‘ยุติธรรมกับมารดาเจ้านะสิ’
“เว่ยซือหลางเจ้า!” นางไม่รู้จะสรรหาคำใดมาเยินยอดี มีอยู่ในใจเป็นหมื่นล้านคำ หากจะเขียนเป็นอักษรคงใช้กระดาษและน้ำหมึกแทบหมดเมืองแห่งนี้
“ชอบใช่หรือไม่” รอยยิ้มเหี้ยมมองมายังนาง หมายให้รู้ว่าตำหนักนี้จะตัดสินผิดเป็นถูกก็ย่อมได้หากเขาพอใจ
“ท่านอ๋องโปรดอภัยด้วย หม่อมฉันฮึก...พระชายา” เซี่ยหมิงหลันตัดสินใจพลาด เขาเอาเยี่ยนฟางเป็นหมากให้กลับแก้แค้นนางที่หักหน้าเขาต่อเหล่าข้าราชบริพารทั้งตำหนัก
นางซาบซึ้งใจก็ยามนี้เองว่า ตนคิดผิดไปทั้งหมดเขามันสุนัขลอบกัดจริง ๆ
เปาะ แปะ เปาะ แปะ !
เสียงปรบมือดังขึ้น ทำให้คนที่ยิ้มอย่างสาแกใจหันมองใบหน้าของชายาแสนหยิ่งทนงของตนเอง
“นับว่าได้เห็นการตัดสินความที่ยุติธรรมดี” นางไม่พูดเปล่าแต่เดินไปลูบหัวของเยี่ยนฟางอย่างสงสาร
“ปล่อยนางเดี๋ยวนี้!” เสียงอันดังดั่งนางพญาตวาดลั่นทั้งกราดมองทุกคนด้วยสายตาพญาหงส์ แม้กระทั่งเป่ย จิ้งอ๋องยังเผลอสะดุ้งโดยมิรู้ตัว
‘นางเคยเกรงกลัวบารมีผู้ใดหรือไม่?’ เป็นคำถามที่ผุดขึ้นในใจของเว่ยซือหลาง แม้ว่าจะไม่ได้สนิทสนมกับนางเหมือนอย่างเซี่ยผิงหลัว นางในดวงใจของตน แต่ก็หาใช่ว่าไม่เคยพบนาง
ภายใต้ใบหน้าที่งดงาม จนกระทั่งได้รับฉายางดงามดั่งนางล่มเมืองได้นั้นแอบซ่อนเขี้ยวเล็บไว้อย่างมิดชิด หากไม่ใช่เขาที่เป็นสามี คงมิเห็นอีกด้านของนาง
“ข้าจะลงโทษคนผิด เจ้ากล้าห้ามงั้นรึ” เป่ยจิ้งอ๋องเองก็ไม่ยอมลงให้เช่นกัน
เดิมทีนางก็รอท่านอ๋องลงโทษซุนกงกง นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินคำนี้กลับมา เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น หากวันนี้ไม่ทุ่มสุดตัว ก็ต้องถูกบ่าวสวะพวกนี้รังแกไปตลอดชาติในตำหนักเป่ยจิ้งอ๋องแห่งนี้
“คนผิดก็สมควรลงโทษ แต่ท่านกำลังลงโทษคนมิมีความผิด ท่านยังเป็นคนอยู่หรือไม่เป่ยจิ้งอ๋อง” เสียงตัดพ้อเปล่งขึ้น ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ ในอกของเซี่ยหมิง
หลันร้อนรนดังไฟสุมขอนไม้ยากจะดับลงได้ ลมหายใจกระชั้นถี่เสียจนหน้าอกกระเพื่อม แต่ท่าทางของนางทำให้
เป่ยจึ้งอ๋องรู้สึกพอใจ ที่ได้ยั่วโมโหนาง
“เจ้าอบรมสั่งสอนบ่าวไม่ดีเอง ก็สมควรให้ข้าช่วยอบรม”
“ข้าคงไม่ลำบากท่านอ๋อง ปล่อยคนของข้า!”
“ลงหวาย!”
ฟ้าบ ฟ้าบ...!
โอ๊ย...! ฮึก...!
เสียงร้องโอดโอยของเยี่ยนฟางทำให้เซี่ยหมิงหลันเจ็บปวดใจนักเมื่อมองหน้าใบเหี้ยมที่ยิ้มอย่างเลือดเย็นไม่รู้สึกว่าตัวเองทำผิดคิดชั่ว นางจึงตัดสินใจเอาตัวไปรองรับหวายแทน
ฟ้าบ...!
แรงฟาดลงมาอย่างไม่ยั้งมือ ทำให้คนที่ไม่เคยโดนทำร้ายมาก่อนในชีวิตน้ำตาซึม ความเจ็บแสบจนรู้สึกชาไปที่กลางหลังทำให้นางแทบสิ้นสติลงในเพียงหวายเดียว แต่กลับไม่ได้ยินเสียงร้องสักเพียงครึ่งคำออกจากปาก
ว้าย...พระชายา!
เยี่ยนฟางกับซูเจียวตกใจจนทำอะไรไม่ถูก โดยพวกนางถูกตรึงกับแผ่นไม้ลงทัณฑ์ไว้คนหนึ่ง ส่วนอีกคนโดนจับไว้ ไม่ให้เข้าไปโดยคนของท่านอ๋อง
ภาพนั้นทำเอาทุกคนที่อยู่ในตำหนักนั้นต่างตกอกตกใจ เมื่อคนลงหวายฟาดมาที่กลางหลังพระชายา แต่คนที่โบยนั้นยังมิหยุดยั้ง เพียงง้างหวายรอคำสั่ง แต่เมื่อไม่เห็นมีคำสั่งเสียที จึงฟาดลงอีกหนึ่งครั้ง
ฟ้าบ!!!
ฮึก!
เซี่ยหมิงหลันสะดุ้งเมื่อมันฟาดลงมาที่เนื้อภายใต้อาภรณ์ นางหลับตาซึมซับความเจ็บปวด ที่สามีเป็นผู้รังแกนางโดยไม่ร้องขอความเป็นธรรมใด เลือดนั้นติดขึ้นมาตามหวาย ทำเอาซูเจียวแทบเป็นลมล้มลง
“ออกไปเพคะ พระชายา...ข้ายอมรับผิดเอง...พระชายา...ฮึก!” เสียงฟูมฟายปนเสียงสะอื้นของเยี่ยนฟางทำให้คนที่สั่งการได้สติหลังจากตะลึงงันอยู่นาน
“หยุด!” เสียงตวาดดุจพยัคฆ์คำราม เรียกให้คนที่กำลังลงโทษคุกเข่าตัวสั่นงันงก เนื่องจากพลาดพลั้งทำร้ายพระชายา ความผิดคือตายสถานเดียวแม้ผู้สั่งการจะอยู่เบื้องหน้าก็ตาม แต่ไม่มีผู้ใดที่จะเดาอารมณ์ผู้เป็นใหญ่ในตำหนักนี้ได้
เว่ยซือหลางไม่คิดว่านางจะโง่เขลาขนาดเอาตัวไปรับหวายแทนสาวใช้ต่ำต้อย เพียงต้องการจะข่มบารมีกับนางบ้าง สุดท้ายเป็นเขาเองที่นึกเสียใจ
“ใครให้เจ้าไปรับหวายแทน” เขากัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสันด้วยความโกรธ จึงตรงไปกระชากนางออกมาจากการลงทัณฑ์เสีย
ร่างอ่อนแอเซถลาไปตามแรงกระชาก ด้วยความกริ้วโกรธของอ๋องหนุ่ม ‘เพียงต้องการอยากเอาชนะ นางยอมเจ็บตัวจนตาย งั้นเหรอ!’
โง่เขลานัก!
“ท่านอ๋อง...โปรดยั้งมือด้วยพระชายากำลังตั้งครรภ์”
สิ่งที่ได้ยินต่อมาทำเอาคนที่อวดเบ่งบารมีแทบลมจับ เมื่อเขาเพิ่งสั่งลงหวายกับนางที่กำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา
“เส้าเฉียดเอาพวกมันไปลงโทษทั้งหมด...!”
คำว่าทั้งหมดนั้นไม่อาจจะรอดพ้นแม้แต่ซุนกงกง เฉกเช่นเดียวกัน
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเซี่ยหมิงหลันอีกครั้ง ก่อนสติทุกอย่างจะดับวูบลง
“พระชายาเพคะ พระชายา...” เยี่ยนฟางและซูเจียวเข้ามาหมายจะรับร่างของนายสาวไว้ แต่ทว่ากลับมีมือหนาที่ฉวยเอาร่างของเจ้านายอุ้มขึ้นแนบอก
“จื่อตันไปตามหมอมา”
คนที่สั่งไปแล้วก็หงุดหงิดใจ แต่เขาคืนคำไม่ได้เช่นเดียวกัน ใบหน้าที่มืดครึ้มเหมือนเมฆหมอกในช่วงที่มีพายุใหญ่ มิมีผู้ใดกล้าขัด เป็นซูเจียวที่เข้าไปจัดที่นอนรอพระชายาไว้ โดยคนที่โอบอุ้มนางมาด้านในเป็นท่านอ๋อง
เขาถอดเสื้อผ้าของนางออก แล้วก็เห็นรอยแผลตรงกลางหลังเนียนละเอียดดุจน้ำนมก็ต้องกัดฟันกรอด
“บัดซบ!”
ซูเจียว , เยี่ยนฟาง “___!?”
สองสาวใช้มองหน้ากันเงียบ ๆ แล้วเดินออกมารอด้านนอกมิกล้าอยู่ให้ระคายพระทัย ทั้งออกมาชะเง้อชะแง้รอคอยท่านหมอมาตรวจอาการของพระชายาอย่างร้อนอกร้อนใจ