หลังจากที่ฉันรับกล่องทำแผลมาจากแม่มาไว้ในมือ ตอนนี้ฉันก็มายืนแข็งเป็นหินอยู่หน้าห้องของเขา…
ใช่ ห้องของพี่กองทัพนั่นแหละ และที่น่าเศร้ากว่าคือ ฉันยืนอยู่ตรงนี้มาจะครบสิบ นาทีแล้ว!
ยืนนิ่งจนฝ่ามือเริ่มชื้น กล่องทำแผลก็เริ่มหนักขึ้นทุกวินาที ทั้งที่จริงมันก็เบาแสนเบา
แต่ทำไมขามันถึงไม่ยอมขยับสักทีวะเมย์…
“เข้าไปสักทีเมย์! แม่เห็นแกยืนตรงนั้นมาตั้งนานแล้วนะ”
เสียงแม่ตะโกนขึ้นมาจากชั้นล่าง จนฉันสะดุ้งเฮือก
แม่ต้องเดินมาเห็นฉันยังยืนเอ๋ออยู่หน้าห้องพี่กองทัพแน่ ๆ ถึงได้ตะโกนแบบนั้น
ฉันหันกลับไปมองข้างล่างเล็กน้อยก่อนตอบกลับไปเบา ๆ แต่ก็ยังมั่นใจว่าแม่ได้ยินแน่
“แม่ขึ้นมาทำให้พี่เขาเองไม่ได้เหรอ…”
“แกนั่นแหละต้องทำ! อีกหน่อยก็ต้องแต่งกันอยู่แล้ว จะเขินอะไรนักหนา”
ฉันกลอกตา ถอนหายใจหนัก ๆ
“แล้วใครเขาอยากแต่งด้วยเล่า…”
“พูดมาก เคาะห้องแล้วเข้าไปสักที!”
แม่พูดจบก็ทำท่าเคาะประตูสองทีก่อนเดินหันหลังไป ทิ้งฉันไว้กับกล่องทำแผลและใจที่เต้นตุบ ๆ ตั่บ ๆ หน้าห้องเขาแบบนี้
ไม่นาน… ฉันก็ตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วยกมือขึ้นเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะเบา ๆ แต่ในหัวใจฉันกลับดังกว่าระฆังโรงเรียนตอนบ่ายวันศุกร์เสียอีก
ไม่มีเสียงตอบรับ…
“เอ่อ… นายกองทัพ”
ฉันลองเรียกเบา ๆ พอให้ได้ยินแค่หน้าประตู
เงียบ…
ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ลังเลอยู่แวบหนึ่งก่อนจะเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตูช้า ๆ
ประตูไม่ได้ล็อก…
เสียงประตูดังแอ๊ดเบา ๆ ก่อนที่ช่องว่างจะเผยให้เห็นภาพภายในห้อง
และนั่นคือวินาทีที่ฉันหยุดหายใจไปครู่หนึ่ง…
ภาพตรงหน้าทำเอาฉันยืนตัวแข็ง ขยับไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
กล้ามหน้าท้องแน่น ๆ ที่เรียงตัวเป็นลอนสวย รอยสักขนาดไม่ใหญ่นักที่อกด้านซ้ายกำลังดูดสายตาฉันไม่ให้หันไปทางอื่น ผิวของเขาขาวจัดจนน่าตกใจ… ยิ่งบวกกับหยดน้ำที่ยังเกาะพราวตามตัว ยิ่งทำให้ทุกอย่างดูเซ็กซี่จนฉันรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
เขายืนเช็ดผมด้วยผ้าขนหนูสีขาวอีกผืน โดยมีอีกผืนพันไว้ต่ำแค่สะโพก…
ตายแล้วไอเมย์… ตายแน่ ๆ รอบนี้!
“…มีอะไร”
เสียงทุ้มต่ำของเขาดึงฉันให้หลุดออกจากภวังค์เล็กน้อย แต่หัวใจก็ยังเต้นแรงอยู่ดี
ฉันเผลอกลืนน้ำลายดัง “เอื้อก” แล้วรีบพูดรัวเหมือนกลัวตัวเองจะมองเขานานเกินไป
“เอ่อ… แม่ให้เอากล่องทำแผลมาให้ เห็นว่านายเจ็บตรงศอกกับเข่า…”
เขาขมวดคิ้วมองฉันนิ่ง ๆ สายตานั่น… ยิ่งกว่ากล้ามอีกมั้ง
“วางไว้ตรงโต๊ะ แล้วออกไป”
“ค่ะ!”
ฉันรีบเดินเข้าไปวางกล่องบนโต๊ะใกล้เตียงโดยไม่กล้าเงยหน้ามองเขาอีก แต่ระหว่างที่กำลังจะหมุนตัวกลับ ฉันสะดุดพรมที่พื้นจนเสียหลัก…
“ว้าย!”
ตุบ!
หน้าอก… หรือจะเรียกว่า “แผงอก” ดี?
ใช่ ฉันล้มไปซบตรงแผงอกเขาเต็ม ๆ
วินาทีนั้นฉันแทบอยากขุดหลุมฝังตัวเองลงไปให้รู้แล้วรู้รอด!
หน้าอกนั่น… อุ่นมาก… แถมยังแน่นอีกต่างหาก
“ซุ่มซ่ามตั้งแต่เด็กจนโต”
เสียงเขานิ่งเหมือนไม่ได้ตกใจอะไรเลยสักนิด ผิดกับฉันที่ตอนนี้ใจเต้นแทบทะลุออกมานอกอก
เขาก้มตัวลงเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เอื้อมมือมาพยุงฉันขึ้นด้วยท่าทางสบาย ๆ จนหน้าเราใกล้กันแค่ไม่กี่คืบ
“ขะ…ขอโทษค่ะ” ฉันรีบพูดพลางก้มหน้ามองพื้น ไม่กล้าสบตาเขาแม้แต่นิดเดียว
แต่ในจังหวะที่สายตาฉันเผลอเหลือบไปมองแขนของเขา กลับเห็นรอยฟกช้ำตรงข้อศอกอย่างชัดเจน เลือดแห้งติดอยู่ที่ผิวหนังนิดหน่อย ดูเหมือนจะถลอกจากตอนช่วยฉันล้มเมื่อตอนกลับบ้าน
“แผล…” ฉันพูดพึมพำเบา ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเขาช้า ๆ
“ยังไม่ทำแผลอีกเหรอ”
เขาไม่ได้ตอบ แค่ยักไหล่นิด ๆ แบบไม่ใส่ใจนัก “เดี๋ยวก็หาย”
ฉันขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดอยู่ในใจ แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ?
“นั่งลง เดี๋ยวฉันทำให้” ฉันพูดพลางเดินกลับไปหยิบกล่องทำแผลที่วางไว้
เขามองฉันอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขัด ไม่พูดอะไร แล้วก็ยอมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาใกล้เตียงตามคำพูดของฉันเงียบ ๆ
ฉันหยิบสำลีมาชุบแอลกอฮอล์ ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าเขา พยายามไม่คิดอะไรเวลาที่ต้องแตะตัวเขาเบา ๆ เพื่อเช็ดเลือดแห้งออก
“เจ็บมั้ย”
เขาสบตาฉันแวบหนึ่ง แล้วยกยิ้มมุมปากเบา ๆ
“ถามเหมือนเป็นห่วง”
“กะ…ก็คนมันรู้สึกผิดนี่” ฉันตอบติด ๆ ขัด ๆ หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง
“หึ ก็แค่อุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด”
เขาตอบเรียบ ๆ เสียงต่ำติดเย็นชาแบบเดิม แต่ไม่รู้ทำไม มันกลับฟังดูอ่อนลงเล็กน้อยในความรู้สึกฉัน
ฉันชะงักมือนิดหน่อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขา
“ยังไงก็…ขอบคุณนายมากนะ ที่ช่วยฉันไว้”
เขาไม่ตอบอะไรในทันที แค่จ้องหน้าฉันนิ่ง ๆ ราวกับกำลังอ่านใจอยู่เงียบ ๆ
บรรยากาศในห้องเงียบลงจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน
แล้วจู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นเบา ๆ
“ต่อไประวังให้มากกว่านี้”
“…อืม”
ฉันพยักหน้าช้า ๆ มือยังคงแตะแผลที่ศอกของเขาเบา ๆ ขณะที่หัวใจก็เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ ทั้งที่แค่เขานั่งนิ่ง ๆ มองฉัน
เขาไม่ได้พูดอะไรอีก แค่ปล่อยให้ฉันทำแผลให้เงียบ ๆ แต่ในความเงียบนี้กลับมีบางอย่างอบอุ่นประหลาด…
บางอย่างที่ทำให้ฉันไม่อยากลุกขึ้นไปไหนเลย
และตอนนี้… ฉันก็ทำแผลเสร็จสักที
เห้อออ… อึดอัดเป็นบ้า
ก็จะไม่ให้อึดอัดได้ยังไง ในเมื่อคนที่ฉันต้องนั่งอยู่ด้วยใกล้ ๆ แบบนี้ เขาดันนั่งนิ่ง จ้องฉันตาไม่กระพริบ
แถมไม่พูดอะไรสักคำอีกต่างหาก!
ฉันเก็บกล่องทำแผลลงกล่องอย่างลวก ๆ พยายามไม่สบตาเขาอีก
“เสร็จแล้วนะ… เดี๋ยวฉันเอาของลงไปเก็บให้แม่ก่อน”
“อืม”
เสียงตอบสั้น ๆ ชวนให้หงุดหงิดใจนิด ๆ ฉันเลยเงยหน้าขึ้นไปสบตาเขา
และทันทีที่สายตาเราประสานกัน… ฉันก็รู้สึกเหมือนใจเต้นผิดจังหวะ
สายตาแบบนั้นอีกแล้ว…
มันไม่ใช่แค่จ้องธรรมดา แต่มันเหมือน…จ้องลึกเข้ามาในใจฉัน
ฉันรีบเบือนหน้าหนีทันที
“ก็… งั้น ฉันไปก่อนนะ”
แต่ก่อนที่ฉันจะได้ก้าวขาออกจากห้อง ประตูยังไม่ทันปิดดี…
ข้อมือฉันก็ถูกดึงไว้เบา ๆ จากด้านหลัง
แรงไม่มาก… แต่พอให้หัวใจเต้นแรงกว่าที่ควร
“ต่อไปเรียกฉันว่าพี่ แล้วแทนตัวเองว่าเมย์”
เสียงของเขานิ่ง เรียบ… แต่มันกลับทำให้ฉันยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
ฉันหันกลับไปมองเขาอย่างงุนงง “ห๊ะ? ทำไมอ่ะ ปกติฉันก็พูดแบบนี้อยู่แล้ว…”
เขายังคงมองมาแบบเดิม
นิ่ง เย็น แต่ลึก ๆ กลับรู้สึกเหมือนมีแรงกดที่ทำให้ฉันไม่กล้าหลบตา
“อย่าทำตัวให้คนอื่นมองว่าเธอไม่น่ารัก”
เขาพูดต่อในน้ำเสียงที่ฟังเหมือนตำหนิ…แต่กลับไม่ได้ฟังดูน่ารำคาญ
“รู้จักเคารพผู้ใหญ่ซะบ้าง”
วินาทีนั้นฉันเถียงไม่ออกเลยสักคำ ทั้งที่ปกติ… ปากไวจะตาย
หัวใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ
เพราะคำว่า “ไม่น่ารัก” หรือคำว่า “ผู้ใหญ่” กันแน่นะ
หรือเพราะสายตาแบบนั้น… ที่มองมาเหมือนรู้ทันฉันทุกอย่าง
ฉันเบือนหน้าหนี หุบปากเงียบสนิท ก่อนจะพูดเสียงเบา
“…ก็ได้ค่ะ พี่กองทัพ”
แค่พูดจบ ฉันก็รีบชักมือกลับแล้วก้าวออกจากห้องแทบจะทันที
แต่เหมือนพระเจ้ายังไม่ให้ฉันรอด…
ข้อมือฉันก็ถูกคว้าไว้อีกครั้ง
“โอ้ยยย กูจะได้ออกจากห้องไหมเนี่ยย”
ฉันบ่นกับตัวเองในใจ พลางกลอกตาเบา ๆ อย่างหมดความอดทน
ฉันหันไปมองเขาอีกครั้ง คราวนี้เริ่มเอือมเต็มที่
“มีอะไรอีกคะ พี่กองทัพ?”
เขาไม่พูดเปล่า แต่ยังจับข้อมือฉันไว้เหมือนเดิม
“คืนนี้ขึ้นมาห้องฉัน… ทำรายงานด้วย”
ฉันชะงัก
“หืมม? จำเป็นต้องทำที่ห้องนาย… เห้ยย ห้อง พี่ ไหมคะ?”
พูดไปกัดฟันไป เพราะกลัวจะโดนสั่งสอนอีกรอบ
“ฉันสะดวกห้องฉัน”
เขาพูดเสียงนิ่งเหมือนเดิม แต่สายตากลับดูจริงจังขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย
ฉันถอนหายใจ
เอาจริงเหรอวะ ต้องทำรายงานในห้องผู้ชายที่เพิ่งเห็นรอยสักตอนอาบน้ำไปหมาด ๆ
โอ้ยยย ตายแน่เมย์เอ๊ยยย
“…ก็ได้ค่ะพี่”
ฉันตอบกลับเสียงเบา แล้วรีบสะบัดมือเบา ๆ ออกมา
ครั้งนี้เขายอมปล่อย
แต่ก่อนที่ประตูจะปิด ฉันก็ยังได้ยินเสียงเขาพูดตามหลังมาเบา ๆ
“อย่าลืม ”
ฉันปิดประตูลงทันที หัวใจเต้นแรง…
เพราะคำสั่งนั้น หรือเพราะคนพูดกันแน่นะ…