“แต่งงานกับคนที่ไม่อยากแต่ง”

1376 Words
- บ้านหลังใหญ่ - “เมย์ไม่แต่ง!” เสียงของเมย์ดังก้องในห้องโถงใหญ่ ดวงตาเต็มไปด้วยความดื้อดึงและสับสน เธอหันไปมองแม่ที่ยืนหน้าเจื่อนอยู่ข้าง ๆ แล้วมองเลยไปถึงผู้ชายอีกคนที่นั่งนิ่งราวกับไม่มีความรู้สึกใด ๆ เขา…กองทัพ ลูกชายเจ้าของบ้าน “เรื่องนี้ตัดสินไปแล้ว” เสียงเข้มของพ่อกองทัพตัดบทอย่างเด็ดขาด “อีกไม่กี่วันจะจัดพิธีเรียบง่ายในบ้าน ไม่ต้องมีใครรู้” “ทำไมต้องเป็นเมย์ คุณท่านลองหาผู้หญิงคนอื่นให้เขาแต่งไม่ได้หรอคะ เมย์ว่าเมย์ไม่เหมาะหรอกค่ะ” “เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ฉันจะเป็นคนตัดสินใจเอง” หลังสิ้นสุดคำพูดเด็ดขาดของคุณท่าน พ่อของกองทัพก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องรับแขก ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันและแรงกดดันที่ยังไม่จางหาย เมย์หันขวับไปมองกองทัพทันที “นายไม่ได้อยากแต่งอยู่แล้ว ทำไมไม่พูดกับคุณท่านตรง ๆ ไปละ?” กองทัพเงยหน้ามองเธอเล็กน้อย ดวงตานิ่งเฉยเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น “คิดว่าพ่อจะฟังเหรอ?” คำตอบสั้น ๆ แต่ชัดเจนของเขาทำเอาเมย์เงียบไปชั่วขณะ เมย์เม้มปากแน่น ความรู้สึกอึดอัดตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชีวิตเธอถึงต้องมาพัวพันกับคนที่ไม่แม้แต่จะหันมามองเธอตรง ๆ แบบนี้ด้วยซ้ำ “แต่ง ๆ ไป… ครบสัญญาหนึ่งปีก็หย่า” คำพูดของกองทัพฟังดูง่ายราวกับเรื่องที่พูดมันไม่ใช่ชีวิตจริง ไม่ใช่ชีวิตของคนสองคนที่ถูกจับโยนให้ผูกพันกันด้วยคำว่า ‘แต่งงาน’ “สัญญา? สัญญาอะไร?” เมย์ถามเสียงแข็ง ใจเริ่มร้อนวูบวาบอย่างหงุดหงิด กองทัพหันมามองเธอตรง ๆ เป็นครั้งแรก ดวงตาคู่นั้นยังคงเรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความแน่วแน่ “หนึ่งปี พอครบแล้ว ฉันจะเป็นคนไปขอหย่าเอง” เขาพูดจบเขาลุกขึ้นเตรียมตัวเดินออกไปแต่เขาก็หันมาอีก “นอกจากคนในบ้านหลังนี้… ห้ามให้ใครรู้อีกเด็ดขาด” เขาพูดชัดถ้อยชัดคำ ดวงตาเรียบนิ่งไร้อารมณ์เช่นเคย “ในมหาลัย ถ้าเจอกันก็ไม่ต้องทัก คิดซะว่าเราไม่รู้จักกัน… ฉันไม่ชอบความวุ่นวาย” …และนั่นอาจจะเป็นประโยคที่ยาวที่สุดเท่าที่เขาเคยพูดกับเธอก็ว่าได้ เมย์เลิกคิ้ว เหลือบตามองเขาอย่างสมเพชปนประชด “ว้าว… พูดกับฉันสามประโยคติดแบบนี้ ไม่เหนื่อยตายเหรอ?” กองทัพหันมามองเธอแค่เสี้ยววินาที ก่อนจะละสายตากลับไปเหมือนเดิมโดยไม่ตอบอะไรอีก เงียบ… เงียบจนน่าหมั่นไส้ “โอเค… ได้เลยคุณสามีในนาม ฉันก็ไม่ชอบความวุ่นวายเหมือนกัน เพราะงั้นอยู่ห่าง ๆ อย่างสงบสุขเถอะ หวังว่าเราจะไม่ต้องพูดกันอีกจนกว่าจะครบปี” เขายังคงนิ่ง ไม่แม้แต่จะพยักหน้าให้ด้วยซ้ำ และนั่นแหละ… จุดเริ่มต้นของ “ความสัมพันธ์ลับ ๆ” ระหว่าง เด็กสาวแมนๆ กับ คุณชายเย็นชา ที่ไม่มีใครรู้ว่าจะลงเอยยังไง. “แม่… ทำไมคุณท่านถึงต้องเลือกเมย์ด้วยอ่ะ ผู้หญิงบนโลกนี้ก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ” ฉันหันไปหันมองแม่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถามและความคับข้องใจ “คุณท่านเขาเอ็นดูเราน่ะลูก เขาเห็นเมย์มาตั้งแต่เด็ก ๆ” แม่พูดเสียงอ่อน สีหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ “แล้วไงอะ… คุณท่านเอ็นดูหนู แต่ลูกชายเขาไม่เอ็นดูหนูด้วยนี่นา” น้ำเสียงประชดประชันปนเจ็บปวดหลุดออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แม่ถอนหายใจยาว ก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือฉันเบา ๆ “เห้อ… แล้วจะให้แม่ทำยังไงล่ะลูก แม่เองก็ปฏิเสธคุณท่านเขาไม่ได้หรอก เขามีบุญคุณกับแม่… แล้วก็กับลูกมากแค่ไหน เมย์ก็รู้อยู่เต็มอก” ฉันเม้มปากแน่น พยายามกลืนก้อนสะอื้นที่ตีตื้นขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ เพราะสุดท้าย… ต่อให้ไม่อยากแต่งแค่ไหน ก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอะไรอยู่ดี. เหมือนถูกลากให้เข้าไปอยู่ในบทละครที่ไม่ได้อยากเล่นตั้งแต่แรก. นี่… ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เรื่องราวที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อเด็กสาวธรรมดา ลูกแม่บ้านธรรมดา ๆ อย่างฉัน ต้องกลายมาเป็น “ภรรยา (ลับ ๆ) ” ของลูกเจ้าของบ้าน ผู้ชายที่แทบจะไม่เคยคุยกับฉันตรง ๆ มาก่อนเลยด้วยซ้ำ แต่งงานในนาม แต่ห้ามให้ใครรู้ เจอกันในมหาลัยก็ต้องทำเป็นไม่รู้จัก อยู่ด้วยกันก็แค่ทำตามหน้าที่… เพื่อรอเวลาหย่า แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่า… ‘ความวุ่นวาย’ มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง ฉันชื่อเมย์… ลูกสาวของแม่กิ๊ฟ แม่บ้านที่ทำงานให้กับครอบครัวใหญ่ตระกูลหนึ่งมานานหลายปี แม่บอกว่าโชคดีที่ได้ทำงานกับบ้านนี้ เพราะพวกเขาใจดี มีเมตตา ไม่ดูถูกคนใช้ และฉัน… ก็เติบโตมากับคำว่า “เป็นหนี้บุญคุณ” ตั้งแต่ยังไม่รู้ความ เป็นหนี้บุญคุณยังไงน่ะเหรอ… ก็เพราะเมื่อก่อน แม่ของฉันเคยทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล แถมยังเป็นเพื่อนร่วมงานกับแม่ของพี่กองทัพอีกด้วย จนกระทั่งวันหนึ่ง… แม่ถูกใส่ร้ายว่าจ่ายยาคนไข้เกินขนาด เรื่องมันบานปลายจนถึงขั้นโดนไล่ออกจากงาน ไม่มีที่ไป ไม่มีงานทำอยู่นานเกือบปี และในตอนที่ทุกอย่างดูมืดมนที่สุด แม่ของพี่กองทัพก็ยื่นมือเข้ามา เธอเสนอให้แม่ของฉันมาทำงานเป็นแม่บ้านที่บ้านของพวกเขา ไม่ใช่แค่ทำความสะอาด แต่ให้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน ดูแลทุกคนราวกับเป็นคนในครอบครัว ไม่นาน… แม่ของพี่กองทัพก็จากไปเพราะโรคร้าย แต่ก่อนที่เธอจะจากไป ก็ได้ทำข้อตกลงไว้กับแม่ของฉัน ว่าเมื่อฉันและเขาโตขึ้น ฉันกับเขา… จะต้องแต่งงานกัน และฉันเอง… ก็เพิ่งจะมารู้เรื่องนี้ ตอนที่มันสายเกินจะปฏิเสธอะไรได้แล้ว แถมคุณท่าน พ่อของพี่กองทัพ ก็เห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง คงจะมีแค่พี่จอมทัพเท่านั้น… ที่พยายามพูดคุยแทนฉัน คอยช่วยเจรจาเรื่องนี้กับคุณท่าน แต่สุดท้าย… ก็ไม่เป็นผลอยู่ดี “พี่คุยกับพ่อให้แล้วนะเมย์” เสียงของพี่จอมทัพนุ่มและจริงใจเหมือนทุกครั้ง “แต่เมย์เองก็คงรู้… ว่ายังไงก็ปฏิเสธพ่อพี่ไม่ได้หรอก ใช่ไหม” ฉันเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา พลางพยักหน้าเบา ๆ “…ค่ะ พี่จอมทัพ” “แต่งไปตามที่พ่อพี่บอกเถอะ” เขาวางมือลงบนบ่าฉันเบา ๆ “พี่ก็เห็นเรามาตั้งแต่เด็ก เปลี่ยนสถานะจากน้องสาวเป็นน้องสะใภ้… คงไม่แปลกอะไรหรอกนะ” ฉันฝืนยิ้มตอบกลับ แต่ในใจกลับรู้สึกว่างเปล่า… “ส่วนไอกองทัพ… พอเราแต่งไปแล้ว เดี๋ยวเมย์จะเข้าใจเอง… ว่าทำไมมันถึงไม่ปฏิเสธพ่อ” น้ำเสียงของพี่จอมทัพเจือด้วยความรู้บางอย่างที่ฉันจับต้นชนปลายไม่ถูก เขามองฉันนิ่ง ๆ เหมือนจะพูดอะไรอีก… แต่ก็เลือกเงียบ ปล่อยให้คำพูดนั้นลอยค้างอยู่กลางอากาศ และทิ้งความสงสัยเอาไว้ในใจฉันเต็มไปหมด “เมย์จะไปเข้าใจอะไรได้… ป่านนี้น้องชายของพี่จอง คงไปนั่งพิมพ์สัญญาเรื่องหย่าไว้รอแล้วมั้งคะ” ฉันพูดประชด ปลายเสียงแอบสั่นนิด ๆ อย่างไม่ตั้งใจ แต่คนฟังกลับยิ้มมุมปากราวกับรู้อะไรบางอย่างมากกว่าที่ฉันรู้ “หึ… มันไม่หย่ากับเรา ง่าย ๆ หรอก” พี่จอมทัพพูดพลางยกยิ้มบาง ๆ อย่างรู้ทัน “ไม่เชื่อก็ลองดูสิ… พี่ว่าพี่ค่อนข้างรู้จักน้องชายตัวเองอยู่นะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD