“ไร่มังกรมีปัญหาหรอวะ”
“ไอ้มังกรไปไต้หวัน แล้ววันนี้มีทัวร์มาลงที่ไร่ กูเลยจะเข้าไปดูความเรียบร้อยสักหน่อย”
ธันวาพยักหน้าสองสามทีก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไป ทิ้งให้ราชันย์ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อย่างสบายอารมณ์ พ่นควันสีขาวช้า ๆ สลับกับอัดควันลงปอดอย่างหนักไปมาจนหมดมวน
“กอหญ้า”
เมื่อสมองว่างเปล่าภาพที่ผุดขึ้นมาในหัวก็คือภาพของหญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าตาจิ้มลิ้มหลับตาพริ้มครวญครางอยู่ใต้ร่าง แค่เห็นใบหน้าที่เซ็กซี่ของเธอก็ทำให้อารมณ์ดีแบบบอกไม่ถูก คิดถึงรสสัมผัสจากริมฝีปากรสชาติแห่งความสุขก็ยิ่งทำให้อารมณ์ขึ้นเป็นอีกเท่าตัว หลังจากที่ราชันย์จัดการทุกอย่างที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของครอบครัว ที่นี่เป็นบริษัทส่งออกอะไหล่รถสุดหรูอันดับหนึ่งของประเทศถูกดูแลโดยราชันย์ ลูกชายคนสุดท้องของตระกูลที่มีชื่อเสียงติดTopระดับประเทศซึ่งราชันย์ต้องดูแลเรียบร้อยแล้ว ราชันย์ก็ขับรถสปอร์ตคู่ใจเดินทางไปไร่มังกรทันที
ไร่มังกรจัดอยู่ในธุรกิจครอบครัวอีกธุรกิจหนึ่ง คนดูแลคือมังกรพี่ชายของตระกูล รายได้ที่เข้ามาไม่แพ้ธุรกิจส่งออกอะไหล่รถสปอร์ตที่ราชันย์ดูแลเลยทีเดียว รถสปอร์ตคันหรูขับมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ที่ล้อมรอบไปด้วยสวนดอกไม้ ซึ่งมันทำให้ราชันย์เห็นก็สะดุดตากับความเปลี่ยนไปของบ้านสวนหลังนี้ จะบอกว่าเป็นความคิดของมังกรก็ไม่น่าจะใช่เพราะรายนั้นเรียกว่าเกลียดดอกไม้อย่างกับอะไรดี แค่ราชันย์ไม่ได้มาที่ไร่สามสี่เดือนแค่นั้นที่นี่กลับเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้
“สวัสดีค่ะคุณราชันย์”
“สวัสดีครับน้านงค์ น้านงค์ตามสบายเลยครับ ผมมาแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวจะเข้าไปในไร่สักหน่อย แล้วจะกลับแล้วครับ ว่าแต่ สวนรอบบ้านสวยดีนะครับ ความคิดมังกรหรอครับ”
“ก็ไม่เชิงนะคะคุณราชันย์ แต่คุณมังกรอนุญาตค่ะ”
ราชันย์ไม่ซักไซ้ให้เสียเวลา พยักหน้าและยิ้มให้ป้านงค์ก่อนที่เดินไปที่รถที่ไร่จัดไว้รองรับนักท่องเที่ยว เมื่อราชันย์กำลังจะขึ้นรถที่ลุงแดงเตรียมไว้ให้แล้ว สายตาก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มองไกล ๆ ก็เห็นได้ชัดเจนว่าใบหน้าสะสวย ผิวขาวออร่า ส่วนสูงประมาณ 170 เซนติเมตรเห็นจะได้ มัดผมหางม้าปลายผมเป็นลอน สวมชุดกระโปรงพลิ้วสีเหลืองพาสเทล ที่กำลังรดน้ำต้นกุหลาบที่สวนด้านหลังบ้านอยู่ ความสวยของเธอทำให้ราชันย์ละสายตาไม่ได้จริง ๆ ยิ่งเพ่งมองก็ยิ่งรู้สึกคุ้นตาเป็นอย่างมาก เธอช่างเหมือนเหลือเกินเหมือนผู้หญิงที่ราชันย์รอคอยมานานหลายปี
“คุณราชันย์อยากได้อะไรหรือเปล่าครับ”
“ลุงแดง ผู้หญิงคนนั้นคือใครครับ”
ราชันย์ชี้นิ้วไปที่หญิงสาว ลุงแดงหันไปเพ่งมองก็ร้องอ๋อทันที
“คุณหนูพราวฟ้าครับ แฟนคุณมังกร คุณราชันย์ยังไม่เคยเจอหรอครับ”
“พราวฟ้า?”
“ครับ”
เหมือนมีเข็มแหลม ๆ นับพัน ทิ่มแทงเข้ามาที่หัวใจของเขา ได้แต่หวังไว้ว่าผู้หญิงคนนั้นคงไม่ใช่พราวฟ้าคนเดียวกับที่เขาเข้าใจหรอกนะ พราวฟ้าคนนั้นคนที่เคยให้สัญญากับเขาไว้แล้วว่าถ้าราชันย์รอเธอได้ เธอจะยอมมาคบกับราชันย์ อยู่ ๆ จะมาโผล่ที่นี่เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ
“เราไปกันเลยไหมครับ”
“ครับลุง”
ราชันย์สะบัดหัวไล่ความคิดอื่น ๆ ออกไปให้หมดแล้วขึ้นรถกระบะสี่ประตูคันใหญ่ เดินทางไปไร่ในส่วนที่จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวทันที จัดการธุระและตรวจสอบความเรียบร้อยสักพัก รถทัวร์ชาวจีนที่จองไว้ก็เดินทางมาพอดีราชันย์อยู่ดูแล พาเดินชมไร่สักพัก ก็ยกหน้าที่ที่เหลือให้มานพคนดูแลที่ไร่ดูแลต่อทันที ก่อนจะให้ลุงแดงขับรถมาส่งที่บ้านสวนเพื่อหาคำตอบให้หายข้องใจเกี่ยวกับผู้หญิงที่ชื่อพราวฟ้า
“ลุงตามสบายเลยครับ ขอบคุณมากครับ”
เมื่อลุงแดงส่งราชันย์เรียบร้อย ราชันย์ก็เดินเข้ามาในตัวบ้านเพื่อจะเดินไปที่สวนหลังบ้านทันที เพื่อตามหาผู้หญิงเมื่อช่วงเช้า แต่ยังไม่ทันที่ราชันย์นั้นจะเดินเข้าบ้านมาไกล เขาเดินมาถึงแค่ห้องโถงขนาดใหญ่ก็พบกับหญิงสาวที่ตามหา เธอที่เห็นหน้าของราชันย์เบิกตาโพลงตกใจ ทำให้ต้มพะโล้ที่กำลังถือมาจะนำจัดโต๊ะอาหารหล่นลงมาใส่เท้าทันที และด้วยความร้อนของพะโล้นั้นทำให้เธอต้องสะดุ้งอีกครั้ง
“โอ๊ย!”
“พราวฟ้า เป็นอะไรมั้ย!”
เมื่อราชันย์เห็นแบบนั้น ก็รีบวิ่งเข้าไปดูทันที ก่อนจะช่วยพยุงเธอให้มานั่งที่โซฟารับแขก ราชันย์เองรีบถอดรองเท้าสลิปเปอร์ของพราวฟ้าออก เผยให้เห็นเท้าบางส่วนของเธอนั้นขึ้นสีแดงเรื่อ กำลังจะพองอยู่รอมร่อเขารีบเรียกให้ป้านงค์เอากล่องประถมพยาบาลมาให้ ค่อย ๆ เอาเท้าจุ่มน้ำอุณหภูมิปกติเพื่อล้างความแสบร้อนและสิ่งสกปรกออก ก่อนจะซับน้ำออกเบา ๆ ล้างด้วยน้ำเกลืออีกครั้ง ซับแผลให้แห้งและปิดทับด้วยผ้าพันแผลสะอาด
“เจ็บอยู่ไหม?”
