"เธอเป็นบ้าอะไรฮะยัยเอ๋อ"
เสียงทุ้มเอ่ยติดจะดุ ๆ หลังจากผ่านพ้นพิธีแต่งงานแบบปลอม ๆ ซึ่งมีเฉพาะเครือญาติไม่กี่คนมาร่วมพิธี ทั้งงานล้วนแต่เรียบง่ายนั่นก็เพราะไม่ใช่การแต่งงานจริง ๆ ซะหน่อย แต่ทว่าการจดทะเบียนสมรสน่ะสิกลับเป็นจริง แถมยังมีเรือนหอรอด้วยอีกต่างหาก
เขาเชื่อแล้วว่าแม่เขาเตรียมการไว้ทุกอย่างแล้วจริง ๆ แต่ก็ช่างเถอะ เขาเพียงแค่ต้องอดทนอยู่กับยัยนี่เเค่หนึ่งปีตามที่ตกลงกันไว้ก็เท่านั้น หลังจากนั้นแล้วชีวิตเขาก็จะเป็นอิสระ
"ดีใจไงคะ ดีใจมากด้วย"
หญิงสาวเอ่ยพลันฉีกยิ้มกว้าง เธอมองแหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้ายอยู่หลายครั้ง แล้วก็ยิ้มออกมาราวกับคนบ้าอย่างที่เขาว่านั่นแหละ ก็เธอดีใจมากนี่ เธอโชคดีได้แต่งงานกับผู้ชายที่เธอหลงรักมาตลอด แถมตอนนี้เธอกับเขามีบ้านที่เป็นเรือนหออยู่ด้วยกันอีกด้วย มันเป็นความฝันตั้งแต่เด็กจนโตของเธอเลยก็ว่าได้
"คงจะอยากแต่งงานกับฉันมากล่ะสิท่า" ไต้ฝุ่นเอ่ยปากพร้อมกับทำตามองบน เขานี่มันขยันทำหน้าแบบนี้เป็นที่สุด
"ใช่ค่ะ ได้แต่งแล้วด้วย ฮะ ฮ่า ฮ่า ดีใจ ๆ ~"
ยี่หวาว่าพลันกระโดดโลดเต้น ตอนนี้เธอสวมชุดนอนตัวโคร่งเป็นที่เรียบร้อย หลังจากผ่านงานพิธีต่าง ๆ ในช่วงเช้าเสร็จก็มาต่อช่วงเย็นซึ่งก็คือการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ หลังจากนั้นผู้ใหญ่ต่างก็กลับกันไปหมดเพราะอยากให้เวลาส่วนตัวกับทั้งเธอและเขา อยากให้สามีภรรยา (ปลอม ๆ) ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง
"เธออย่าหลอน ฉันแต่งงานกับเธอเพราะอะไรเธอไม่รู้หรือไง"
"......"
ยี่หวาหยุดชะงักทันที ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าไต้ฝุ่นแต่งงานกับเธอเพราะคำทำนายที่ทำเอาคุณหญิงแก้วตาคิดหนักมาตลอด แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามเธอก็ยังยินดีที่จะแต่งงานกับเขา แม้รู้ว่าในใจเขาไม่เคยมีเธออยู๋ในนั้นเลยก็เถอะ แต่เธอเชื่อว่าสักวันเขาอาจจะรู้สึกดีกับเธอขึ้นมาบ้าง น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน นับประสาอะไรกับใจคนเรา...
"รู้แล้วค่ะ ๆ แต่ถ้าภายในหนึ่งปีนี้หวาทำให้พี่ชอบหวาได้จริง ๆ ล่ะคะ?"
"เป็นไปไม่ได้"
"ถ้าได้ล่ะคะ?" ยี่หวายังคงถามไม่เลิก
"เธอก็ไม่ลองถามว่าถ้าเกิดมันเป็นไปไม่ได้ล่ะ?"
"หวาก็จะหย่าให้ตามที่ตกลงกัน" คนตัวเล็กพูดด้วยสีหน้าและแววตาเปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลา เธอดูใจเย็นและใจดีกับทุกสิ่งอย่าง ช่างต่างกันกับเขาซะจริง
"อย่าลืมคำพูดตัวเองแล้วกัน ไม่ใช่พอครบวันที่จะหย่าแล้วไม่ยอมหรอกนะ ฉันจะหักคอเธอคอยดูเถอะ"
ไต้ฝุ่นพูดคล้ายกับคนจริงจังเอามาก ๆ แต่ยี่หวากลับไม่สนใจเลยสักนิด สิ่งเดียวที่เธอสนนั่นก็คือทำอย่างไรสามีตรงหน้าของเธอจะยอมใจอ่อนรับรักเธอสักที เธอมีเวลาเพียงแค่หนึ่งปีเพื่อเอาชนะใจเขาเท่านั้นนะ
"ถึงวันนั้นพี่ก็จะขอให้หวาอยู่ต่อเชื่อสิคะ บางทีตอนนั้นเราอาจมีลูกด้วยกันคนหนึ่งแล้วก็ได้"
คนตัวเล็กยังเพ้อเจ้อไม่หยุดหย่อน ทำเอาไต้ฝุ่นรีบดีดตัวลุกจากเตียงและเตรียมลากคอยัยเอ๋อนี่ออกจากห้องในทันที เขารู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมากะทันหัน เกิดยัยนี่คิดจะปลุกปล้ำเขาเพื่อทำลูกเล่าจะทำอย่างไร? เขาก็กลัวเป็นเหมือนกันนะ
"อย่าแม้แต่จะคิด คนแบบเธอไม่มีวันได้แตะต้องตัวฉันแน่นอนยัยเอ๋อ ออกไปจากห้องฉันได้แล้วฉันจะนอน" ไต้ฝุ่นรีบเอ่ยปากไล่หญิงสาวในทันที
"เรานอนห้องเดียวกันไม่ได้เหรอคะ? หวาไม่อยากอยู่คนเดียว"
คนตัวเล็กเอ่ยเบาลงพร้อมกับทำตาละห้อย เธอไม่ได้ทำแบบนี้เพราะเรียกร้องความสนใจหรืออยากให้เขาสงสารแต่อย่างใด เธอไม่อยากอยู่คนเดียวจริง ๆ ไม่รู้สิ...แม้จะมีคุณป้าที่รักและเอ็นดูเธอมาก แต่ก็ไม่รู้ทำไมเธอยังโหยหาคำว่าครอบครัวและความรักกันนะ
"ไม่ได้เด็ดขาด ออกไปเลยนะ ถ้าพูดไม่รู้เรื่องพรุ่งนี้ฉันจะหย่ากับเธอไม่สนคุณแม่แน่"
ไต้ฝุ่นพูดจาข่มขู่เธอให้รู้จักกลัวและเลิกหน้ามึนสักที ซึ่งก็ได้ผลเพราะยี่หวาดูท่าจะคิดตามหรือไม่แน่ว่าเธออาจจะกลัวเขาขอหย่าจริง เธอพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนที่จะเดินออกไปยังห้องของตนซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา ไต้ฝุ่นจึงโล่งใจมาได้บ้างและเดินกลับมาล้มตัวลงนอนพักเพราะความเหนื่อยล้าที่เล่นงานเขาตลอดทั้งวัน
.
.
.
"ตื่นได้แล้วค่ะที่รัก"
"อื้ม~~"
แม้เปลือกตายังคงปิดสนิท แต่ทว่าหูของเขากลับได้ยินเสียงที่ดังขึ้นข้างหู เสียงนั่นเป็นเสียงที่คุ้นเคยอยู่ก็จริง แต่ประโยคนั้นกลับแปลกใหม่แบบที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน หรืออาจเป็นเพราะเขานั้นกำลังฝันถึงชีวิตหลังแต่งงานอย่างตอนเด็ก ๆ เคยวาดฝัน คนที่เขาเฝ้ารอ และเป็นคนสำคัญในใจเขา แต่ทว่า...
"พี่ฝุ่น หวาทำอาหารเช้าไว้รอแล้วนะคะ เลิกเป็นคนแก่ขี้เซาแล้วตื่นนอนมาได้แล้ว"
"เธออีกแล้วเหรอเนี่ย!"
ความฝันพังทลายเพราะรู้ว่าคนที่อยู่ข้างเขาคือยี่หวาไม่ใช่คนอื่น ไต้ฝุ่นถึงกับดีดตัวลุกจากที่นอนในทันที ให้ตายเถอะเธอเข้ามาในห้องเขาแบบนี้ได้อย่างไรกัน เป็นสาวเป็นนางบุกเข้ามาในห้องผู้ชายแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน
"เธอเข้ามาในห้องฉันได้ไงหา?"
"ก็เปิดประตูเข้ามา" ยี่หวาตอบกลับแบบไม่ต้องคิดให้ยากแถมไม่วายทำหน้าตาไขสือจนอีกคนยกมือกุมขมับ
"ฉันไม่ได้หมายถึงเธอเข้ามาแบบไหน แต่เธอเข้ามาในห้องฉันแบบไม่ขออนุญาตแบบนี้ไม่น่าเกลียดเกินไปหรือไง"
"น่าเกลียดอะไรคะ หวาก็แค่มาปลุกสามีตัวเองไปทานมื้อเช้า อย่าบอกนะว่าพี่ฝุ่นลืมว่าเราแต่งงานกัน"
ยี่หวาว่าพลันทำหน้างงไม่หาย เธอยกมือข้างซ้ายที่นิ้วนางข้างนั้นมีแหวนแต่งงานที่เขาเป็นคนสวมให้เพื่อเป็นการเตือนสติเขา เขาอาจจะลืมตัวว่าเพิ่งแต่งงานกับเธอสินะ
"เอ่อ..."
เขาเอ่ยอึกอักก่อนจะก้มลงมองนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองก็พบว่ามีแหวนเเต่งงานเช่นเดียวกันก็เกิดนึกขึ้นได้ เขาลืมถอดแหวนนี่นา ที่หนักกว่านั้นคือเขาลืมแม้กระทั่งว่าตนนั้นแต่งงานกับเธอแล้ว แต่เพราะเขาไม่คิดจะใส่ใจเรื่องนี้อยู่แล้วจึงไม่แปลก
"นั่นแหละ แต่ยังไงฉันก็ไม่ได้จริงจังอยู่แล้ว รอวันหย่าแค่นั้น" คำพูดของเขาที่พ่นออกมาแต่ละคำไม่สนคนฟังเลยสักนิดเดียว
"แต่ในระหว่างนี้เราก็ต้องใช้ชีวิตแบบสามีภรรยาอยู่ดีนะคะ"
ยี่หวายังใจดีสู้ เธอยิ้มรับพร้อมกับเอ่ยอย่างใจเย็น แต่ทว่าอีกคนกลับสวนกลับแบบไม่น่าฟังเอาเสียเลย
"ใครบอกว่าฉันจะทำแบบนั้น ฉันให้เธอแสดงตัวแค่ในครอบครัวเท่านั้น แต่ถ้าออกไปข้างนอกหรือในบริษัทห้ามเธอบอกใครเรื่องนี้เด็ดขาด เข้าใจไหม?"