“ผมทำอะไรครับ?” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความงุนงงอย่างไม่รู้เลยว่าผู้เป็นแม่กำลังพูดถึงเรื่องอะไร
“แกทำหนูวนิดาท้อง”
“วะ ว่าไงนะ ท้อง!!” ทันทีที่ได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้น ดวงตาคมกริบของชายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตกใจ ดวงหน้าหมดจดของเขาซีดเผือดไปทันที หัวใจหล่นไปอยู่ตรงที่ปลายเท้าก่อนจะหันหน้าขวับไปมองหญิงสาวอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“ใช่ แกทำหนูวนิดาท้อง”
“นี่เธอท้องอย่างนั้นเหรอ” เสียงเข้มตวาดดังลั่นทำเอาหญิงสาวตัวสั่น ก่อนที่เธอจะพยักหน้าขึ้นลงด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นสายตาดุดันคู่นั้นคล้ายกับต้องการฉีกร่างของเธอให้ออกเป็นชิ้น ๆ
“ฉันถามว่าเธอท้องอย่างนั้นเหรอห๊ะ”
“ยัยดาแกบอกเขาไปสิว่าแกท้องท้องลูกของเขา” มารดาของวนิดาโพล่งพูดแทนขึ้นมาเมื่อเธอทนไม่ไหว ผู้เป็นแม่ของหญิงสาวหันมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มด้วยแววตาเอาจริงเอาจัง
“วนิดาลูกสาวฉันกำลังตั้งท้องลูกของคุณ แล้วทีนี้คุณจะว่ายังไง”
“มะ...ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่ลูกของผม” จิรายุปฏิเสธเสียงสั่น ในใจของเขาราวกับมีฟ้าผ่าลงมากลางใจเมื่อต้องมารับรู้ว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นพ่อคนอย่างไม่ทันตั้งตัวและตัวเขาเองก็ไม่เคยคิดที่อยากจะมีเลยสักนิด
“เด็กในท้องของลูกสาวฉัน มันจะไม่ใช่ลูกของคุณได้ยังไงกันในเมื่อลูกสาวของฉันนอนกับคุณ คิดจะไม่รับผิดชอบกันใช่มั้ยห๊ะ!”
“แม่จ๋าใจเย็นก่อนนะ”
น้ำเสียงที่เปี่ยมพลังตลาดอย่างเกรี้ยวกราดเดือดดาลของมารดาหญิงสาวตะคอกแย้งขึ้น เมื่อเห็นท่าทีและคำพูดที่ขาดความรับผิดชอบของชายหนุ่ม ทำให้ผู้เป็นสามีที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องรีบเอ่ยปลอบประโลมให้ภรรยาของเขาใจเย็นลง
แต่ทว่าในใจของหญิงสาวในตอนนี้ได้ยินคำพูดของแฟนหนุ่มแล้ว เธอตื่นตะลึงหัวใจแหลกสลายเป็นหมื่นชิ้นด้วยความสิ้นหวัง หยาดน้ำตาร่วงเผาะดุจดั่งไข่มุกบนใบหน้างามท่ามกลางน้ำตาที่ไหลรินออกมาอาบแก้มไม่ขาดสายเธอยังคงจ้องมองใบหน้าหล่อของเขาอย่างใจจดใจจ่อ อย่างไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่รักและเชื่อใจมาตลอดกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนราวกับเธอไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ
“แล้วป้าแน่ใจได้ยังไงว่าลูกสาวของป้าจะนอนกับผมแค่คนเดียว เผลอ ๆ ลูกสาวของป้าอาจจะนอนกับผู้ชายเป็นสิบ ๆ คนแล้วก็ได้” ชายหนุ่มยังคงดึงดันพูดอย่างเดือดดาลไม่ยอมรับว่าเด็กในท้องของหญิงสาวคนนั้นคือลูกของเขาเอง
นี่คือคำพูดของผู้ชายที่บอกรักฉันจริงๆ นะเหรอ…
“ฮึก เรากลับกันเถอะค่ะแม่ ดาไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว” น้ำตาแห่งความเสียใจและผิดหวังไหลออกมา วนิดาหยัดกายลุกขึ้นหมายจะเดินออกไปจากตรงนี้เพราะทนฟังคำพูดเหล่านั้นไม่ไหวอีกต่อไป แต่ท่อนแขนของเธอกลับถูกฝ่ามือของผู้เป็นแม่คว้ารั้งเอาไว้แน่น
“ฉันจะไม่ยอมให้แกต้องมาเสียตัวฟรี ๆ หรอกนะ หลานของฉันต้องมีพ่อ บอกเขาไปว่าลูกในท้องของแกเป็นลูกของเขายัยดา”
“แม่” ริมฝีปากเรียวเม้มเข้าหากันแน่น หญิงสาวมองหน้าผู้ให้กำเนิดเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของมารดา เธอเห็นว่าดวงตาคู่นั้นมีแต่ความเศร้าและเจ็บปวด
ท้ายที่สุดแล้วหญิงสาวก็ไม่อาจทำให้มารดาผิดหวังในตัวของเธอไปมากกว่านี้ได้ จึงจำเป็นต้องบอกความจริงไปว่าตัวเธอนั้นกำลังตั้งท้องลูกของชายหนุ่มอยู่จริง ๆ
“ฮึก ลูกในท้องของดา ก็คือลูกของคุณ”
“ไม่จริง เป็นไปไม่ได้มันไม่ใช่เรื่องจริง เธอแต่งเรื่องที่จะจับฉันใช่มั้ยวนิดา!” ร่างสูงแผดเสียงคำรามด้วยความคับแค้นออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้หญิงสาวเบิกตา กว้างตกตะลึงอึ้งไปชั่วขณะกับคำพูดนั้นของเขาราวกับได้ยินเสียงหัวใจตนเองถูกฉีกทึ้งแล้วเขวี้ยงลงพื้นเหมือนดอกไม้ ดวงตาสุกใสแดงระเรื่อมองผู้ชายที่เธอรักตรงหน้าอย่างน้อยเนื้อต่ำใจและอดไม่ได้อีกต่อไปที่จะพูดมันออกมา
“มันคือเรื่องจริงค่ะ ดาลืมทานยาคุมเม็ดที่สอง” ฝ่ามือสั่นเทาลูบหน้าท้องแบนราบซึ่งตอนนี้กำลังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของชายหนุ่มถือกำเนิดอยู่ในนั้นทั้งน้ำตา
“อึก!”
“…” ในดวงตาของหญิงสาวฉายแววของความชอกช้ำเจ็บปวดพลางจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มนิ่งอย่างจริงจังว่าเธอนั้นพูดความจริง ทำให้เขาเห็นท่าทีแบบนั้นของเธอแล้วถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“ธะ เธอต้องกุเรื่องโกหกแน่ๆ ฉันแน่ๆ” ชายหนุ่มพูดอย่างลนลานเสียงสั่น ยังยืนยันที่จะปฏิเสธเพราะเขาไม่อาจจะยอมรับความจริงในเรื่องนี้ได้
ทุกอย่างมันถาโถมเข้ามาทำให้เขาไม่ทันได้ตั้งรับมือ เรื่องนี้มันใหญ่เกินกว่าที่เขาจะตั้งตัวรับไหว
“ฉันไม่ยอมนะคะ ลูกชายของคุณทำลูกสาวของฉันท้องโตแล้วไม่คิดจะรับผิดชอบ แล้วแบบนี้ครอบครัวกับลูกสาวจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
ผู้เป็นแม่โกรธอย่างเดือดดาลเมื่อเห็นว่าลูกสาวถูกคำพูดของชายหนุ่มย่ำยีทั้งปฏิบัติกับเธออย่างไม่เป็นธรรม
“ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ เรื่องนี้ดิฉันได้คิดหาทางออกเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ดิฉันจะไม่ยอมให้คุณกับหนูวนิดาจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงแน่นอนค่ะ” น้ำเสียงแน่วแน่แววตามุ่งมั่นของมารดาทำเอาชายหนุ่มอย่างจิรายุตัวสั่น และมันก็เป็นอย่างที่เขาได้คิดเอาไว้
“ไม่ต้องเป็นห่วงไปนะคะ ดิฉันรู้ค่ะว่าหนูวนิดาเป็นผู้หญิงที่ดีมาก ยังไงดิฉันก็จะให้เจ้าวายุยอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองได้ทำ โดยการแต่งงานกับหนูวนิดาค่ะ”
“คุณแม่ครับ ผมไม่…” ได้ยินอย่างนั้นชายหนุ่มถึงกับใบหน้าซีดเผือดทำท่าจะเอ่ยโต้แย้งขึ้น แต่ทว่ายังไม่ทันได้พูดจบประโยคเขากลับถูกผู้เป็นแม่ตวาดน้ำเสียงที่น่าเกรงขามกลับมาเสียก่อน
“แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธนะวายุ แม่รู้ว่าแกเป็นคนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ ดังนั้นแกก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบแต่งงานกับหนูวนิดาซะนี่เป็นคำสั่ง”
“คุณแม่!”
“ถ้าขืนแกกล้าขัดคำสั่งของแม่ก็เอาสิ แล้วอย่ามาหาว่าแม่ใจร้ายก็แล้วกัน” แววตาเรียบนิ่งแอบแฝงไปด้วยความดุดันทำเอาชายหนุ่มถึงกับตัวสั่น แม้เขาจะอยากปฏิเสธมากสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่สามารถทำได้
ชายหนุ่มได้แต่เก็บความโกรธเคืองไม่พึงพอใจเอาไว้ในใจเพราะไม่อยากทำอะไรให้มันแย่ลงไปมากกว่านี้ เขาจะรอวันที่จะได้เอาคือผู้หญิงตรงหน้าให้สาสม เพราะเขาคิดว่าเด็กในท้องลูกของเธอมันจะต้องไม่ใช่ลูกของเขาอย่างแน่นอน
เขาเชื่ออย่างนั้น…