“ราชันย์ นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
เธอไม่ตอบ แต่กลับยิงคำถามที่สงสัยใส่ราชันย์ทันทีที่มีโอกาส ราชันย์ค่อย ๆ มองหน้าหญิงสาวที่ตัวเองรอมาหลายปีด้วยนัยน์ตาที่เศร้าสร้อย ทำไมถึงกลายเป็นเธอ ทำไมเธอถึงกลายมาเป็นแฟนของมังกร หลาย ๆ อย่างจุกอยู่ในอก แต่กลับอ้าปากถามอะไรไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว เพียงเพราะคำว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน
“ทำไมพราวมาอยู่ที่นี่ เราควรจะเป็นคนถามมากกว่านะ”
“ขอโทษนะราชันย์ พราวขอโทษทุกอย่าง พราวผิดเอง”
“พราวจะขอโทษเราทำไม เราเคารพการตัดสินใจของพราวนะ แต่เราขอถามอย่างหนึ่งได้ไหม..”
“อะไรหรอ?”
“ทำไมต้องมังกร”
และไม่มีคำตอบอะไรจากปากของพราวฟ้า มีแต่นัยน์ตาที่เริ่มมีน้ำตาคลอเบ้ากับความเงียบเท่านั้นที่เป็นคำตอบ ทั้งคู่มองหน้ากันโดยที่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาเลย พราวฟ้าคือผู้หญิงที่ราชันย์หลงรักมาก มีแพลนจะขอแต่งงานทันทีที่เรียนจบ แต่ก็มีเหตุให้ต้องแยกกันเพราะพราวฟ้าต้องย้ายไปเรียนต่างประเทศ และวันนั้นก่อนที่พราวฟ้าจะไปพราวฟ้ารับปากกับราชันย์ไว้ว่า ถ้าเจอกันอีกครั้งต่างคนต่างไม่มีใคร วันนั้นพราวฟ้าจะยอมรับรักราชันย์ และราชันย์ก็เชื่อมั่นและรอคอยมาตลอด เพราะหวังว่าสักวันพราวฟ้าจะหันมารักตัวเองและสมหวังในความรักกับคนที่แอบชอบมาหลายปี
“คุณพราวฟ้าเป็นยังไงบ้างคะ”
“ไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะป้านงค์ ไม่ต้องบอกเฮียนะคะ เดี๋ยวเฮียเป็นห่วง”
“ไม่ทันแล้วค่ะ คุณมังกรกำลังกลับมาแล้วค่ะคุณพราว”
“พราวขอคุยกับราชันย์ เป็นการส่วนตัวสักพักนะคะป้านงค์”
“ได้ค่ะ คุณราชันย์วันนี้อยู่ทานข้าวเย็นด้วยเลยไหมคะ ป้าจะได้ให้น้ำมนต์ทำอาหารเผื่อ”
“ไม่ละครับป้านงค์ เดี๋ยวผมจะกลับแล้วครับ งานที่ไร่เรียบร้อยพอดี”
หลังจากได้ยินราชันย์ตอบ ป้านงค์ก็เดินออกไปเตรียมอาหารทันที ทำให้บรรยากาศในห้องโถงนี้ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
“ราชันย์ พราวเชื่อนะว่าสักวันหนึ่งจะมีผู้หญิงดี ๆ เข้ามา ถ้าวันนั้นมาถึงราชันย์ต้องทะนุถนอมเขาดี ๆ เหมือนที่ราชันย์เคยบอกว่าจะทะนุถนอมพราวเลยนะ”
“เราไม่เคยมีคนอื่นในใจนอกจากเธอ ทำไมต้องมังกร”
“พราวขอโทษนะ แต่ตอนนี้พราวรับความรู้สึกของราชันย์ไม่ได้จริง ๆ”
“เราไม่โทษพราวหรอก เดี๋ยวเราจะกลับแล้ว ยังไงก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะ”
ราชันย์ที่ดูแผลของพราวฟ้าอีกครั้งจนมั่นใจว่าเรียบร้อยแล้วก็ลุกออกมาทันทีเขาขับรถสปอร์ตคู่ใจสุดหรูเหยียบด้วยความเร็วสูง การขับรถจากที่ไร่มังกรจนมาถึงกรุงเทพใช้เวลาพอสมควร ก่อนที่เขาจะขับเข้าไปจอดอย่างกะทันหันที่หน้าคลับของตัวเอง เพื่อกรอกเหล้าเข้าปากดับความรู้สึกสงสัยและเสียใจ
เมื่อราชันย์เข้ามาภายในคลับก็สั่งให้พนักงานให้เอาเหล้ารสดีของตัวเองขึ้นไปส่งที่ห้องVIP เขาดื่มด่ำกับรสชาติที่คุ้นเคยอยู่คนเดียวอย่างบ้าคลั่งขวดแล้วขวดเล่าเพื่อบรรเทาความเสียใจที่เพิ่งรับรู้ คำถามมากมายในหัวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย การรอคอยที่ไม่สมหวัง คำถามที่ยากจะเข้าใจทำไมคนที่พราวฟ้าเลือกถึงเป็นมังกร ทั้งที่พราวฟ้ารู้ว่ามังกรคือพี่ชายของตัวเอง ทำไมพราวฟ้าก็ยังเลือกที่จะเป็นมังกร
ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ราชันย์ก็ยิ่งกระดกน้ำสีอำพันเข้าปากมากเท่านั้น ผ่านไปจนเกือบเที่ยงคืนราชันย์ค่อย ๆ ลากร่างกายที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้าอย่างตลบอบอวลขึ้นรถก่อนจะขับไปด้วยความเร็วสูงอีกครั้งซึ่งปลายทางคือคอนโดของเขา
กริ๊ก!
ราชันย์ปลดล็อกประตูห้องเข้ามาก็พบว่าในห้องนั้นเปิดไฟสว่างจ้า เขาได้แต่ขมวดคิ้วแปลกใจว่าทำไมในห้องถึงถูกเปิดไฟ เพราะลืมไปสนิทเลยว่ามีอีกคนที่อยู่ในห้องนี้ด้วย เขาเดินไปเรื่อย ๆ สายตาปะทะกับผู้หญิงหนึ่งคนที่สวมเสื้อยืดสีขาวตัวโตโคร่งและใช่นั่นมันเสื้อของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย เสื้อตัวนั้นถ้าอยู่ในร่างกายของเขาจะพอดีสมส่วนแต่พออยู่บนร่างของเธอ เรียกได้ว่ามันคือชุดคลุมเลยก็ว่าได้
เธอที่กำลังต้มน้ำร้อนในกระทะ ข้าง ๆ กันมีซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ถูกเปิดซองไว้แล้ว คาดว่าเธอเองคงกำลังจะหาอะไรกิน เธอเองก็มีอาการสะดุ้งเล็กน้อยเขาไม่ได้พูดอะไร ได้แต่กวาดสายตาดูรอบ ๆ ห้อง ก่อนสายตาจะกวาดไปหยุดที่ริมฝีปากเรียวเล็กสีพีชที่มองยังไงก็รู้สึกหวาน ราชันย์ค่อย ๆ เดินไปใกล้เธอ และเธอเองก็แสดงอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด วงแขนแกร่งของเขาคร่อมร่างเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้
สายตาผลุบมองริมฝีปากจิ้มลิ้มอย่างอดใจไม่ไหว เขาค่อย ๆ ก้มลงช้า ๆ ริมฝีปากหนาประกบจูบริมฝีปากบางของเธอทันที กอหญ้าสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะดันหน้าอกใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามออกแรง ๆ แต่เมื่อเทียบกับแรงของราชันย์แล้วแทบจะเทียบว่านี่คือแรงมดตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ ราชันย์ไม่สนใจอาการดิ้นดุ๊กดิ๊กของเธอ แต่ยิ่งเพิ่มความวาบหวามให้เธอด้วยการใช้เรียวลิ้นไล่ต้อนหาความหวานในโพรงปาก
มีหรือลูกนกตัวน้อย ๆ จะหลบหนีความปราดเปรียวเชี่ยวชาญของราชันย์ได้ เพียงไม่นานร่างกายของกอหญ้าก็อ่อนยวบตอบสนองรสสัมผัสที่ราชันย์มอบให้ ตะเกียบที่อยู่ในมือหล่นร่วงลงพื้น ความรู้สึกที่ได้รับทำให้ร่างกายของเธอแทบจะทรงตัวไม่อยู่เพียงเพราะรสจูบของเขามันช่างช่ำชองแต่อ่อนหวานเป็นอย่างมาก
ราชันย์ขยับมือไปปิดแก๊สลงทันทีก่อนจะอุ้มร่างบางของเธอด้วยมือข้างเดียวเท่านั้น โดยไม่ยอมถอดถอนริมฝีปากออกมาเลยแม้แต่น้อย พอรู้ตัวอีกทีแผ่นหลังบอบบางของกอหญ้าก็ปะทะเข้ากับความนุ่มของที่นอนที่เธอเองเพิ่งจะลุกออกไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้เท่านั้น เธอต้องตกใจอีกครั้งเมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ในห้องกับราชันย์อีกแล้วและยิ่งได้กลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งยิ่งทำให้เธอรู้สึกอยากเป็นลมเสียให้ได้
เธอพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกจากรสจูบที่หอมหวานที่ราชันย์ปนเปลอ แต่มือของราชันย์ก็ไม่หยุดนิ่ง เขาเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดแบรนด์ดังของตัวเองออกพร้อมกับบรรเลงจูบอันเร่าร้อนราวกับกำลังชิมลิ้มเลียลูกอมรสเลิศ เพียงไม่กี่วินาที กางเกงของเขาก็หล่นร่วงข้างเตียงภายในพริบตา เหลือเพียงกางเกงชั้นในเท่านั้น ก่อนที่มือสากของเขาจะค่อย ๆ ลูบไล้ไปที่ขาขาวของเธออย่างเชื่องช้า และรับรู้ได้ว่าเธอไร้ซึ่งปราการป้องกันใด ๆ ทุกตารางนิ้วที่มือหนาของราชันย์เลื่อนผ่านมันสร้างความร้อนรุ่มให้กับสกุณาเป็นอย่างมากก่อนที่จะพบกับอกอวบอิ่มสองข้างเขากำขยำอย่างแรงจนร่างบางสะเทือนด้วยความปวดร้าวปนเสียวซ่าน
“อ๊ะ”
ราชันย์ถอนริมฝีปากออกก่อนจะมองใบหน้าหวานของกอหญ้าชัด ๆ ด้วยสายตาหยาดเยิ้มอย่างไม่อาจกลั้นได้
“คุณราชันย์หยุดก่อนค่ะ”
“ทำไมต้องหยุด?”
“คือ..คือ..กอหญ้ายังไม่ได้ไปซื้อยาคุมเลยค่ะ”
“แล้วทำไมไม่ไป”
“กอหญ้าไม่ได้พกอะไรมาเลยค่ะทั้งเงิน ทั้งโทรศัพท์”
“แต่ผมอดไม่ไหวแล้ว”