุณเอสก็ตะคอกเสียงดังลั่น
"ค่ะ ขอโทษค่ะ" เด็กสาวพยักหน้าตอบอย่างตัวสั่น
"เธอไม่มีสิทธิ์จะเจ็บหรือเป็นอะไรทั้งนั้นจำไว้ เข้าใจไหม เธอต้องดูแลตัวเองดีๆกว่านี้นะ ผิดหวังชะมัดเลย"
จู่ๆเจ้านายก็บ่นอย่างโมโหโกรธา ผิดกับทีแรกที่อารมณ์ดีเมื่อเห็นสาวน้อยเปลื้องผ้าผ่อน
"พอแล้ว ฉันจะไปตัดผม" คุณเอสลุกยืนแล้วเดินหนีขึ้นไปยังห้องอาบน้ำชั้นบน นริศรารีบวิ่งมาก้มเก็บเสื้อผ้าหวังจะเอามาสวมใส่
"รีบๆตามมาเลย ใครบอกให้เธอใส้เสื้อผ้า" หนุ่มใหญ่ตะโกนมาจากบนบันไดสูง
"ค่ะ ชิ" สาวใช้ขานรับแล้วเบะปาก ตุ๊บ! ๆ ๆ เธอรีบกอดเสื้อผ้าแนบเต้านมน้อยวิ่งขึ้นบันไดอย่างร้อนรน
ภายในห้องอาบน้ำชั้นบนสุด มองเห็นฝักบัวสีทองกับชักโครกสีทองอร่าม อ่างล้างหน้าก็ยังมีสีทอง ภายในนี้ช่างดูหรูหราและกว้างขวางยิ่งกว่าห้องนอนข้าราชการระดับสูงหลายๆคนเสียอีก
เจ้านายมาเฟียยืนรออยู่กลางห้องน้ำที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ พอเค้ากางสองแขนออกสาวรับใช้ก็เดินเข้ามาถอดชุดสูทสีดำให้ทั้งๆที่เธอยังเปลือยกายขาวโพลน
หึ! ๆ มาเฟียหนุ่มหัวเราะชอบใจเมื่อถูกเด็กสาวปรนนิบัตอย่างทะนุถนอม เธอลงไปนั่งยองๆและปลดเข็มขัดถอดกางเกงออกอย่างทุลักทุเลพอสมควร
"กางเกงในด้วย" หนุ่มใหญ่ออกคำสั่งขณะก้มมองใบหน้าเล็กเรียวสวยขาว
ฟุ่บ! ๆ มือน้อยสั่นเทาขณะดึงถอดกางเกงในของเจ้านายลงมาทางปลายเท้า เธอตกใจหน้าสั่นพลันใดที่แท่งเอ็นยาวโง้งดีดผึงออกมาฟาดปลายคางตัวเองดังป่าบ!
อร๊าย! เด็กสาวกรี๊ดลั่นเมื่อแท่งเอ็นของเจ้านายมันเเข็งใหญ่เต็มลำในสภาพพร้อมใช้งาน เธอใจสั่นระรัวเมื่อรู้อยู่เต็มอกว่าเจ้านายต้องคิดอะไรกับเธอแน่ๆ เพราะในห้องน้ำมีเพียงเธอคนเดียวที่เป็นผู้หญิง
"ทำยังกะไม่เคยเห็น" หนุ่มใหญ่บ่นแล้วลงมานั่งบนฝาชักโครกสีทอง จากนั้นหยิบกระจกบนอ่างล้างหน้ามาส่อง
"ตัดผมเถอะ" เจ้านายออกคำสั่งขณะที่เด็กสาวยังนั่งยองๆจ้องแท่งเอ็นยาวโง้งที่แข็งตั้งชี้ขึ้นฟ้า เธอเห็นมันใหญ่กว่าแขนของตัวเองเสียอีก ส่วนหัวบานโตเป็นดอกเห็ด ตามแท่งลำมีเส้นเอ็นปูดโปนพันหยักโดยรอบ
อึก! เด็กสาวกลืนน้ำลายเหนียวลงคอก่อนจะลุกยืนในสภาพเปลือยเปล่า เธอหยิบกรรไกรสีเงินมาถือด้วยมือขวาที่สั่นเทา
"ขอโทษนะคะ" เสียงแหลมเล็กสั่นเครือขณะที่มือซ้ายจับปลายคางงัดหน้าหล่อๆให้เงยขึ้นบน หนวดเคราแข็งๆบาดอุ้งมือน้อยจนเสียวแปล๊บจนเจ็บจี๊ด
ฉับ! ๆ ๆ มือขวาถือกรรไกรซอยผมหน้าของเจ้านายอย่างชำนิชำนาญ ใบหน้าเล็กเรียวก้มมองผมดกดำขณะที่สองขาอ้าคร่อมตักเจ้านาย เต้าน้อยๆสองข้างแทบจะอัดกับจมูกโด่ง
ฟื่ดดด! ๆ เจ้านายสูดลมหายใจเอากลิ่นตัวสาวน้อยเข้าปอดในสภาพนิ่งสงบเสงี่ยม พอเค้าหายใจออกลมร้อนก็พ่นรดเต้านมน้อยจนทำเอาสาวใช้เสียวจนหน้าชา รู้สึกคันหัวนมยุบยิบทั้งๆที่เค้าก็ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวหรือทำอะไรที่เกินเลย
ฉับ! ๆ ๆ นริศราตั้งสมาธิอยู่กับทรงผมของเจ้านายทั้งๆที่ใบหน้าแดงฉ่ำ ราวๆสิบนาทีเธอก็ตัดผมรองทรงให้เจ้านายจนเสร็จสิ้น ทว่าพอถอยหลังออกเจ้านายก็ออกคำสั่ง
"ตัดขนให้ฉันด้วยสิ หึ! ๆ"
"ห๊ะ" สาวใช้อ้าปากค้างขณะก้มมองเส้นขนดกดำรอบๆโคนแท่งเอ็นที่ชี้ตั้ง
"ฉันบอกให้ตัดขนไง นั่งลงสิ" เจ้านายออกคำสั่งเป็นครั้งที่สอง นริศรารีบลงนั่งคุกเข่าพลันใด
พอเค้าอ้าขาออกกว้างเธอก็คุกคลานเข้ามาห่อตัวเล็กอยู่กลางหว่างขาเจ้านาย ใช้ข้อศอกสองข้างวางตั้งบนหน้าขาหนุ่มใหญ่คราพ่อแล้วใช้มือน้อยจับกรรไกรตัดขนรอบๆแท่งเอ็นลำโต
"หึ! ๆ ทำไมมือไม้สั่นแบบนี้ล่ะ ปกติดื้อดึงไม่ใช่เหรอ" เจ้านายหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
"ปะ เปล่าค่ะ" สาวใช้ตัวน้อยเอ่ยตอบขณะก้มมองแท่งเอ็นที่กำลังสั่นหงึกๆหงักๆ ใบหน้าเล็กขาวต้องเอียงซ้ายเอียงขวาไปมาเพื่อเอื้อมมือตัดเส้นขนรอบๆลำโตอย่างยากลำบาก
แก้มซ้ายแก้มขวาโดนปลายลำยาวเกือบเท่าข้อศอกทิ่มจนแดงเป็นปื้นยาวๆพาดหน้า รู้สึกว่าของเจ้านายมันดิ้นๆสั่นๆอยู่ไม่นิ่งเอาเสียเลย ขืนทำกรรไกรบาดแท่งเนื้อของเค้ามีหวังโดนไล่ออกจากบ้านแน่ๆ
"ขอโทษนะคะ" เด็กสาวเอ่ยในสภาพก้มหน้าก่อนจะใช้มือขวาคว้ากำหมับตรงปลายแท่งลำ บีบมันเอาไว้จนซีดคากำมือแล้วจึงใช้มือขวาจับกรรไกรตัดเส้นขนที่ดกดำจนเรียบเตียน
"อ่าส์! มีความสุขชะมัดเลย" เจ้านายเงยหน้าร้องคำรามขึ้นเพดานอย่างผ่อนคลาย
"ชิ! น่าอายชะมัดเลย" เด็กสาวบ่นพึมพำขณะพ่นลมปากใส่แท่งเอ็นที่สั่นสู้มือ