เขามากับผัว 2

2004 Words
เขามากับผัว หลังจากปรางขวัญกับชัยพฤกษ์เดินไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง จิรายุก็เดินเลี่ยง ๆ ออกมาเข้าห้องน้ำ พร้อมกับต่อสายหาเจ้านายหนุ่มเพื่อจะรายงานว่าวิศวกรที่ย้ายมาใหม่มาแล้ว ไม่นานปลายสายก็กดรับ [เออ ว่าไงวะ] "งานที่นู่นใกล้เสร็จยังพี่" [ใกล้ละ อีกสักหน่อยก็คงกลับ แต่วันนี้กูไม่เข้าบริษัทแล้วนะ กูจะกลับบ้านเลย มีอะไรเอาไว้บนโต๊ะได้เลย] "รับทราบครับ" [เออ แล้วโทร. มามีไร] "ผมจะโทร. มาบอกว่าวิศวกรที่ย้ายมาใหม่สองคนมาถึงแล้วนะ" [มาแล้วก็ดี ดูแลพวกเขาดี ๆ ล่ะ] "ดีแน่นอนครับผม พี่ไม่ต้องห่วง" จิรายุพูดด้วยน้ำเสียงกรุ้มกริ่ม ทำให้ภัท**นนเอะใจได้ไม่ยาก [ผู้หญิง?] ภัท**นนเลิกคิ้วถาม "โคตรสวยเลยล่ะ บอกเลยว่าสวยกว่าทุกคนที่พี่เคยคบมาเลยและสวยกว่าคนที่คบอยู่" [ขนาดนั้นเลย?] ภัท**นนถามกลับอย่างขำ ๆ อยากรู้ จริง ๆ ว่าถ้าสวยกว่าที่เขาคบอยู่ คือจะสวยขนาดไหน "สุด ๆ พี่ต้องมาเห็นเอง บอกเลยใจเต้นแน่นอน ตอนผมเจอหน้าเขาใจผมนี่เต้นรัว ๆ เลย แต่น่าเสียดาย..." [เสียดายอะไรวะ] "เขามากับผัว" [เฮ้ย มาแพ็กคู่เลยเหรอวะ แห้วแดกเลยสิมึง] ภัท**นน ว่าอย่างติดตลก บริษัทเขาไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่พนักงานจะคบหากัน หรือใครจะเป็นผัวเป็นเมียกันบริษัทก็ไม่มีกฎห้าม เพียงแต่อย่าให้กระทบกับเรื่องงานเท่านั้นเป็นพอ พูดง่าย ๆ คือต้องแยกแยะให้เป็นระหว่างเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน "มันปวดร้าวหัวใจมากเลยลูกพี่" จิรายุยกมือขึ้นมากุมอกข้างซ้าย แสร้งทำสีหน้าเจ็บปวด ทำราวกับคุยกันต่อหน้า [เลอะเทอะ แล้วน้องจ๋าฝ่ายบุคคลของมึงล่ะ ไหนบอกว่าแม่ของลูกไง] "น้องจ๋าอะแม่ของลูก ส่วนขวัญอะ แม่ทูนหัว" ว่าจบก็ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างถูกอกถูกใจ ทำให้โดนปลายสายพ่นคำด่าออกมาหนึ่งชุดใหญ่ ๆ ก่อนจะรู้สึกสะดุดกับชื่อที่ลูกน้องเพิ่งเอ่ยออกมา ชื่อ ‘ขวัญ’ งั้นหรือ? [เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้มึงบอกว่าคนที่เป็นแม่ทูนหัวมึงชื่ออะไรนะ] เขารู้ว่าคนที่ชื่อขวัญไม่ได้มีคนเดียวในโลก ชื่อออกจะโหลมากด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไม พอได้ยินเมื่อกี้เขากลับรู้สึก แปลก ๆ "ชื่อขวัญครับพี่ ชื่อจริงถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อปรางขวัญนะ" [ปรางขวัญ...] คราวหนี้ภัท**นนถึงกับลมหายใจสะดุด ทวนชื่อที่จิรายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง ชื่อนี้หายไปจากชีวิตเขาตั้งแต่ห้าปีที่แล้ว เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะเป็นคนคนเดียวกัน ไม่มีทาง "ฮั่นแน่! เงียบแบบนี้ อย่าบอกนะว่าได้ยินแค่ชื่อก็รู้สึกตกหลุมรักแล้วอะ ผมบอกแล้วไงว่าสวย สวยจริง ๆ สวยอย่างกับนางฟ้า" ตอนนี้ภัท**นนแทบไม่ได้ฟังสิ่งที่จิรายุพร่ำเพ้อออกมาเลย ในสมองเขาเอาแต่คิดว่าจะใช่ปรางขวัญคนเดียวกันกับที่เขาเคยรู้จักไหม จะใช่ปรางขวัญคนนั้นหรือเปล่า คนที่ทำให้หัวใจเขาแตกสลายไปเมื่อห้าปีที่แล้ว... ไม่ใช่หรอก ภัท**นนได้แต่บอกตัวเองแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา โลกไม่ได้กลมขนาดนั้น มันเป็นไปไม่ได้แน่ ๆ ก็แค่คนชื่อเหมือนเท่านั้นแหละ "พี่! ลูกพี่ครับ ยังอยู่ในสายหรือเปล่าเนี่ย" จิรายุเรียกปลายสายเสียงดังเมื่อรู้สึกว่าปลายสายเงียบไปนานกว่าปกติ ภัท**นนรีบดึงสติตัวเองกลับมา ก่อนจะขานรับด้วยน้ำเสียงที่นิ่งขรึมจนผิดปกติ [เออ ยังอยู่] "โธ่ ผมก็คิดว่าหัวใจวายตายไปแล้ว นี่แค่ชื่อนะเนี่ย ยังสวยขนาดนี้ อยากให้พี่มาเห็นตัวจริงฉิบหาย โคตรสวย" [ถ้ามึงยังเพ้อเจ้อไม่หยุด พรุ่งนี้มึงได้เตรียมหางานใหม่ได้เลย] ภัท**นนบอกด้วยน้ำเสียงเอาจริง ไม่มีแววของความล้อเล่น ตอนแรกเขาก็รู้สึกขำ ๆ แต่ชื่อของผู้หญิงคนนั้นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด เป็นความหงุดหงิดที่พร้อมจะพาลลงกับทุกสิ่งที่ขวางหน้า "เฮ้ย!" จิรายุตามอารมณ์เจ้านายหนุ่มไม่ทัน ก่อนหน้านี้ยังอารมณ์ดี ๆ คุยเล่นกับเขาอยู่เลย ไหงตอนนี้มาอารมณ์เสียได้ยังไงกัน [ไปทำงาน อย่าให้กูต้องพูดซ้ำ] พูดจบภัท**นนก็กดตัดสายไปโดยไม่รอให้จิรายุได้พูดอะไรต่อ ก่อนจะสะบัดศีรษะแรง ๆ ไล่ความคิดฟุ้งซ่านที่ก่อตัวขึ้นมาให้พ้นไป ก็แค่คนชื่อเหมือน เขาจะไม่ยอมให้เพียงแค่ ‘ชื่อ’ ของผู้หญิงคนนั้นมาทำให้เขาเสียการเสียงานไม่ได้ เพราะสำหรับเขาแล้วผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีค่าพอให้เขาจดจำเลยด้วยซ้ำ "หอมแก้มพี่ก่อน ไม่หอมพี่ไม่ให้นะ" ชายหนุ่มพูดพร้อมชูรูปเล่มวิทยานิพนธ์หรือธีสิสของตัวเองขึ้นเหนือศีรษะ พลางเอียงแก้มไปใกล้ ๆ หญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษา "ไม่เอา พี่ริวอย่าแกล้ง" หญิงสาวพยายามกระโดดยื้อแย่งรายงานเล่มนั้นที่เธอขอให้เขาเอามาให้ เพราะจะใช้เป็นตัวอย่างในการทำวิทยานิพนธ์เพื่อจบการศึกษาของตัวเอง "เดี๋ยวขวัญต้องไปทำงานต่ออีก วันนี้ขวัญมีนัดส่งงานกับลูกค้านะ" "ก็แค่หอมแก้มพี่เอง พี่ก็ต้องรีบไปทำงานเหมือนกัน อะ หอมดิ" ชายหนุ่มยังไม่ยอมให้ง่าย ๆ แถมยังยื่นแก้มเข้าไปใกล้หน้าหญิงสาวมากกว่าเดิม "ยิ่งหอมช้า ยิ่งได้ช้า ไปไม่ทันนัดลูกค้าไม่รู้ด้วยนะ บอกไว้ก่อน" "นี่พี่ริวแกล้งขวัญเหรอ" "แกล้งตรงไหน แค่อยากให้แฟนหอมแก้ม พี่ผิดเหรอ?" หญิงสาวทำหน้างอง้ำ วันนี้เธอเสียรู้เขาอีกแล้ว "ถ้าหอมแล้วต้องให้เลย โอเคไหม" เธอถามย้ำอย่างไม่ค่อยไว้ใจ คนอย่างเขาไว้ใจได้ที่ไหนล่ะ ได้คืบจะเอาศอกทุกที "พี่เคยไม่ให้ขวัญด้วยเหรอ ขออะไรพี่ก็ให้หมดนั่นแหละ" "แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนทุกครั้ง" "อันนี้ยอมรับครับ" ภัท**นนหัวเราะ "แต่ข้อแลกเปลี่ยนพี่ ขวัญมีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น ไม่เสียอะไรสักอย่าง" "ใครบอกว่าไม่เสีย" หญิงสาวรีบเถียงกลับคอเป็นเอ็น ใครบอกว่าเธอไม่เสียอะไร ทุกทีที่มีข้อแลกเปลี่ยน เธอก็เสียทุกครั้งนั้นแหละ...เสียเปรียบเขาน่ะ ภัท**นนหัวเราะอีกครั้งเสียงดังกว่าเดิม เพราะรู้ว่าหญิงสาวหมายถึงอะไร "ไม่เอาน่าที่รัก ถ้าเป็นเรื่องนั้นเราก็วินวินกันทั้งคู่นั่นแหละ" "พอเลย ขวัญไม่เถียงเรื่องนี้กับพี่ริวแล้ว" เถียงไปก็ไม่มีทางชนะเขาหรอก เขามันเจ้าเล่ห์เกินไป เธอสู้ไม่ไหวหรอก "แล้วจะหอมแก้มพี่ได้หรือยัง รอนานแล้วนะเนี่ย" ชายหนุ่มยื่นแก้มเข้ามาอีกครั้ง "ห้ามตุกติกนะ ไม่งั้นขวัญจะโกรธจริง ๆ ด้วย" "เร็ว ๆ เถอะน่า รีบไม่ใช่หรือไง" "ก็ได้ ๆ" ปรางขวัญบอกก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บแก้มเขาเร็ว ๆ แล้วถอนออกมา ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยพอใจนัก "ขี้โกงว่ะ นี่เรียกจุ๊บแก้ม ไม่ได้เรียกว่าหอมแก้ม เอาใหม่เลย" "พี่ริวอย่ามาเจ้าเล่ห์นะ" "ใครกันแน่ที่เจ้าเล่ห์ ขวัญนั่นแหละ บอกให้หอม ไม่ได้บอกให้จุ๊บ เอาใหม่เลย เร็ว ๆ" ปรางขวัญกลอกตาไปมาให้กับความเจ้าเล่ห์ของเขา ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเขาหนัก ๆ อีกครั้ง แต่ก่อนที่เธอจะได้ผละออกมา ภัท**นนก็ยกมือขึ้นมาล็อกใบหน้าของเธอไว้ แล้วหอมแก้มทั้งสองข้างของเธอหนัก ๆ ก่อนจะระดมจูบไปทั่วใบหน้าอย่างนึกมันเขี้ยว "อื้อ! พี่ริวพอแล้ว" ปรางขวัญใช้มือดันหน้าเขาไว้ แล้วพยายามเบี่ยงหน้าหลบการจู่โจมของเขา แต่ก็ไม่เป็นผล เธอไม่สามารถสู้คนเจ้าเล่ห์อย่างเขาได้เลย สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้เขาเอาเปรียบเธอจนพอใจ "อะ" เมื่อเอาเปรียบเธอจนพอใจแล้ว ภัท**นนก็ยื่นเล่มวิทยานิพนธ์มาให้ด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขสุด ๆ ปรางขวัญตวัดสายตาไปมองอย่างเคือง ๆ "พอใจแล้วเหรอ" เธอถามเสียงตึง "จริง ๆ ก็ยัง อีกสักรอบดีไหม" ชายหนุ่มไม่พูดเปล่า ยื่นหน้าเข้าไปใกล้หมายจะหอมแก้มหญิงสาวหนัก ๆ ให้ชื่นใจอีกสักฟอด "อื้อออ! อย่าค่ะ พอแล้ว" มือบางดันใบหน้าเอาไว้ก่อนจะถูกเขาจู่โจมอีกรอบ แล้วรีบลุกหนีไปให้ห่างจากคนเจ้าเล่ห์ที่สุด ทำให้ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดังด้วยความสะใจที่สามารถแกล้งแฟนสาวได้ "ไม่ต้องมาหัวเราะเลย คนเจ้าเล่ห์" ภัท**นนมองปรางขวัญที่ทำหน้าง้ำอย่างยิ้ม ๆ ก่อนจะก้มมองนาฬิกาข้อมือ เห็นว่าใกล้ถึงหมดเวลาพักเที่ยงของเขาแล้ว "ใกล้หมดเวลาพักเที่ยงละ เดี๋ยวพี่กลับไปทำงานก่อน" "รีบไปเลย" "ทำเป็นไล่นะ เดี๋ยวเถอะ ๆ" เขาคาดโทษเธออย่างไม่จริงจังนัก "ส่วนงานนั่นน่ะ ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็แชตมาถามพี่ได้ตลอด เข้าใจไหม" หญิงสาวพยักหน้า "เข้าใจแล้ว" "แล้วก่อนจะออกไปหาลูกค้าก็แชตมาบอกพี่ด้วย ห้ามตอบช้าเกินสามสิบนาที ไม่งั้นมีเรื่องแน่" นี่คือกฎเหล็กระหว่างเธอกับเขา คือห้ามตอบแชตช้าเกินสามสิบนาที หากมีเหตุจำเป็นจริง ๆ ก็ไม่ว่ากัน แต่ขอให้บอกก่อน "เข้าใจแล้วค่า ไปได้แล้ว เดี๋ยวไปทำงานสายนะ" "ไล่อีกแล้ว อยากโดนใช่ไหม" "ขู่เก่งจัง" "เดี๋ยวก็รู้ว่าไม่ใช่แค่ขู่" เขาบอกพร้อมกับเดินไปหยิบกระเป๋าเงินกับกุญแจรถที่วางเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปหาปรางขวัญที่ยืนมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ แต่ก็ไม่ขยับหนี "พี่ไปทำงานต่อละ เดี๋ยวเย็น ๆ มารับไปทานข้าว ขอกำลังใจหน่อยครับ" แล้วเขาก็ก้มลงไปจูบหน้าผากเธอเบา ๆ ก่อนจะผละออกมายิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ปรางขวัญรู้สึกใจอ่อนยวบทุกครั้งที่เห็น จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไปทันที ภัท**นนกับปรางขวัญเรียนคณะและสาขาเดียวกัน เขาเป็นรุ่นพี่และจบการศึกษาก่อนเธอสองปีด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เขาเรียนเก่งมาก ซึ่งต่างกับเธอที่พอถู ๆ ไถ ๆ ไปได้ แต่เธอโชคดีที่ได้เขาคอยช่วยเหลือในหลาย ๆ เรื่อง ทำให้เธอเรียนผ่านพ้นมาได้จนถึงปีสี่โดยไม่ติดปัญหาอะไรเลย ถ้าไม่มีเขาคอยช่วยเธอก็คงแย่มาก ๆ และไม่รู้จะเรียนจบตามกำหนดสี่ปีหรือเปล่า ตอนนี้ภัท**นนทำงานแล้ว เขาเป็นวิศวกรของบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นบริษัทของครอบครัวเขานั่นแหละ เขาวางแผนเอาไว้ว่าถ้าเธอเรียนจบ เขาจะให้เธอทำที่เดียวกันกับเขา จะได้อยู่ใกล้ ๆ กัน ภัท**นนวางแผนอนาคตระหว่างเขากับเธอไว้มากมาย เพราะเขามั่นใจแล้วว่าผู้หญิงที่เขาจะใช้ชีวิตด้วยก็คือปรางขวัญนี่แหละ ...หากไม่เกิดเรื่องขึ้นมาเสียก่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD