5. มีอาการ

1558 Words
" ที่แรกพี่ก็จะไม่มา แต่ท่านแม่ทัพบอกว่าเจ้าก็อยู่ที่นี่ด้วย " ทั้งสองพูดคุยกันอย่างออกรสจนคนที่ยืนมองอยู่รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา จนต้องเดินเข้าไปหาทันที " ถวายพระพรองค์ชายพะยะค่ะ ไม่เคยรู้ว่าองค์ชายจะรู้จักกับฮูหยินของหม่อมฉันด้วยนะพะยะค่ะ " " จะไม่รู้จักได้อย่างไรกันล่ะท่านแม่ทัพ ก็ฝูหรงน่ะเป็นศิษย์น้องข้ามาตั้งแต่เด็ก รวมถึงชินลี่ด้วย " "ศิษย์น้องเช่นนั้นหรือ " " องค์ชายหมายถึงสำนักศึกษาน่ะเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ " ฝูหรงเอ่ยขึ้นก่อนที่จะหันไปส่งสายตาให้องค์ชาย ทำให้ซีกวนเข้าใจในความหมายของอีกคนที่ต้องการจะซื่อ " ใช่สำนักศึกษา เราเคยร่ำเรียนหาความรู้มาด้วยกัน " " อืม เช่นนี้นี่เอง ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันคงต้องขอตัวฮูหยินไปนั่งก่อนนะพะยะค่ะ อีกไม่นานฝ่าบาทคงจะเสด็จมาแล้ว " " อืมไปเถอะ ข้าเองก็จะไปนั่งแล้วเช่นกัน เอาไว้เราค่อยคุยกันนะ ฝูหรง " " เพคะองค์ชาย " ฟานอวี้ดึงมือเล็กให้เดินตามไปนั่งกับตน โดยมีสายตาหลายคู่จับจ้องมองอยู่ และหนึ่งในนั้นก็คือสายตาของชิงชิง ที่มองด้วยความโกรธ เพราะพักหลังมานี้ฟานอวี้ไม่ส่งข่าวมาเลย และยังเฉยชาไม่สนใจเลยสักนิด ส่วนอีกหลายคู่ต่างก็มองว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน แม้บ้างคนจะเคยได้ยินว่าฝูหรงนั้นเคยอยู่กินกับชายอีกคนมาแล้ว แต่มองอย่างไรก็ดูเป็นหญิงที่ไม่เคยผ่านเรื่องนี้มา ฟานอวี้ดึงคนตัวเล็กนั่งลงข้างๆตน ฮูหยินและแม่ทัพต่างก็มองบุตรชายของตน ถึงการกระทำที่แปลกไป " วันหน้าอย่าทำให้ข้าเสียหน้าเช่นนี้อีก " " เสียหน้าหรือเจ้าค่ะ อย่างไรกันข้าไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด แล้วอีกอย่างข้าไม่คิดว่าข้าทำอะไรผิด หากจะผิดก็คงเป็นความคิดของท่านต่างหาก " " นี่เจ้า ข้าหมายถึง เจ้ามากับข้าที่เป็นสามีเจ้า เจ้าก็ควรที่จะไว้หน้าข้าบ้าง ไม่ใช่ไปหาผู้ชายเช่นนั้น " " เขาเรียกว่าผู้ชายเข้ามาหาต่างหากล่ะ ข้าก็เดินของข้ามาดีๆท่านก็เห็น องค์ชายเดินมาหาข้าเอง " " หึ จะบอกว่าเจ้างดงามเช่นนั้นเถอะ " ฝูหรงหันมาจ้องหน้าคนตัวโต พร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ส่งใหจนคนที่ถูกส่งยิ้มให้กลืนน้ำลายลงคอทันที ฝูหรงยกยิ้มที่มุมปากก่อนที่หันไปทางที่ฮ่องเต้กำลังเดินมา " ฝ่าบาทเสด็จแล้ว " " ถวายพระพรพะยะค่ะฝ่าบาท " เสียงของคนที่มาร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ดังขึ้นเมื่อทุกคนนั่งลงเรียบร้อยอาหารทุกอย่างก็ถูกยกมา ร่วมถึงการแสดงร่ายรำของเหล่าสาวนักรำ ทุกคนต่างก็สนุกสนานกัน ต่างจากแม่ทัพใหญ่ที่จ้องมองฮูหยินตนไม่วางตา จนฝูหรงต้องหลบสายตานั้นทุกครั้งที่เผลอหันไปสบตาเข้า ฟานอวี้ยิ้มออกมาอย่างพอใจ " เจ้าชอบงานเลี้ยงนี้หรือเปล่าองค์ชายซีกวน " " พะยะค่ะฮ่องเต้ หลานชอบมากขอบพระทัยที่เมตตาพะยะค่ะ " " ข้าดีใจที่เจ้าชอบ " ฮ่องเต้เอ่ยกับหลานชายโอรสของน้องสาว ที่อภิเษกกับฮ่องเต้ต่างแคว้นที่เป็นพันธมิตรกันมานาน แม่ทัพหยางและแม่ทัพลู่พูดคุยกันอย่างออกรส ด้วยเหตุที่ไม่ได้พบเจอกันมานานหลายสิบปี ราชครูเดินเข้ามาหาหลานสาวของตน " ตามีเรื่องจะคุยกับเจ้า ข้าขอตัวหลานสาวข้าสักครู่นะท่านแม่ทัพ " " ขอรับท่านราชครู " ฟานอวี้ตอบกลับไปสายตาก็ยังคงมองตามร่างเล็กที่เดินตามตาของตนออกไป " มีอะไรหรือเจ้าค่ะท่านตา ดูท่านเป็นกังวล" " คนของเราได้ยินมาว่า ท่านแม่ทัพไม่ไปมาหาสู่คุณหนูชิงชิงแล้ว จึงทำให้ฝั่งนั้นคิดว่าเป็นเพราะเจ้า จึงคิดที่จะกำจัดเจ้า " " คุณหนูชิงชิงนี่ชั่งร้ายกาจจริงๆ แต่คิดหรือว่าจะทำร้ายคุณหนูได้ พวกอกตัญญูไม่รู้หรือว่าคุณหนูต้องเสียสละแค่ไหน " " พี่ชินลี่เบาๆหน่อย ท่านตาอย่าได้กังวลไปเลย " ฝูหรงเอ่ยกับผู้เป็นตาของตน ก่อนที่จะมีเสียงดังขึ้นตามมา " นั้นสิท่านตา ข้ายังอยู่ที่นี่อีกนาน ข้าไม่ยอมปล่อยให้ศิษย์น้องฝูหรงเป็นอะไรไปหรอก ข้าจะดูแลอย่างดี " ในขณะที่ทั้งสี่กำลังพูดคุยกัน ผู้ที่ยืนฟังอยู่ก็กำมือแน่น ที่เห็นองค์ชายมีท่าทีปกป้องฮูหยินตน แต่ไม่นานก็คลายออก เมื่อคิดได้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากตน ฟานอวี้เดินออกมาเงียบๆพร้อมคนสนิท " เพียงแค่ข้าไม่ส่งข่าวถึงนาง นางก็คิดทำเรื่องเช่นนี้แล้วหรือ เหตุใดหญิงที่น่ารักเช่นนั้นถึงได้ร้ายกาจถึงเพียงนี้ " " หรืออาจจะเป็นเพราะเรื่องนั้นขอรับ " จางเหยาเอ่ยขึ้น ฟานอวี้มองหน้าทันที " อืม คงคิดว่าคงจะใช้ประโยชน์จากข้าไม่ได้แล้วจึงคิดที่จะกำจัดตัวตนเหตุสินะ " ​​​​​" เช่นนี้ฮูหยินก็คงจะไม่ปลอดภัยเป็นแน่ขอรับ " หานชิงเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันไปมองหน้าแม่ทัพ พร้อมกันกับจางเหยา ฟานอวี้ยิ้มก่อนจะเอ่ยออกมา " หึ คิดจะใช้ข้าเป็นกองหนุนไม่พอ พอไม่สำเร็จก็คิดที่จะทำร้ายคนของข้าเช่นนั้นหรือ ซ้ำยังเที่ยวเป่าประกาศว่าเป็นของข้าแล้วอีก" " นั้นสิหากไม่มีฮูหยิน ป่านนี้คุณหนูชิงชิงก็คงเข้าไปอยู่ในจวนท่านแม่ทัพสมใจ ท่านแม่ทัพก็คงจะได้ฮูหยินที่ร้ายกาจเช่นนี้มาอยู่ในจวนอีกคนเป็นแน่ " หานชิงเอ่ยขึ้นทำให้ฟานอวี้นิ่งไป เพราะอันที่จริงเรื่องก่อกบฏของมหาเสนานั้นตนรู้อยู่แล้ว และที่ทำทีสนิทสนมกับชิงชิงก็เพื่อจะสืบเรื่องนี้ แต่ทุกอย่างต้องพังเพราะราชองค์การแต่งงานนี่แหละ แต่แม้จะคิดเช่นนั้น ฟานอวี้ก็คิดว่ายังดีกว่าที่จะรับชิงชิงเข้ามาอยู่ในจวน เมื่อได้เห็นว่าชิงชิงผู้น่ารักอ่อนหวานนั้นกลายเป็นหญิงที่ร้ายกาจถึงเพียงนี้ การที่ฝูหรงเข้ามาเป็นฮูหยินแทนที่จะเป็นชิงชิง ตอนนี้เป็นสิ่งที่ฟานอวี้คิดว่าดีกว่า แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกคนเคยอยู่กินกับชายอื่นมาก่อนแล้ว ก็ทำให้หงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆ " จากนี้จัดคนดูแลอารักขาฮูหยินให้ดี ไปที่ใดจะต้องมีคนติดตามไปเสมอ อย่าได้เผลอแม้แต่น้อย " " ขอรับ " เมื่อพูดคุยกันเสร็จฟานอวี้ก็เดินกลับไปนั่งที่ของตน ราชครูและองค์ชายก็เดินกลับมานั่งเช่นกัน เหลือเพียงฝูหรงที่ยังคงนั่งมองพระจันทร์ที่กลมโตสวยงามนั้น ฟานอวี้เดินมาหยุดก่อนที่จางเหยาจะสะกิดให้ชินลี่เดินออกมา ฟานอวี้นั่งลงข้างๆคนที่หลับตาลง " ท่านแม่ทัพไม่อยู่ดื่มกินข้างในต่อหรือค่ะ " " เจ้าหลับตาอยู่แต่ทำไมถึงรู้ว่าเป็นข้าล่ะ " " กลิ่นของท่านแม่ทัพ ไม่เหมือนผู้ใด " " เจ้าจำกลิ่นของข้าได้ด้วยหรือ " " ข้าไม่ลืมหรอก กลิ่นของคนที่ตอกย้ำฐานะข้าเสมอ ข้าจำได้ดี ไม่มีทางลืมหรอก " ในคราแรกฟานอวี้ก็ยิ้มดีใจที่คนตัวเล็กบอกว่าจำกลิ่นตนได้ แต่พอประโยคหลังหน้าก็ถอดสีทันที แต่ก็ยังคงไม่ยอมพูดจาดีๆกับคนตัวเล็ก " เจ้าจำได้ก็ดี จะได้รู้ว่าข้าไม่มีทางที่จะยอมรับเจ้ามาเป็นฮูหยินของข้าหรอก " " ท่านแม่ทัพอย่ากังวลไปเลย ข้าไม่ลืมหรอกว่าท่านเกลียดชังข้าเพียงใด เหลือเวลาเพียงแค่ 2 เดือนท่านก็ทนเห็นหน้าข้าอีกสักหน่อยเถอะ " ฝูหรงเอ่ยจบก็เดินออกไปทันที ฟานอวี้นั่งนิ่งสับสนกับความรู้สึกที่ตีกันของตัวเอง " ข้าเป็นอะไรไป คำพูดของนางทำไมถึงทำให้ข้ารู้สึกแย่เช่นนี้ เจ้าทำอะไรกับข้ากันฝูหรง " จางเหยาเดินเข้ามาหาคนที่นั่งคิดอยู่คนเดียว " ท่านแม่ทัพตอนนี้งานเลี้ยงจะเสร็จสิ้นแล้วขอรับ ท่านแม่ทัพหยางให้มาตามกลับจวนขอรับ " " อืม ข้าข้าจะไปเดี๋ยวนี้ " ฟานอวี้เดินเข้ามาด้านในอีกครั้ง สายตาก็หันไปพบกับฮูหยินที่กำลังยืนคุยกันกับองค์ชายซีกวนอยู่ ความหงุดหงิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง " หึ รีบเดินเข้ามาก็เพราะเช่นนี้สินะ " ไรท์. ปากหนักปากแข็งจริงๆเลยท่านแม่ทัพ ถ้าน้องไปจริงๆ อย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งเด้อ ไรท์ไม่สงสารนะ ​​​​​​​ฝากติดตามด้วยนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD