“ทำแผลหรือทำใจ”

1642 Words
หลังจากที่ฉันรับกล่องทำแผลมาจากแม่มาไว้ในมือ ตอนนี้ฉันก็มายืนแข็งเป็นหินอยู่หน้าห้องของเขา… ใช่ ห้องของพี่กองทัพนั่นแหละ และที่น่าเศร้ากว่าคือ ฉันยืนอยู่ตรงนี้มาจะครบสิบ นาทีแล้ว! ยืนนิ่งจนฝ่ามือเริ่มชื้น กล่องทำแผลก็เริ่มหนักขึ้นทุกวินาที ทั้งที่จริงมันก็เบาแสนเบา แต่ทำไมขามันถึงไม่ยอมขยับสักทีวะเมย์… “เข้าไปสักทีเมย์! แม่เห็นแกยืนตรงนั้นมาตั้งนานแล้วนะ” เสียงแม่ตะโกนขึ้นมาจากชั้นล่าง จนฉันสะดุ้งเฮือก แม่ต้องเดินมาเห็นฉันยังยืนเอ๋ออยู่หน้าห้องพี่กองทัพแน่ ๆ ถึงได้ตะโกนแบบนั้น ฉันหันกลับไปมองข้างล่างเล็กน้อยก่อนตอบกลับไปเบา ๆ แต่ก็ยังมั่นใจว่าแม่ได้ยินแน่ “แม่ขึ้นมาทำให้พี่เขาเองไม่ได้เหรอ…” “แกนั่นแหละต้องทำ! อีกหน่อยก็ต้องแต่งกันอยู่แล้ว จะเขินอะไรนักหนา” ฉันกลอกตา ถอนหายใจหนัก ๆ “แล้วใครเขาอยากแต่งด้วยเล่า…” “พูดมาก เคาะห้องแล้วเข้าไปสักที!” แม่พูดจบก็ทำท่าเคาะประตูสองทีก่อนเดินหันหลังไป ทิ้งฉันไว้กับกล่องทำแผลและใจที่เต้นตุบ ๆ ตั่บ ๆ หน้าห้องเขาแบบนี้ ไม่นาน… ฉันก็ตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วยกมือขึ้นเคาะประตู ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะเบา ๆ แต่ในหัวใจฉันกลับดังกว่าระฆังโรงเรียนตอนบ่ายวันศุกร์เสียอีก ไม่มีเสียงตอบรับ… “เอ่อ… นายกองทัพ” ฉันลองเรียกเบา ๆ พอให้ได้ยินแค่หน้าประตู เงียบ… ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ลังเลอยู่แวบหนึ่งก่อนจะเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตูช้า ๆ ประตูไม่ได้ล็อก… เสียงประตูดังแอ๊ดเบา ๆ ก่อนที่ช่องว่างจะเผยให้เห็นภาพภายในห้อง และนั่นคือวินาทีที่ฉันหยุดหายใจไปครู่หนึ่ง… ภาพตรงหน้าทำเอาฉันยืนตัวแข็ง ขยับไม่ได้แม้แต่นิดเดียว กล้ามหน้าท้องแน่น ๆ ที่เรียงตัวเป็นลอนสวย รอยสักขนาดไม่ใหญ่นักที่อกด้านซ้ายกำลังดูดสายตาฉันไม่ให้หันไปทางอื่น ผิวของเขาขาวจัดจนน่าตกใจ… ยิ่งบวกกับหยดน้ำที่ยังเกาะพราวตามตัว ยิ่งทำให้ทุกอย่างดูเซ็กซี่จนฉันรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เขายืนเช็ดผมด้วยผ้าขนหนูสีขาวอีกผืน โดยมีอีกผืนพันไว้ต่ำแค่สะโพก… ตายแล้วไอเมย์… ตายแน่ ๆ รอบนี้! “…มีอะไร” เสียงทุ้มต่ำของเขาดึงฉันให้หลุดออกจากภวังค์เล็กน้อย แต่หัวใจก็ยังเต้นแรงอยู่ดี ฉันเผลอกลืนน้ำลายดัง “เอื้อก” แล้วรีบพูดรัวเหมือนกลัวตัวเองจะมองเขานานเกินไป “เอ่อ… แม่ให้เอากล่องทำแผลมาให้ เห็นว่านายเจ็บตรงศอกกับเข่า…” เขาขมวดคิ้วมองฉันนิ่ง ๆ สายตานั่น… ยิ่งกว่ากล้ามอีกมั้ง “วางไว้ตรงโต๊ะ แล้วออกไป” “ค่ะ!” ฉันรีบเดินเข้าไปวางกล่องบนโต๊ะใกล้เตียงโดยไม่กล้าเงยหน้ามองเขาอีก แต่ระหว่างที่กำลังจะหมุนตัวกลับ ฉันสะดุดพรมที่พื้นจนเสียหลัก… “ว้าย!” ตุบ! หน้าอก… หรือจะเรียกว่า “แผงอก” ดี? ใช่ ฉันล้มไปซบตรงแผงอกเขาเต็ม ๆ วินาทีนั้นฉันแทบอยากขุดหลุมฝังตัวเองลงไปให้รู้แล้วรู้รอด! หน้าอกนั่น… อุ่นมาก… แถมยังแน่นอีกต่างหาก “ซุ่มซ่ามตั้งแต่เด็กจนโต” เสียงเขานิ่งเหมือนไม่ได้ตกใจอะไรเลยสักนิด ผิดกับฉันที่ตอนนี้ใจเต้นแทบทะลุออกมานอกอก เขาก้มตัวลงเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เอื้อมมือมาพยุงฉันขึ้นด้วยท่าทางสบาย ๆ จนหน้าเราใกล้กันแค่ไม่กี่คืบ “ขะ…ขอโทษค่ะ” ฉันรีบพูดพลางก้มหน้ามองพื้น ไม่กล้าสบตาเขาแม้แต่นิดเดียว แต่ในจังหวะที่สายตาฉันเผลอเหลือบไปมองแขนของเขา กลับเห็นรอยฟกช้ำตรงข้อศอกอย่างชัดเจน เลือดแห้งติดอยู่ที่ผิวหนังนิดหน่อย ดูเหมือนจะถลอกจากตอนช่วยฉันล้มเมื่อตอนกลับบ้าน “แผล…” ฉันพูดพึมพำเบา ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเขาช้า ๆ “ยังไม่ทำแผลอีกเหรอ” เขาไม่ได้ตอบ แค่ยักไหล่นิด ๆ แบบไม่ใส่ใจนัก “เดี๋ยวก็หาย” ฉันขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดอยู่ในใจ แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ? “นั่งลง เดี๋ยวฉันทำให้” ฉันพูดพลางเดินกลับไปหยิบกล่องทำแผลที่วางไว้ เขามองฉันอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขัด ไม่พูดอะไร แล้วก็ยอมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาใกล้เตียงตามคำพูดของฉันเงียบ ๆ ฉันหยิบสำลีมาชุบแอลกอฮอล์ ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าเขา พยายามไม่คิดอะไรเวลาที่ต้องแตะตัวเขาเบา ๆ เพื่อเช็ดเลือดแห้งออก “เจ็บมั้ย” เขาสบตาฉันแวบหนึ่ง แล้วยกยิ้มมุมปากเบา ๆ “ถามเหมือนเป็นห่วง” “กะ…ก็คนมันรู้สึกผิดนี่” ฉันตอบติด ๆ ขัด ๆ หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง “หึ ก็แค่อุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด” เขาตอบเรียบ ๆ เสียงต่ำติดเย็นชาแบบเดิม แต่ไม่รู้ทำไม มันกลับฟังดูอ่อนลงเล็กน้อยในความรู้สึกฉัน ฉันชะงักมือนิดหน่อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขา “ยังไงก็…ขอบคุณนายมากนะ ที่ช่วยฉันไว้” เขาไม่ตอบอะไรในทันที แค่จ้องหน้าฉันนิ่ง ๆ ราวกับกำลังอ่านใจอยู่เงียบ ๆ บรรยากาศในห้องเงียบลงจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน แล้วจู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นเบา ๆ “ต่อไประวังให้มากกว่านี้” “…อืม” ฉันพยักหน้าช้า ๆ มือยังคงแตะแผลที่ศอกของเขาเบา ๆ ขณะที่หัวใจก็เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ ทั้งที่แค่เขานั่งนิ่ง ๆ มองฉัน เขาไม่ได้พูดอะไรอีก แค่ปล่อยให้ฉันทำแผลให้เงียบ ๆ แต่ในความเงียบนี้กลับมีบางอย่างอบอุ่นประหลาด… บางอย่างที่ทำให้ฉันไม่อยากลุกขึ้นไปไหนเลย และตอนนี้… ฉันก็ทำแผลเสร็จสักที เห้อออ… อึดอัดเป็นบ้า ก็จะไม่ให้อึดอัดได้ยังไง ในเมื่อคนที่ฉันต้องนั่งอยู่ด้วยใกล้ ๆ แบบนี้ เขาดันนั่งนิ่ง จ้องฉันตาไม่กระพริบ แถมไม่พูดอะไรสักคำอีกต่างหาก! ฉันเก็บกล่องทำแผลลงกล่องอย่างลวก ๆ พยายามไม่สบตาเขาอีก “เสร็จแล้วนะ… เดี๋ยวฉันเอาของลงไปเก็บให้แม่ก่อน” “อืม” เสียงตอบสั้น ๆ ชวนให้หงุดหงิดใจนิด ๆ ฉันเลยเงยหน้าขึ้นไปสบตาเขา และทันทีที่สายตาเราประสานกัน… ฉันก็รู้สึกเหมือนใจเต้นผิดจังหวะ สายตาแบบนั้นอีกแล้ว… มันไม่ใช่แค่จ้องธรรมดา แต่มันเหมือน…จ้องลึกเข้ามาในใจฉัน ฉันรีบเบือนหน้าหนีทันที “ก็… งั้น ฉันไปก่อนนะ” แต่ก่อนที่ฉันจะได้ก้าวขาออกจากห้อง ประตูยังไม่ทันปิดดี… ข้อมือฉันก็ถูกดึงไว้เบา ๆ จากด้านหลัง แรงไม่มาก… แต่พอให้หัวใจเต้นแรงกว่าที่ควร “ต่อไปเรียกฉันว่าพี่ แล้วแทนตัวเองว่าเมย์” เสียงของเขานิ่ง เรียบ… แต่มันกลับทำให้ฉันยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ ฉันหันกลับไปมองเขาอย่างงุนงง “ห๊ะ? ทำไมอ่ะ ปกติฉันก็พูดแบบนี้อยู่แล้ว…” เขายังคงมองมาแบบเดิม นิ่ง เย็น แต่ลึก ๆ กลับรู้สึกเหมือนมีแรงกดที่ทำให้ฉันไม่กล้าหลบตา “อย่าทำตัวให้คนอื่นมองว่าเธอไม่น่ารัก” เขาพูดต่อในน้ำเสียงที่ฟังเหมือนตำหนิ…แต่กลับไม่ได้ฟังดูน่ารำคาญ “รู้จักเคารพผู้ใหญ่ซะบ้าง” วินาทีนั้นฉันเถียงไม่ออกเลยสักคำ ทั้งที่ปกติ… ปากไวจะตาย หัวใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะคำว่า “ไม่น่ารัก” หรือคำว่า “ผู้ใหญ่” กันแน่นะ หรือเพราะสายตาแบบนั้น… ที่มองมาเหมือนรู้ทันฉันทุกอย่าง ฉันเบือนหน้าหนี หุบปากเงียบสนิท ก่อนจะพูดเสียงเบา “…ก็ได้ค่ะ พี่กองทัพ” แค่พูดจบ ฉันก็รีบชักมือกลับแล้วก้าวออกจากห้องแทบจะทันที แต่เหมือนพระเจ้ายังไม่ให้ฉันรอด… ข้อมือฉันก็ถูกคว้าไว้อีกครั้ง “โอ้ยยย กูจะได้ออกจากห้องไหมเนี่ยย” ฉันบ่นกับตัวเองในใจ พลางกลอกตาเบา ๆ อย่างหมดความอดทน ฉันหันไปมองเขาอีกครั้ง คราวนี้เริ่มเอือมเต็มที่ “มีอะไรอีกคะ พี่กองทัพ?” เขาไม่พูดเปล่า แต่ยังจับข้อมือฉันไว้เหมือนเดิม “คืนนี้ขึ้นมาห้องฉัน… ทำรายงานด้วย” ฉันชะงัก “หืมม? จำเป็นต้องทำที่ห้องนาย… เห้ยย ห้อง พี่ ไหมคะ?” พูดไปกัดฟันไป เพราะกลัวจะโดนสั่งสอนอีกรอบ “ฉันสะดวกห้องฉัน” เขาพูดเสียงนิ่งเหมือนเดิม แต่สายตากลับดูจริงจังขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย ฉันถอนหายใจ เอาจริงเหรอวะ ต้องทำรายงานในห้องผู้ชายที่เพิ่งเห็นรอยสักตอนอาบน้ำไปหมาด ๆ โอ้ยยย ตายแน่เมย์เอ๊ยยย “…ก็ได้ค่ะพี่” ฉันตอบกลับเสียงเบา แล้วรีบสะบัดมือเบา ๆ ออกมา ครั้งนี้เขายอมปล่อย แต่ก่อนที่ประตูจะปิด ฉันก็ยังได้ยินเสียงเขาพูดตามหลังมาเบา ๆ “อย่าลืม ” ฉันปิดประตูลงทันที หัวใจเต้นแรง… เพราะคำสั่งนั้น หรือเพราะคนพูดกันแน่นะ…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD